ล่าสุดในโลกโซเชียลมีการหยิบข้อมูล มานำเสนออีกด้านว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2568 “ช่อ พรรณิการ์” เคยให้สัมภาษณ์ช่อง 7HD รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและกองทัพ โดยระบุบางช่วงตอนว่า ปัญหาชายแดนที่กลับมาประทุอีกครั้ง ตนคิดว่าเพราะต้องการเบี่ยงประเด็นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสแกมเมอร์
กรณีกัมพูชารุกรานไทย ไทยมีสิทธิที่จะตอบโต้กลับอย่างชอบธรรมและได้สัดส่วน แต่เราก็ต้องคำนึงถึงประชาคมโลกด้วย ตนคิดว่าคนไทยต้องมีสติ โดยเฉพาะนายกฯ ในตอนนี้ไม่ควรทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น เช่น การฉีกสัญญาสันติภาพ ซึ่งทำให้จากเดิมที่กัมพูชาเป็นฝ่ายผิด กลายเป็นว่าไทยและกัมพูชาไม่อยู่ในร่องในรอยและถูกมองว่ามีความผิดพอ ๆ กัน จึงเห็นว่าต้องแก้ที่ตัวนายกฯ เพราะคำพูดของนายกฯ สำคัญมาก ดังนั้น วันนี้คนที่ต้องตั้งสติมากที่สุดคือนายกฯ

ขณะที่ เพจ เฟสบุ๊ก “หมึกซึม” ได้โพสต์ ว่า ถอดแบบคำต่อคำ ในรายการถกไม่เถียง ยังไม่นับรายการอื่นๆ ที่ช่อเที่ยวไปพล่าม แล้วมาบอกว่าถูกใส่ร้าย ที่หาว่าใส่ร้าย หากเอาคลิปในรายการไปเป็นหลักฐานในศาลบริบทที่ช่อ พยายามทำหน้าที่ห่วงประชาชนที่ไม่รู้ว่าทหารจะทำอะไรยังไง จะยึดเขมรตัดหัวตระกูลฮุน เอากัมพูชามาเป็นอีกจังหวัดของไทย
รวมถึงประโยคนี้ ในความหมายก็คือ กองทัพต้องเปิดเผยเพื่อให้ประชาชนทราบ รวมถึงเตรียมคำชี้แจงต่อต่างชาติ โดยรวมตลอดทั้งรายการ นอกจากจะบอกว่าอนุทินเล่นละครแล้ว เนื้อหาคือการบอกให้ทหารต้องเปิดเผยแผนการรบให้ประชาชนนั่นแหละ
ความตั้งใจของช่อ คือพยายามสื่อทำให้ประชาชนรู้สึกว่าตัวเองกำลังลำบากแบบไม่รู้อนาคต เพราะทหารไม่พูดอะไรเลย ซึ่งคำถามที่เธอยิงใส่พิธีกร นั่นคือ แผนการรบทางทหารทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “ไหนแผน ในการเตรียมความพร้อมการรบ” ประโยคนี้ความหมายของมันคือเรียกให้กองทัพกางแผนออกมาให้ดู
“จะรบให้เบ็ดเสร็จเมื่อไหร่” การเตรียมความพร้อม ก็เท่ากับบอกว่าเรามีเตรียมกำลังพลบุกเมื่อไหร่ และอาวุธอย่างไร นั่นก็คือบอกแผนการรบ
“เราจะบุกเข้าไปยึดพื้นที่ตรงไหน ลึกเข้าไปเท่าไหร่” นั่นก็คือบอกพิกัดของแผนการรบ
“ตกลงเราพร้อมใช่ไหม” นั่นคือกองทัพต้องออกมาชี้แจง ว่าเราพร้อมอย่างไร เท่ากับแก้ผ้าเปิดเผยแผนการรบ
ความมันปาก และความมั่นหน้าของช่อ ที่เที่ยววิ่งรอกออก ทุกรายการที่เชิญ หรือไปออกได้ด้วยวิธีการใดๆ แบบถี่ยิบยิ่งกว่าดาราคิวทอง เพื่อพยายามจะสื่อสาร เพื่อด้อยค่าคนอื่น โดยเฉพาะทหาร และรัฐบาล ด้วยชุดวาทะกรรมเพื่อดึงมวลชนให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนรัฐบาลหลอก
เหมือนกับตอนที่พยายามปั่นข่าววัคซีนโควิด ที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีใครตอบคำถามเรื่องเมื่อไหร่วัคซีนเทพจะมา เนื่องจากออเดอร์ ในอเมริกา ก็ยังไม่สามารถระบุปริมาณที่ต้องใช้ในอเมริกายังไม่ได้เช่นกันเพราะคนติดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่มีใครสามารถตอบแทนอเมริกาได้ นั่นคือถ้าทหารไม่ออกมาชี้แจงในสิ่งที่ไม่สามารถชี้แจงได้ ก็จะเข้าทางช่อ และพรรคประชาชน
แต่กลับกลายเป็นว่าชุดความคิดของตัวเองที่กลับมาถีบยอดหน้าตัวเอง แล้วทีนี้จะโทษใครดี มุกตั้งคำถามเพื่อไม่ให้ได้คำตอบตอนนี้มันย้อนศรกลับเข้าตัวเองเพราะมันเป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติ ประเทศชาติ และอธิปไตยของไทย ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเล่นการเมือง
