ปล่อยตัวแล้ว “ลุงขโมยลูกชิ้น” โผกอดพ่อ-แม่ชรา ลั่นไม่ทำอีกแล้ว คำแรกจากแม่ “ประพฤติตัวให้ดีนะลูก”

"ลุงธง" วัย 50 ปี ผู้ต้องหาคดีขโมยลูกชิ้น 300 บาท ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว รู้สึกเสียใจสำนึกผิด และดีใจที่ได้กลับบ้านไป

ปล่อยตัวแล้ว “ลุงขโมยลูกชิ้น” โผกอดพ่อ-แม่ชรา ลั่นไม่ทำอีกแล้ว คำแรกจากแม่ “ประพฤติตัวให้ดีนะลูก” – Top News รายงาน

จากกรณี สภาทนายความยื่นมือให้ความช่วยเหลือคดีของ นายบุญเที่ยง พิทักษ์พันธุ์ หรือ “ธง” อายุ 50 ปี ชาวอ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ หลังก่อเหตุขโมยลูกชิ้นยืนกินมูลค่า 300 บาทไปจากหน้าร้าน โดยเหตุจากความรำเค็ญต้องการนำอาหารไปให้พ่อแม่ที่ป่วยติดเตียง ภายหลังทางร้านแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากมีภาพวงจรปิดเป็นหลักฐาน ทางตำรวจแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ก่อนคุมฝากขังศาลตามขั้นตอนกฎหมาย โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้แต่ต้องมีญาติมาทำสัญญาเพื่อปล่อยตัวชั่วคราว แต่กลับไม่มีใครมาช่วยเหลือ ทำให้ต้องถูกขังยาวในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์นานเต็ม ๆ 48 วัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (12 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ปล่อยตัว นายบุญเที่ยง หลังจากถูกฝากขังครบ 12 ผลัด หรือ 48 วันผ่านตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว โดยมี นางพิมพ์พร พิทักษ์พันธุ์ อายุ 59 ปี พี่สาวนายธง พร้อม นายวุฒิกาญจน์ กุลสุวรรณ ประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ มารอรับกลับไปยังบ้านพัก อ.ลำปลายมาศ โดยก่อนจะขึ้นรถ นายบุญเที่ยง เปิดเผยสั้น ๆ ว่า ดีใจที่พี่สาวมารับ ขณะที่อยู่เรือนจำ 48 วัน รู้สึกสำนึกผิดและเสียใจมาก คิดถึงพ่อแม่มาก ดีใจที่ถูกปล่อยตัวจะได้กลับไปเจอหน้าพ่อแม่อีกครั้ง

เมื่อไปถึงนายบุญเที่ยง ได้โผเข้าไปหาพ่อและแม่ด้วยความดีใจ คำแรกจากนางอุย พิทักษ์พันธุ์ อายุ 89 ปี แม่นายบุญเที่ยง บอกกับลูกชาย คือ “ประพฤติตัวให้ดีนะลูก” โดยนายบุญเที่ยง รับปากว่าหลังจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว

ด้าน นายวุฒิกาญจน์ กุลสุวรรณ ประธานสภาทนายความ กล่าวว่า หลังจากนี้สภาทนายความจะเข้ามาดูแลด้านข้อกฎหมาย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ กรณีนี้ถึงแม้จะมีโทษสูง แต่การก่อเหตุเป็นลักษณะทำไปด้วยความแร้นแค้น หากไม่เคยก่อเหตุมาก่อนศาลอาจจะเห็นใจพิจารณาในทางที่สมควร เพราะต้องมีภาระเลี้ยงดูพ่อแม่

 

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า ร้านขายลูกชิ้นผู้เสียหายในคดีนี้แจ้งว่า หลังจากทราบว่า นายบุญเที่ยง ก่อเหตุไปเพราะความรำเค็ญแล้ว ได้พยายามขอถอนแจ้งความแต่เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ ตำรวจต้องทำคดีต่อไป ถ้าไม่ทำก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาได้ถูกโซเชียลตำหนิทั้งที่เป็นผู้เสียหาย จึงอยากชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"TOPNEWS" คืนจอทีวีดาวเทียมช่อง 77 ตั้งเป้าสู่ศูนย์กลางสื่อเพื่อประชาชน
"สมชัย" แซวเจ็บเพื่อไทยยื่นคำขาด ภท. เทียบ "ฮุนเซน" ลั่นปิดด่าน สุดท้ายต้องแก้ตัว โทษสื่อลงผิดเอง
"นายกฯ" ถอนหายใจแรง โดนสื่อซัก ปมปรับครม. "อนุทิน" ลั่นพร้อมเป็นฝ่ายค้าน
"ฮุนเซน" พล่านแซะไทย ตั้งทีมฉก.ตอบโต้ข่าว กลัวอะไรแค่โพสต์เฟซบุ๊กพูดความจริงเรื่องในกัมพูชา
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ไปดู'หวีจากเขาสัตว์' หนึ่งในสามสมบัติเก่าแก่ในฝูโจว
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) พิพิธภัณฑ์ 'กำแพงเมืองจีน'เปิดรับแขกในเหอเป่ย
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ท้าไปลอง! โรยตัวผาสูง'นั่งจิบชากาแฟ'ในกุ้ยโจว
"พล.ท.นันทเดช" ชี้ "เพื่อไทย" ได้ไม่คุ้มเสีย ถ้าดึงมหาดไทยคืน ผลักภท.เป็นฝ่ายค้าน
"ฮุน มาเนต" โชว์กร่าง แขวะ "นายกฯอิ๊งค์" กล่าวหาไม่มืออาชีพ โพสต์เฟซบุ๊กปั่นกระแส โบ้ยไทยข่มขู่กัมพูชา ลั่นอดทนมามาก
สดุดีวีรชน "มทภ.4" ส่งร่างทหารกล้าอย่างสมเกียรติ เสียชีวิตจากเหตุลอบยิง ที่บ.วังหิน จ.ยะลา กลับสู่บ้านเกิด จ.ภูเก็ต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น