“ยาย-น้า” เปิดใจทั้งน้ำตา ปมครูเบญสอบติดได้อันดับ 1 แต่ชื่อหาย ด้านคนในหมู่บ้าน เริ่มไม่มั่นใจระบบราชการ หวั่นเกิดซ้ำรอย

"ยาย-น้า" เปิดใจทั้งน้ำตา ปมครูเบญสอบติดได้อันดับ 1 แต่ชื่อหาย ด้านคนในหมู่บ้าน เริ่มไม่มั่นใจระบบราชการ หวั่นเกิดซ้ำรอย

Top news รายงาน จากกรณี “ครูเบญ” น.ส.เบญญาภา สอบติดครูได้อันดับที่ 1 ได้โพสต์เรื่องราวการสอบครู แต่ผ่านไป 3 วันชื่อหาย และมีสาวอีกราย “ปิยะโสภา” นามสกุลใหญ่ ปรากฎชื่อ ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงประกาศผลการสอบตำแหน่งพนักงานราชการ สพม.สระแก้ว และชื่อ ครูเบญ หายไป จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด (19 ก.ย. 2567) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหนองติม อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อสอบถามกับญาติของ ครูเบญ ก่อนที่จะมีการเปิดผลคะแนนสอบที่ผ่านมา พบกับ นางเขียว (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นคุณยายของครูเบญ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า วันแรกที่ตัวเองรู้ข่าวว่าหลานสาวสอบได้ ตนเองรู้สึกดีใจมาก จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และยังได้แสดงความยินดีกับหลานสาว ที่ทนเฝ้าอุตส่าห์อ่านหนังสือ และส่งตัวเองเรียนมาจนสามารถจบปริญญาตรี และสอบบรรจุได้

 

 

 

แต่หลังจากนั้นอีกไม่นานก็มาทราบข่าวช็อกว่าหลานสาวของตน ชื่อหายไปจากระบบ ยอมรับว่าทุกคนในครอบครัวต่างรู้สึกตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าสภาพจิตใจของหลานสาวค่อนข้างบอบช้ำกับเหตุการณ์นี้ และต่อจากนี้ไปไม่ว่าผลการเปิดข้อสอบ ออกมาจะเป็นยังไง ตนก็ยืนยันว่าจะให้หลาน ลงสอบแข่งขันทุกสนาม จนกว่าจะทำตามฝันของตนเองสำเร็จ

 

 

ด้านน้าชายของครูเบญ เปิดเผยว่า ตอนนี้หลานสาวมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นพอสมควร แต่ตนเองก็ได้โทรสอบถามหรือพูดคุยกับหลานตลอดเวลา เพราะไม่อยากให้หลานคิดมาก ยอมรับว่าครั้งแรกที่เกิดเรื่องสภาพจิตใจค่อนข้างแย่ทั้งครอบครัว เพราะจากที่มีคำสั่งได้เผยแพร่ออกมาครั้งแรกนั้น มันค่อนข้างชัดเจนว่าหลานสาวของตนสอบติด จนกระทั่งตนเองได้มีการพูดคุยกับหลาน เพื่อเตรียมตัวไปขนของ และได้หาห้องพักที่ใกล้ที่ทำงาน พร้อมทั้งได้พาหลานไปซื้อชุด ข้าราชการครู เพื่อที่จะใส่ไปรายงานตัว แต่หลังจากนั้นมาทราบอีกทีว่า ไม่มีชื่อของหลานสาวของตนติดอันดับ ตนเองและครอบครัวรู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูก ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสอบในครั้งนี้ แต่ตนกับหลานยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน จึงทำให้หลานได้มีการโพสต์จนเป็นกระแส

 

ตอนนี้ตนเองก็ยอมรับว่ารู้สึกสบายใจมากขึ้น เพราะในวันที่ 20 ก.ย. 2567 นี้ หลานสาวก็จะรับใบปริญญา ที่ จ.นครปฐม ซึ่งตนเองก็จะไปร่วมแสดงความยินดี และต่อจากนี้ ไปก็ขอให้เรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไป หลานได้เจอแต่สิ่งดีๆ ส่วนเรื่องการประกาศผลคะแนนในวันที่ 20 กันยายน 2567 นี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ตนเองและครอบครัวก็ยินดี ที่จะยอมรับในการตัดสิน และตนเองก็ยังยึดมั่นและเชื่อมั่นในความยุติธรรม ขององค์กรการศึกษา ว่ายังคงมีความยุติธรรมและมั่นคงอยู่

 

 

ด้านคุณอารีวรรณ์  อายุ 52 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกันกับ “ครูเบญ” และเคยเห็น “ครูเบญ” มาตั้งแต่ยังเล็ก ต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คนในหมู่บ้านต่างตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็ยังอยากฝากให้ “ครูเบญ” สู้ๆ สู้ให้ถึงที่สุด ทุกคนในหมู่บ้านร่วมส่งแรงใจให้ครูเบญ ก่อนที่จะถึงวันประกาศผลในวัน ที่ 20 กันยายน 2567 นี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนเองรู้สึกขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการ การศึกษาและระบบราชการ ซึ่งลูกชายและลูกสาว ของตนเองก็กำลังเรียน และจะไปสอบรับราชการเช่นกัน ทำให้ตนเองขาดความเชื่อมั่น มีความกังวล กลัวเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกหลานของตนเช่นกัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ซีพีเอฟ-ซีพี ออลล์ จัดกิจกรรม 'Celebrate World Egg Day' รณรงค์ตามนโยบายกรมอนามัย ให้คนไทยกินไข่เพื่อสุขภาพ
"พิชัย" รุกขยายการค้าการลงทุนไทย-ออสเตรเลีย
กลุ่มต้านนิวเคลียร์ญี่ปุ่นคว้าโนเบลสันติภาพ
"มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" จับมือ "TSB-EA" ช่วยฟื้นฟูโรงเรียนน้ำท่วมเชียงราย
พูดแล้วทำ “พิพัฒน์” โชว์ผลงาน up skill ช่างเชื่อมไทย ไปทำงานอู่ต่อเรือบริษัทเกาหลี รายได้เริ่มต้นดีมาก
ศูนย์ทนาย 3 นิ้ว สบช่องหลังไทยได้รับเลือกเป็นสมาชิกคณะมนตรี UN จี้รบ.หยุดคดีการเมือง ออกกม.นิรโทษฯแก้ 112
อัปเดตสถานการณ์ยอดเหยื่อ "เฮอร์ริเคน มิลตัน" ถล่มสหรัฐฯ ยอดเสียชีวิตพุ่ง 16 ราย
เมืองพัทยา รับมอบรถไฟฟ้า EV นำร่องทดลองวิ่ง สร้างมาตรฐานกำหนดเกณฑ์ราคากลางให้ท้องถิ่น พร้อมขับเคลื่อนนโยบาย Pattaya Go Green
“ดร.เสรี” ชำแหละบทบาทหน้าที่ "พรีเซนเตอร์" จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ แม้อ้างเป็นแค่ลูกจ้าง ก็ฟังไม่ขึ้น
“บิ๊กอ้วน” เผย 3 ขั้นตอน เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ยันมีมาตรการรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในทุกพื้นที่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น