“พรรคส้ม” โหมโรงไว้เยอะ ต้องชนะสถานเดียว แพ้ขึ้นมาหน้าแตกยับ

ต้องยอมรับนาทีนี้ บ้านใหญ่ทุกจังหวัดต่างหวาดกลัว “พายุส้ม” กันเป็นทิวแถว  เพราะกลัวกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลง ที่เป็นผลพวงจากความส่งสารเห็นใจ  “พรรคก้าวไกล”โดนยุบพรรคคดีล้มล้างการปกครองฯ  ขณะเดียวกันบิ๊กเนม “พรรคก้าวไกลเดิม” ขยันลงพื้นที่ถี่ยิบ อัดฉีดแคมเปญผ่านโซเซียลมิเดียอย่างหนัก  รณรงค์ให้การเมืองบ้านใหญ่เลิกผูกขาดการเมืองท้องถิ่น  เปิดทางให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงได้เข้าไปทำหน้าที่บ้าง

ยิ่งไปดูผลการเมืองตั้งครั้งที่ผ่านมา คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ “พรรคก้าวไกลเดิม” นำโด่ง ทิ้งห่าง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ “วิวัฒน์ นิติกาญจนา” สังกัดหลายเท่าตัว ทิ้งห่างกันเป็นแสนคะแนน  จึงทำให้ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ฮึกเหิมกล้าเปิดหน้าชกในสนามเลือกตั้งนายกอบจ.จังหวัดราชบุรี ส่งผู้สมัครในนามพรรคเปิดตัวอย่างเป็นทางการ  ไม่ปล่อยให้ผู้สมัครบางจังหวัดแอบใช้สีส้มไปเดินสายหาเสียงเหมือนผู้สมัครนายกอบจ.จังหวัดอื่น ๆ ที่เป็นตัวแทนพรรคแต่ไม่กล้าเปิดหน้าชก เพราะกลัวแพ้ขึ้นมาจะเสียหน้า  ดังนั้นสนามนายกอบจ.จังหวัดราชบุรี “พรรคก้าวไกลเดิม” ตั้งใจจะกู้หน้า  ที่เคยแพ้ราบคาบศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายกอบจ. ใน 3 จังหวัดใหญ่ คือ พิษณุโลก พะเยา  และ ชัยนาท จนถูกมองกันว่า พายุส้ม ไม่ได้ปังอย่างที่คิด

ตัวอย่างที่พรรคก้าวไกลเดิมพ่ายแพ้ เช่น “วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์” หรือ อุ๊กรุงสยาม ผู้สมัครนายกอบจ.พระนครศรีอยุธยา “พรรคก้าวไกลเดิม” แอบหนุนหลังอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้ส่งในนามพรรค พ่ายแพ้ “ซ้อสมทรง” หรือ สมทรง พันธ์เจริญวรกุล ที่อยู่ค่ายเสื้อน้ำเงินแห่งพรรคภูมิใจไทย  จึงทำให้ “พรรคก้าวไกลเดิม” ทำปากแข็งว่า จะมายัดเยียดว่าพายุส้มแผ่วได้อย่างไร เพราะไม่ได้ส่งในนามพรรค