จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พร้อมด้วย ผวจ.กาญจนบุรีนำคณะสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ศูนย์ฯสงเคราะห์บำบัดฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง หมู่ 10 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี หลังผู้ปกครอง ของผู้บำบัดยาเสพติดรายหนึ่งได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรม ให้กับลูกชาย ที่เข้ารับการบำบัด ถูกกักขัง และถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยผวจ.ได้ย้ายผู้บำบัดทั้งหมด ไปพักที่ รพ.สนาม (เขาชนไก่) ในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นการชั่วคราว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง หมู่ 10 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรีโดยบรรยากาศภายในวัด ดูเงียบเหงา หลังจากพระครูปลัดประสิทธิ์ รตินฺธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ได้มรณะภาพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 พบนายธวัช (สงวนนามสกุล) น้องชายอดีตเจ้าอาวาส ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวต่างๆ ว่า อยากขอให้ผู้เสพข่าว ได้ดูความเป็นจริงทั้งสองด้าน ถ้าหากดูด้านเดียว ทุกคนจะมองวัดเสื่อมเสียทั้งหมด ต้องมาดูความเป็นจริงว่า ในทุกเรื่องนั้นเป็นอย่างไร และที่เกิดเหตุขึ้นมาเพราะอะไร
นายธวัช เผยต่อว่า ที่นี่จะมีกฎระเบียบ มีไม้เรียวไว้ทำโทษ กรณีที่ผู้บำบัดทำผิดกฎ ที่กำหนดไว้ จะดูแลกันเหมือนพ่อแม่สอนลูก เหมือนครูสอนลูกศิษย์ ถ้าทำผิดก็มีการลงโทษ และมีบางคนพาผู้บำบัด มาส่งที่วัดแค่หนเดียว แล้วพอผ่าน2-3เดือน หรือเป็นปี โทรติดต่อไปก็ไม่รับสาย ติดต่อไม่ได้และเงียบหายไปเลย วัดก็ต้องรับภาระดูแล ก็เป็นห่วงว่าผู้บำบัดบางส่วน ที่ย้ายไปที่ รพ.สนาม (เขาชนไก่) ถ้าไม่มีญาติติดต่อไปรับ พวกเขาจะอยู่กันอย่างไร ใครจะรับผิดชอบดูแลพวกเขา
เรื่องที่เป็นข่าวว่าห้องน้ำมีแค่ 2 ห้องนั้น ก่อนหน้านี้ทางวัดรับผู้บำบัดไว้ราว 50-60 คน ต่อมาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดความแออัด ห้องน้ำที่มีจำนวน 2 ห้อง จึงไม่พอใช้ แต่ทางศูนย์แก้ปัญหา ให้ใช้ห้องน้ำด้านนอก ส่วนเรื่องการเก็บเงิน ทางศูนย์ฯจะเก็บเงินค่าเข้ารับการบำบัดจำนวน 12,000 บาท ในระยะเวลา 1 ปี โดยเข้าวัด 10,000 บาท อีก 2,000 บาท เป็นเงินไว้ให้ผู้บำบัด ซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ วันละ 60 บาท
ด้านผู้บำบัดที่สมัครใจบวชพระรูปหนึ่ง เปิดเผยว่า ที่นี่ก็มีทั้งสบายและลำบากบ้าง บางครั้งหากทำผิดกฎ ก็ถูกทำโทษบ้าง แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่แบบปกติ ในส่วนผู้บำบัดฯที่ไม่ได้บวชพระนั้น ก็มีออกไปทำกิจกรรม ตัดหญ้าบ้าง ช่วยงานวัด หล่อพระบ้าง สำหรับอาตมาแล้ว ตัดสินใจอยู่ที่วัดนี้ต่อไป เพราะที่วัดแห่งนี้ก็ดูแลดีมีความสุข
ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้วัด หลายคนต่างกล่าวถึงพระครูปลัดประสิทธิ์ รตินฺธโร อดีตเจ้าอาวาสวัด ว่า ท่านเป็นพระที่พูดตรง ดุบ้างถ้าทำผิด แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกายจนรุนแรง อาจจะลงโทษบ้างถ้าทำผิด มันเป็นกฎกติกา ที่ต้องดูแลผู้บำบัด พร้อมกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า สงสารอดีตเจ้าอาวาสฯ ขอให้เห็นแก่อดีตเจ้าอาวาสฯ บ้าง ท่านมรณภาพไปแล้ว
จิรวัฒน์-นิชาภา ศรีวิเชียร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาญจนบุรี
