X

ค่าแรง 400 บาท 1 ต.ค.เฮทั้งประเทศ

ค่าแรง 400 บาท 1 ต.ค.2567 เฮทั้งประเทศ

เวียนบรรจบอีกครั้งสำหรับวันที่ 1 พฤษภาคม หรือที่เราเรียกกันว่า วันแรงงานแห่งชาติ โดยปีนี้มีประเด็นที่น่าจับตามองการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศจะเป็นไปตามนโยบายหาเสียงของรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะการประกาศเจตนารมย์ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันแรงงงานแห่งชาติด้วยความเข้มข้นว่า “แรงงานไทยต้องมีเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรม เพียงพอที่จะดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี มีความปลอดภัยในการทำงาน เข้าถึงระบบสวัสดิการได้อย่างเหมาะสม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีครับ หยาดเหงื่อของพี่น้องแรงงาน เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ ผมไม่ลืมคำมั่นสัญญาที่จะยกระดับเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ ลดรายจ่าย เพิ่มเงินในกระเป๋า เพราะเข้าใจถึงความลำบากของทุกท่านที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตที่ดีขึ้นครับ

มาถึงวันนี้ต้องจับตาดูว่า ผู้ใช้แรงงานไทยยิ้มรับข่าวดีกับค่าแรง 400 บาทหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานได้ทยอยปรับขึ้นค่าจ้างนำร่องไปแล้วใน 10 จังหวัดพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ และระยอง

ทั้งนี้หากไม่มีอะไรผิดพลาดค่าแรง 400 บาท จะถูกนำเข้าประชุมคณะกรรมการอีกครั้งในวันที่ 14 พฤษกาคม และคาดว่าจะมีการประกาศใช้ ค่าจ้างอัตราใหม่ทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567

การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันในปีแรก และมีเป้าหมายปรับขึ้นไปจนถึง 600 บาทให้ได้ภายในปี 2570 ซึ่งต้องยอมรับว่าถือเป็นงานหินของรัฐบาลที่จะทำให้ค่าแรงขั้นต่ำก้าวกระโดดไปถึง 600 บาทในอีก 3 ปีข้างหน้า

การดำเนินการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลได้มีปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2567 อัตราค่าจ้างต่อวันอยู่ระหว่าง 330-370 บาท ซึ่งแบ่งตามพื้นที่ ไม่เท่ากันทุกจังหวัด โดยเป็นไปตามมติคณะกรรมการค่าจ้างที่ประกอบด้วยฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ ท่ามกลางการขอให้ทบทวนมติดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีให้เป็น 400 บาททั่วประเทศ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

ตลอดเวลาแม้กระทรวงแรงงานจะยืนยันหนักแน่นว่า แรงงานเป็นกำลังผลักดันเศรษฐกิจสังคมไทย จึงต้องได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่เหมาะสม แต่ประเด็นดังล่าวทำให้เกิดข้อถกเถียงกับฝั่งเอกชนที่เป็นนายจ้างว่า การปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงจะทำให้เกิด ผลกระทบต่อประชาชน และภาคธุรกิจ เพราะเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

อย่างไรก็ตามศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เปิดเผยผลสำรวจด้วยการนำตัวเลขการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใน 77 จังหวัดมาเปรียบเทียบ ซึ่งจะมีความลักหลั่นกันตามพื้นที่ ขณะเดียวกันในมุมมองของ ภาคเอกชนทั้งภาคการผลิต การค้า และบริการต่อนโยบายปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท ทั่วประเทศนั้น แม้ส่วนใหญ่จะเห็นว่า การเพิ่มค่าจ้างให้กับแรงงานจะช่วยทำให้คุณภาพของแรงงานให้เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยผลักดันให้ GDP โตตามไปด้วย แต่สุดท้ายจะสร้างผลกระทบในแง่ต้นทุนธุรกิจ โดยนายจ้าง เกือบ 60% อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้าราว 15% ขณะกว่า 17% ระบุ เมื่อต้นทุนสูง หากไม่เพิ่มราคาสินค้า อาจต้องใช้ทางเลือก ในการลดไซส์ หรือ ลดขนาดของสินค้าลง โดย ผู้ประกอบการ 72.6% ยังคงเห็นว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ยังไม่มีความเหมาะสม ณ ขณะนี้ โดยค่าจ้างที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 370 บาทต่อวันเท่านั้น

แม้จะมีเสียงค้านจากกลุ่มนายจ้าง แต่นโบายขึ้นค่าแรง 400 บาทดำเนินการอย่างต่อเนื่องในรัฐบาลชุดนี้ โดยในวันที่ 8 ธ.ค. 2566 บอร์ดค่าจ้าง มีมติปรับค่าจ้างขั้นต่ำปี 67 อัตรา 2-16 บาท
-26 มี.ค. 2567 บอร์ดค่าจ้าง มีมติปรับครั้งที่ 2 วันละ 400 บาท เฉพาะ 10 จังหวัดพื้นที่เศรษฐกิจ
-17 เม.ย. 2567 บอร์ด ส่งต่ออนุฯ ค่าจ้างจังหวัด ศึกษาความเป็นไปได้ ของนโยบาย ค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ
22 เม.ย. 2567 รมว.แรงงาน ประกาศบิ๊กเซอร์ไพรส์ จ่อให้ “ของขวัญ” ผู้ใช้แรงงาน 1 พ.ค.นี้
14 พ.ค. 2567 วันนัดหมาย ประชุมของบอร์ดค่าจ้าง
1 ต.ค. 2567 คาดประกาศใช้ อัตราใหม่ 400 บาท/วัน ทั่วประเทศ

ทั้งนี้หากดูไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นจะพบว่า ค่าแรง 400 บาททั่วประเทศไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม แต่ขณะเดียวกันในวันแรงงานแห่งชาติยังมีเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นกับข้าราชการทั่วประเทศ เพราะวันที่ 1 พฤษภาคมจะเป็นวันแรกของการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท ส่วนระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ดังนั้นวันแรงงานปีนี้ยังมีเรื่องดี ๆ ที่เปรียบเสมือนโชคสองชั้นกับข้าราชการไทย และแรงงานทั่วประเทศได้ยิ้มร่า “ใจฟู” ก็เป็นไปได้

#specialreport #ค่าแรง400 #เศรษฐา #แรงงาน #topnews #บกข่าวทีวี

คลิปเด่นประจำวัน

อัปเดตคลิปข่าว

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น