ฝรั่งเศสวุ่นหนัก หลังเจอภาวะสภาแขวน มาครงปฏิเสธไม่ให้นายกฯลาออก ดิ้นรักษาความน่าเชื่อถือ ก่อนเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในอีก 3 สัปดาห์
หลังผลการเลือกตั้งรอบชี้ขาดเมื่อวันอาทิตย์ ปรากฏว่า ไม่มีพรรดใดครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา โดย นิว ป๊อปปูลาร์ ฟรอนต์(NFP) พันธมิตรการเมืองฝ่ายซ้ายกวาดที่นั่งมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนกลุ่มสายกลางของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง มาเป็นอันดับ 2 และพรรคเนชันแนลแรลลี (RN) ฝ่ายขวาจัดของมารีน เลอแปน มาเป็นอันดับสาม ทำให้การเมืองฝรั่งเศสขณะนี้ส่อเค้าความวุ่นวาย จากการเจรจาที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ 3 สัปดาห์ก่อนที่ปารีสจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในวันที่ 26 กรกฎาคม
เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี เกเบรียล อัททาล จากพรรคแนวร่วมสายกลางได้ยื่นลาออก แต่มาครงได้ขอให้อัททาลยังทำหน้าที่ต่อไปชั่วคราว เพื่อดูแลการแข่งขันโอลิมปิก และรักษาเสถียรภาพของประเทศ ยังไม่ชัดเจนว่า มาครงจะพยายามคงรัฐบาลรักษาการไว้จนกว่าการแข่งขันโอลิมปิกจะจบลงในวันที่ 11 สิงหาคมหรือไม่ แต่พันธมิตรฝ่ายซ้าย ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด กำลังผลักดันให้เสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งแทนอัททาล
นอกจากอัททาลแล้ว เจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งดูแลการเตรียมการด้านความปลอดภัยสำหรับมหกรรมกีฬา ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ ก็จะยังคงอยู่ในตำแหน่งเช่นกัน
ขณะเดียวกัน สหภาพแรงงานของพนักงานสนามบินหลัก 2 แห่งของปารีสออกมาประกาศว่า พวกเขาเตรียมจัดประท้วงหยุดงานสัปดาห์หน้า เพื่อเรียกร้องเงินโบนัส ในการที่ต้องทำงานหนักขึ้นในช่วงโอลิมปิก ซึ่งการหยุดงานประท้วงในวันที่ 17 กรกฎาคม จะเกิดขึ้นก่อนที่นักกีฬาจะเดินทางมาถึง เพื่อเข้าพักในหมู่บ้านโอลิมปิกในอีกไม่กี่วัน
นอกจากกลุ่มพนักงานสนามบินแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐ ได้แก่ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ คนเก็บขยะ ข้าราชการรัฐบาลกลาง พนักงานขับรถรถไฟใต้ดินและรถไฟ รวมถึงนักดับเพลิง ล้วนต้องการเรียกร้องค่าตอบแทนล่วงเวลา ในการทำงานในช่วงโอลิมปิก ทำให้ โทนี่ เอสตันเกต์ ประธานจัดงานโอลิมปิก เรียกร้องให้มีการพักรบชั่วคราวระหว่างสหภาพแรงงานและนายจ้าง เพื่อการเป็นเจ้าภาพอย่างราบรื่น
คณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกปารีสเน้นย้ำว่า ข้าราชการอาวุโสที่รับผิดชอบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน เช่น ความปลอดภัยและการขนส่ง จะยังคงเดิม แม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม ขณะที่พวกเขากล่าวว่ากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งกลางวันและกลางคืน
อีกทั้งข่าวการเลือกตั้งขณะนี้ ได้บดบังข่าวกีฬาโอลิมปิกโดยสิ้นเชิง โดยสื่อท้องถิ่น ให้ความสำคัญกับการเสนอข่าวการเมือง มากกว่าจะออกข่าวเกี่ยวกับการเตรียมการโอลิมปิก ที่ใกล้จะสร้างเสร็จทั่วเมืองหลวง
