“เรืองไกร” กัดไม่ปล่อย! ไล่บี้ “อุ๊งอิ๊ง” โชว์หลักฐานพ้นกรรมการบริษัท 20 แห่ง

เขย่าเก้าอี้นายกฯ! “เรืองไกร” เปิดจุดตาย “อุ๊งอิ๊ง” ขู่หากทำเอกสารย้อนหลัง อาจเสี่ยงพ้นเก้าอี้ จี้โชว์หลักฐานลาออกกรรมการบริษัท 20 แห่ง

“เรืองไกร” กัดไม่ปล่อย! ไล่บี้ “อุ๊งอิ๊ง” โชว์หลักฐานพ้นกรรมการบริษัท 20 แห่ง

 

 

อุ๊งอิ๊ง

แตกหักชนิดไม่เผาผีกันแล้ว สำหรับพรรคเพื่อไทย เมื่อ สส.มีมติเห็นชอบ ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร่วมรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง นั่นหมายความว่า เพื่อไทยไม่แยแส “บิ๊กป้อม” อีกและเลือกที่จะเก็บ สส.กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เอาไว้ ส่งผลให้พี่ใหญ่จากบูรพาพยัคฆ์ ที่เคยเรืองอำนาจ กลายเป็นเสือแก่ที่สิ้นลายทันที

ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว เพราะไม่ทันข้ามวัน บิ๊กป้อม เปิดหน้าชก สวนหมัดกลับทันที เมื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เด็กสายตรงบิ๊กป้อม ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ หรือ อีเอ็มเอส เพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าได้มีหนังสือลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา จริงหรือไม่ และกรณีดังกล่าวจะเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่

 

ล่าสุด นายเรืองไกร กัดไม่ปล่อย แถมขย้ำซ้ำ ด้วยการส่งหนังสือทางไปรษณีย์ ถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะ เกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท ของนางสาวแพทองธาร เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 67 ก่อนได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 67 โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ได้ลงนามในหนังสือลาออกทั้ง 20 บริษัทจริงหรือไม่ มีสำเนาใบลาออกที่ลงรับโดยแต่ละบริษัท โดยถูกต้องตามวันและเวลาหรือไม่

ข่าวที่น่าสนใจ

ตนเองได้คัดเอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาตรวจดู พบว่า นางสาวแพทองธารได้ลาออกจากกรรมการบริษัทต่าง ๆ รวม 20 บริษัท โดยทั้ง 20 บริษัท ไปจดทะเบียนวันที่ 19 สิงหาคม 67 ระบุตรงกันว่า ให้แก้ไขเพิ่มเติมจำนวนกรรมการของบริษัท เป็นดังนี้ กรรมการออกจากตำแหน่ง 1 คน คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และในแบบคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด ระบุว่า ได้มีหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการของนางสาวแพทองธาร ลงวันที่ 15 สิงหาคม 67 มีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งบริษัททั้ง 20 แห่ง มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ต่างกัน คือ

 

อย่างไรก็ตาม การไปจดทะเบียนว่าบริษัททั้ง 20 แห่ง ได้รับหนังสือลาออกในวันเดียวกัน คือวันที่ 15 สิงหาคม จึงน่าสงสัยว่า หนังสือลาออกที่แต่ละบริษัทระบุว่าได้รับ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เหตุใดจึงไปจดทะเบียนวันที่ 19 สิงหาคม 67 ควรมีการนำหลักฐานมาแสดงให้ดูว่า แต่ละบริษัทได้รับหนังสือลาออกอย่างไร มีการลงเลขที่รับ และวันเวลาไว้หรือไม่

 

 

 

นายเรืองไกร กล่าวย้ำด้วยว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่า อะไรที่ทำแล้ว และขัดต่อกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการให้หมด ซึ่งขณะนี้ทีมกฎหมายกำลังช่วยกันดำเนินการ แต่จะกี่บริษัทไม่แน่ใจนั้น เพื่อพิสูจน์ความจริง เกี่ยวกับการลาออกจากการเป็นกรรมการใน 20 บริษัทดังกล่าว จึงขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทีมกฎหมาย นำเอกสารออกมาโชว์ หรือแสดงต่อสาธารณะทันที เพื่อให้แน่ใจว่า มีการลาออกจริงตามวันเวลาดังกล่าว และสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันต่อ กกต. ตามที่ได้มีการยื่นตรวจสอบไปแล้วด้วย เพราะหากการลาออกถูกต้องตามวันเวลาดังกล่าวจริง ก็ไม่มีปัญหาต่อการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่หากการลาออกมีการทำเอกสารย้อนหลัง หรือลาออกจริง หลังจากวันที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็อาจมีประเด็นให้ กกต. ตรวจสอบว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องสิ้นสุดลงเฉพาะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"Top Biz Insight" เปิดเบื้องหลังธุรกิจ "ทหารรับจ้าง" PMSCs ค่าตอบแทนไม่ธรรมดา ความเลวร้ายที่ "กัมพูชา" ไม่สิทธิใช้กับประเทศไทย
จับเครือข่ายสิ่งเสพติดรายใหญ่ บรรจุอาหารกระป๋อง
“ซาบีดา” เปิดโครงการต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีเมืองสวรรค์ หนุนอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ สร้างพลัง Soft Power จังหวัดนครสวรรค์
ผู้ตรวจการอัยการลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการในพื้นที่ภาค 8
สภ.เมืองเชียงราย จับกุมผู้ต้องหาลอบขนยาบ้า 2 แสนเม็ด ขณะขึ้นรถทัวร์จะมุ่งหน้าเข้า กทม.
รวมพลัง! ราชการ–เอกชน–ปชช. แห่บริจาคหนุน “เพชรบูรณ์พาโชค” เตรียมลุยงานมะขามหวาน 2569

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​