เร่งล่าตัว “บาส” โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 40 บาท เพื่อนเล่าละเอียดถูกยืมรถมาก่อเหตุ

เร่งล่าตัว "บาส" โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 40 บาท เพื่อนเล่าละเอียดถูกยืมรถมาก่อเหตุ

เร่งล่าตัว “บาส” โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 40 บาท เพื่อนเล่าละเอียดถูกยืมรถมาก่อเหตุ

จากกรณีวานนี้ (18 ก.ค.67) เกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าชิงทองคำ น้ำหนักรวม 40 บาท จากห้างทองออโรร่า ตั้งอยู่ภายในห้างดังย่านถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ก่อนหลบหนีไป โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟสีน้ำเงิน ทะเบียน 3ขข 9636 กรุงเทพฯ ด้านหลังมีกล่องใส่พัสดุสีส้ม จอดไว้ด้านหลังร้านกาแฟอเมซอน ซึ่งอยู่ด้านข้างของตัวห้าง หลังก่อเหตุได้ขี่รถออกไปทางหน้าห้างออกสู่ถนนรามคำแหง

 

บาส

 

ต่อมา พันตำรวจเอก กฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี นำกำลังชุดสืบสวน สน.มีนบุรี และกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน โดยพนักงานของร้าน เล่าเหตุการณ์ว่า มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่ 2 คน จากนั้นมีคนร้ายเป็นผู้ชาย สูงประมาณ 175 เซนติเมตร ปิดหน้ากากอนามัยสีดำ สวมชุดดำ ใส่เสื้อมีฮู้ด สะพายกระเป๋า สายสีแดง เดินเข้ามาภายในร้าน แล้วปีนขึ้นไปเหยียบบนตู้โชว์ทองคำ เข้าไปกวาดสร้อยทองรูปพรรณ จากถาดภายในตู้โชว์ด้านหลังออกไป น้ำหนักประมาณ 40 บาท ก่อนวิ่งออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 นาที

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา นายอรรถพล อายุ 26 ปี ได้แจ้งตำรวจ สน.บางชัน ว่า เพื่อนได้ยืมรถจักรยานยนต์ไปแล้วนำรถมาจอดทิ้งไว้ภายในซอยราษฎร์พัฒนา23 ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กิโลเมตร พร้อมกับสร้อยคอทองคำ 3 เส้น ในกล่องใส่พัสดุ มีประทับตราร้านทองด้วย จึงเกรงว่าจะไปก่อเหตุมา จึงได้แจ้งให้ตำรวจไปตรวจสอบ พบสร้อยคอทองคำ 3 เส้น บิลเงินสด 1 ใบ และหมวกเดินป่า 1 ใบ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งในขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

 

 

โดยนายอรรถพล เล่าว่า เพื่อนชื่อ นายพงษ์ศธร มะหะมาน หรือ บาส ซึ่งเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และได้แยกย้ายกันไปหลังเรียนจบ จนกระทั่งบังเอิญมาพบกันในร้านเกมเมื่อ 2 เดือนก่อน และได้ติดต่อคบหากัน และในช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. นายพงษ์ศธร ได้มายืมรถจักรยานยนต์ โดยอ้างว่าจะไปซื้อกับข้าว แต่ตนเองเห็นว่าใช้เวลานานเกินไป จึงได้โทรศัพท์ตาม ต่อมานายพงษ์ศธร ได้นำรถมาคืน พร้อมสร้อยคอทองคํา จากนั้นไม่นาน ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมแจ้งว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นคันที่ใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์ จึงขอให้ไปที่ สน.มีนบุรี เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

ทั้งนี้ หลังจากที่ตำรวจลงพื้นที่เก็บหลักฐาน ซึ่งทางตำรวจได้ให้เพื่อนของนายพงษ์ศธร วิดีโอคอลหาทราบว่านายพงษ์ศธร ไหวตัวทัน และได้ขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โฆษกกองทัพบก" แจงกมธ.มั่นคง ยืนยัน ทบ. ไม่มี IO ปัดทำเพจด้อยค่า "นักการเมือง" ย้ำหากเจอแจ้งดำเนินคดีได้เลย
"พิพัฒน์" ร่วมวันแรงงานฯ มอบของขวัญ โครงการ “ทุนอาชีพ”ดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 1.2 แสนล้าน เอื้อนายจ้าง-ลูกจ้าง สร้างโอกาส อาชีพใหม่ เพิ่มรายได้
"ไทย-กัมพูชา" ประชุมจีบีซี ครั้งที่ 17 สานสัมพันธ์ 2 ประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจ ใช้มาตรการเข้มแนวชายแดน ร่วมมือแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์
"เบนซ์ เรสซิ่ง" แจ้งจับมือดีตัดต่อคลิป ชักชวนเล่นพนัน
ตร.จ่อแจ้ง 2 ข้อหาหนัก "ผอ.รพ." เมาซิ่งชน "2 ผู้ช่วยช่างภาพทีวี" เจ็บสาหัส
"เครือข่ายปชช." ยื่นหนังสือถึงกองทัพ ก่อนประชุม GBC แนะเจรจาปมเขตแดนก่อน ขอรบ.ยึดมั่นประโยชน์ประเทศ
ไฟไหม้ตลาดเสื้อผ้าชื่อดังกลางเมืองหลวงจอร์เจีย
“พล.ท.นันทเดช” ชี้กฎกรรมเริ่มทำงาน คนผิดไม่มีทางหลุดพ้น เชื่อไม่รอดถึงตั้งกาสิโน
ปชช.หลั่งไหลวัดโสธรพาครอบครัวขอพรวันแรงงาน
ผู้การแปดริ้ว มอบใบประกาศเกียรติการปฏิบัติงานดีเด่นด้านงานปราบปรามสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น