บรรยากาศภายในศาลอาญารัชดา พบมีกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาร่วมจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้ศาลพิจารณาให้ประกันตัวแกนนำกลุ่มราษฎร ซึ่งระหว่างการชุมนุมมวลชนได้มีการนำข้อความและภาพมาชู โดยมีป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนข้อความว่า 45 วัน #คืนสิทธิ์ประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมยังได้มีการชูมือสัญลักษณ์ 3 นิ้ว พร้อมตะโกนว่าปล่อยเพนกวิน อย่างต่อเนื่อง
ต่อมา เวลา 12.30 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส. พรรคก้าวไกลบางส่วน เช่น นายรังสิมันต์ โรม และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ การยื่นขอประกันตัวแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร
โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาสุขภาพของนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน กระบวนการให้ประกันตัวในคดีการเมืองมาตรา 112 กำลังสะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย กฎหมายกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ในการปราบปรามผู้ที่เห็นต่าง ผู้พิพากษาในกระบวนการยุติธรรมถูกตั้งคำถาม ว่าใช้กฎหมายอย่างบิดเบือนหรือไม่ ในการไม่ให้ประกันตัวหลายครั้ง ไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย โดยหวังว่าศาลจะทบทวนการพิจารณา เพราะนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้าย ที่จะทำให้ความศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ยังคงหลงเหลืออยู่
ส่วนกรณีการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ที่ทาง ส.ส.พรรคก้าวไกล เสนอรองเลขา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือมาที่พักก่อนหน้านี้เพื่อแจ้งว่า การยื่นเสนอของพรรคก้าวไกลอาจจะขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญในมาตราที่ 6 ซึ่งจากการทบทวนแล้วทางพรรคก็ยังยืนยันว่า ไม่มีการขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญ
ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องแลกกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด กับการนำแกนนำราษฎรและแนวร่วมเข้าเรือนจำ นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในฐานะที่ตนก็เคยเรียนนิติศาสตร์ เช่นเดียวกับผู้พิพากษาที่ก็เรียนนิติศาสตร์เช่นกัน ขอให้ใช้ความรู้สึกทำหน้าที่ในการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น หมดเวลาแล้วที่จะนำคนไปกักขังโดยไม่มีเหตุ ส่วนตัวมองว่ามีความจำเป็นต้องปล่อยตัวแกนนำ ไม่ใช่ว่าละเว้นการดำเนินคดี แต่กระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการต่อไปเพื่อหาความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย ไม่อยากเห็นใครที่ต้องเสียชีวิตจากการไม่ได้รับการประกันตัว
โดยเมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง บริเวณบันไดทางขึ้นศาลอาญาว่าขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาให้กำลังใจเคารพสถานที่และอย่าละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตนเข้าใจว่าต้องการเดินทางมาให้กำลังใจแต่ขอให้อยู่ในความสงบ และอย่ากระทำการใดที่ขัดต่อหลักกฎหมาย เพราะในบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้ตลอดเวลา
ต่อมา น.ส.เบนจา อะปัญ แกนนำแน่วร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาให้กำลังใจ มายื่นรายชื่อตามแคมเปญล่ารายชื่อยุติ “ราชอยุติธรรม” ทั้งหมด 11,035 รายชื่อ เพื่อขอยื่นต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเพื่อเรียกร้องการให้ประกันตัวของเหล่าแกนนำคณะราษฎรที่ยังถูกจำคุกอยู่ใยเรือนจำในคดีอาญามาตรา 112
นางสาวเบญจา ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเรียกร้องให้นายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เดินทางมารับมอบหนังสือกฎหมาย และรายชื่อทั้งหมดด้วยตัวเอง ต่อมานายชนาธิป ได้เดินทางลงมาสังเกตการณ์บริเวณจุดที่ผู้ชุมนุมรวมตัวกันทำกิจกรรม ทันใดนั้นที่ผู้ชุมนุมได้สังเกตเห็นได้มีการตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ศาลทำให้ นายชนาธิป เดินกลับเข้าไปในตัวอาคาร
ต่อมาเวลา 15.00 น. น.ส.เบญจา ได้นำเครื่องขยายเสียงมาประกาศบริเวณบันไดทางขึ้นศาลอาญาอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้ นายชนาธิป เดินทางมารับเอกสารทั้งหมดแต่ไร้วี่แววของเจ้าหน้าที่ศาล จากนั้น น.ส.เบญจา จึงได้วิ่งขึ้นบันไดพร้อมโปรยกระดาษเอกสารรายชื่อจนเต็มทางขึ้น-ลง รวมทั้งกลุ่มมวลชนก็เริ่มตะโกนเสียงดังขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาดูแลสถานการณ์ พร้อมประกาศการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นเป็นความผิดทางด้านกฎหมายขอให้ชุมนุมกันอย่างสงบ จึงควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาต่อมา
16.15 น. น.ส.เบญจา อะปัญ หนึ่งในสมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศระดมพลมวลชนให้เดินทางมาที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษกเพื่อร่วมกันกดดันให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวแกนนำราษฎรที่อยู่ในเรือนจำ
โดย น.ส.เบญจา ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่ามีข้อมูลว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนพร้อมกับรถควบคุมผู้ต้องขังกำลังเข้ามาในพื้นที่
16.20 น. ไบรท์-นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีนำ กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน เคลื่อนย้าย แผงเหล็กกั้น เพื่อนำไป กีดขวางรถเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาในบริเวณที่มีกลุ่มมวลชนอยู่
16.30 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศาลมีการพูดคุยกับทนายความว่า ผลการประกันตัวของแกนนำราษฎรจะ เริ่มอ่านก็ต่อเมื่อกลุ่มมวลชนบริเวณด้านหน้าศาลออกจากพื้นที่
16.50 น.ส.เบญจา ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศาลว่าจะมีการประกาศ คำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผ่านระบบออนไลน์ในวันพรุ่งนี้(30 เม.ย.) แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืนยันว่าจะปักหลักอยู่บริเวณด้านหน้าศาลอาญา(บันไดทางขึ้น)เช่นเดิม พร้อมปลุกระดมมวลชนให้มาร่วมกันชุมนุมยืน หยุด ขังที่บริเวณดังกล่าว
