ชาวบ้านโคราช ร้องสื่อ ผู้ใหญ่บ้านตัดไม้ในพื้นที่ป่าสาธารณะ 27 ต้น ขายนำเงินแบ่งกัน เรื่องเงียบนานกว่า 8 เดือน

วันที่ 20 กันยายน 2567 นายสุรศิริ ศิลป์ประกอบ อายุ 67 ปี พร้อมด้วย ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองบัวน้อย หมู่ 10 ตำบลกระทุ่มรายอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ได้พาไปดูจุด ที่นายบุญมา โพธิ์ทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ได้มีการนำพวกไปลักลอบตัดไม้ยูคาในพื้นที่ป่าสาธารณะโคกหนองพะเนียด จำนวน 27 ต้น ก่อนนำไปขายให้กับร้านรับซื้อไม้ในพื้นที่ และนำเงินมาแบ่งกัน ตั้งแต่ช่วง เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา แต่เรื่องก็เงียบหายไป เหมือนกับว่าหน่วยงานมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จึงอยากจะให้หน่วยงานลงมาตรวจสอบ

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสุรศิริ ชาวบ้าน เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ในพื้นที่ป่าสาธารณะโคกพะเนียด ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 270 ไร่ ครอบคลุมทั้งหมด 8 หมู่บ้าน ได้มีนายบุญมา โพธิ์ทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ได้เข้ามาลักลอบตัดไม้ยูคา ในพื้นที่ป่าสาธารณะ ก่อนที่จะนำไม้ยูคาจำนวน 27 ต้น ไปขายให้กับโรงไม้ในพื้นที่ และนำเงินมาแบ่งกัน โดยที่ไม่มีการประชาคมหรือแจ้งให้ชาวบ้านทราบ ส่วนสาเหตุของการตัดไม้นั้นก็ไม่ได้มีการชี้แจงว่าตัดไปเพราะอะไร ชาวบ้านจึงกลัวอิทธิพลในพื้นที่ เพราะผู้ใหญ่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เข้าไปลักลอบตัดไม้ หากไม่มีคนไปพบเห็นก็คงจะต้องมีการตัดเพิ่มเติม แต่ชาวบ้านก็มีการส่งเรื่องไปให้หน่วยงานภาครัฐ แต่เรื่องก็เงียบหายไปนานกว่า 8 เดือนแล้ว ราวกับว่ามีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ด้านนายบุญมา โพธิ์ทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เปิดเผยว่า สาเหตุของการตัดไม้ยูคา ตนเองได้พูดคุยกับเจ้าของนาในพื้นที่ โดยเจ้าของยืนยันว่าเป็นคนปลูกไม้ยูคา ตนจึงคิดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นหัวไร่ปลายนา ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ป่าสาธารณะ จึงได้ให้ทีมงานนำเครื่องจักรมาตัด เพราะถือว่าได้รับการอนุญาตจากเจ้าของนาในพื้นที่แล้ว โดยจำไม่ได้ว่าตัดทั้งหมดกี่ต้น เพราะตนเองไม่ได้มา แต่ให้ทีมงานมาแทน หลังจากนั้นได้มีการนำไปขายเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 3,600 บาท โดยแบ่งเข้ากองทุนหมู่บ้าน 1,200 บาท โดยการโอนเข้าบัญชี ส่วนที่เหลือ 2,400 บาท ได้ให้เป็นค่าแรงและค่ารถกับคนที่มาตัด โดยที่ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ตนตั้งใจที่จะพัฒนาหมู่บ้าน แต่ก็ถูกผู้ไม่หวังดี จ้องที่จะทำลาย

ด้านนายสรวิศ เหล่านิล นายอำเภอประทาย เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า หลังจากทราบเรื่อง ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพื่อที่จะส่งข้อมูลให้กับนายอำเภอและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงการสอบพยานแวดล้อม และรอพิจารณาการดำเนินการ หลังจากนี้จะต้องมีการเรียกผู้ใหญ่เข้ามาชี้แจงเพิ่มเติม และอธิบายเรื่องราวทั้งหมด ส่วนบทลงโทษนั้น จะขึ้นอยู่กับพยานและหลักฐาน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ไม่มีคำประณาม "ชาวเน็ต" ถาม "รอมฏอน" โพสต์แค่เสียใจโจรใต้ สังหารโหดชาวบ้าน เร่งรัฐเจรจาสันติภาพ
นราธิวาสเดือด! "โจรใต้" ถล่มยิงบ้าน ดับ 3 เจ็บ 2 ราย วันเดียวกัน พบป้าวัย 76 ถูกยิงดับกลางถนน
"ผอ.รพ."เมาแล้วขับ เจรจารอบ 3 ยอมจ่ายเยียวยาผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย
"กรมอุตุฯ" เตือน 42 จังหวัด รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน กทม.โดนด้วย
ฉะเชิงเทรา เปิดกิจกรรมโดรนแปรอักษร หนุนท่องเที่ยวฉะเชิงเทรา สร้างสีสันงานมหกรรมอาหารและ OTOP ฉะเชิงเทรา
ป่วนนราธิวาส! "คนร้ายโหด" ยิงถล่มบ้าน เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 2 ราย
"ม.นเรศวร" สั่งเลิกจ้าง "ดร.พอล" โดนร้องทำผิดคดี 112 ตม.ยึดหนังสือเดินทาง เหตุถูกเพิกถอนวีซ่า
สศร. เผยโฉมทัพศิลปินไทย-ต่างชาติกลุ่มสอง 15 ศิลปิน "กลุ่มศิลปิน" ร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยในงาน Thailand Biennale, Phuket 2025
"มหาดไทย" ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
ยังไม่จบ "มาดามเมนี่" อัปเดตยังได้ของคืนไม่ครบ ยื่นคำขาด 10 วัน ลั่นขอเจรจา "ดิว อริสรา" ปมยืมของหรู

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น