“แม่สาวทอม” ขอโทษสังคม ยันลูกป่วยจิตเวช ขอโอกาสให้รักษาตัว หลัง “สาวทอม” ขโมยรถยนต์ป้ายแดงกลางห้างดัง ย่านรัชดา

แม่สาวทอมเข้าให้ปากคำ พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ยันลูกป่วยจิตจริง เหตุเครียดที่ตกงานตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด กลายเป็นคนหูแว่ว พร้อมขอโทษสังคมต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ขอโอกาสรักษาตัวและขอพื้นที่ในสังคม รับปากจะดูแลให้ดีกว่านี้

“แม่สาวทอม” ขอโทษสังคม ยันลูกป่วยจิตเวช ขอโอกาสให้รักษาตัว หลัง “สาวทอม” ขโมยรถยนต์ป้ายแดงกลางห้างดัง ย่านรัชดา – Top News รายงาน

 

กรณี นางสาวณัฐกัญญ์ อายุ 39 ปี ก่อหตุ ขโมยรถยนต์ ฮอนด้า รุ่น HRV สีดำ หมายเลขทะเบียน ฮ 7086 กรุงเทพมหานคร ที่จอดสตาร์ทเครื่อง ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา โดยมีแมวไทยสีดำชื่อมอร์ตี้ของเจ้าของรถอยู่ในรถ โดยผุ้ก่อเหตุได้ขับรถคันดังกล่าว ฝ่ารั้วเหล็ก และสิ่งกีดขวางอื่น ๆ หลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่ สนงห้วยขวางเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ก่อนจะตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ที่ซอยนาคนิวาส 16 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป้นผุ้ป่วยจิตเวช เคยมีประวัติการรักษาที่ จ.ขอนแก่น แต่ขาดการรักษาประมาณ 1 ปี กระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด วันนี้ ( 3 ต.ค.) แม่ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนงห้วยขวางโดยยืนยันว่า ลูกสาวเป็นผู้ป่วยจิตเวชจริง พร้อมกล่าว ขอโทษทุกคนและผู้ที่ได้รับผลกระทบกับเหตุเกิดเหตุการณ์นี้ ขอให้สังคมให้โอกาสและให้อภัย เนื่องจากลูกของตนป่วยไม่ค่อยปกติ ส่วนเรื่องคดีให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คราวหน้าจะดูแลให้ดีกว่านี้ หวังว่าสังคมจะให้โอกาสเข้ารักษาการบำบัด ลูกของตนมีอาชีพอยู่เบื้องหลังวงการบันเทิง ช่วงโควิดตกงาน จึงมีอาการเครียดชอบพูดคนเดียว เหมือนมีคนอยู่ข้างๆ เหมือนมีโลกอีกใบ บางครั้งก็มีอาการก้าวร้าว ลูกไม่เคยยอมรับว่า ตนเองป่วยทางจิต แต่ตนเองได้ส่งไปรักษาโรคจิตเวชที่รพ.ขอนแก่น มีอาการประมาณเกือบ 2 ปี และช่วงหลังไม่ได้กินยาต่อเนื่อง

แม่สาวทอม

ทั้งนี้ช่วงก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกระทบกระทั่ง กันเล็กน้อยภายในครอบครัว ไม่คิดว่าจะออกไปก่อเรื่อง ที่ผ่านมาเคยทะเลาะกับญาติแต่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนข้างนอก หลังเกิดเรื่อง เพิ่งได้เจอลูกซึ่งบอกว่า อยากกลับบ้าน จะขอกลับไปทานยารักษาที่บ้านได้ไหม ตนเองจึงบอกไปว่าไปรักษาบำบัดอาการให้ดีก่อน ไม่งั้นอาการป่วยจะกำเริบขึ้นอีก ตนเองขอสัญญาว่า จะดูแลลูกให้ดีขึ้น จะอบรมสั่งสอนด้วยความใจเย็น ไม่ให้เป็นภาระกับสังคมต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โรม" โวยแหลก ป.ป.ช.เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ร่วม 44 สส.ก้าวไกล ผิดละเมิดจริยธรรม รื้อแก้ ม.112
ดีเอสไอ ส่งทรัพย์พันล้าน "คดีหมอบุญ" ให้ปปง.เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย
"ปิยบุตร" หัวเหวี่ยง โวยรัฐสภาล่ม ถกแก้รธน.สารพัดโทษเพื่อไทย จบมุกเดิม 2 ขั้ว แขวะพวกล้าหลัง สวามิภักดิ์
“บิ๊กเต่า” นัด “ดีเจแมน-ใบเตย” ให้ปากคำ 19 ก.พ.นี้ ปมถูกรีดทรัพย์ 14 ล้าน
คุมตัว 10 ผู้ต้องหา แก๊งคอลฯ ลวง "ซิงซิง" ส่งตัวให้ตำรวจจีนดำเนินคดี
“อนุทิน” เคาะดินเนอร์พรรคร่วม 25 ก.พ.นี้ ยัน "นายกฯ" เข้าใจปมสภาฯ ล่ม
ผู้นำสหรัฐฯลงนามแผนตั้งภาษีตอบโต้
คุณยายเกาหลีทวงความยุติธรรมคดี 60 ปีก่อน “กัดลิ้น”ผู้ร้ายข่มขืนแต่กลายเป็นคนผิด
ผบ.ทบ. ต้อนรับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์ 2 ประเทศ พร้อมสนับสนุนไทยปราบคอลเซ็นเตอร์
เซเลนสกี้โวยโดรนรัสเซียโจมตีโดนโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น