ผอ.รพ.สิชล เล่าละเอียดคืนอันยุ่งเหยิงของทีมแพทย์ ขณะดูแลผู้ป่วยโควิดภาวะปอดบวม ลั่นสู้เต็มที่กับผู้ป่วยทุกราย

ผอ.รพ.สิชล เล่าละเอียดคืนอันยุ่งเหยิงของทีมแพทย์ ขณะดูแลผู้ป่วยโควิดภาวะปอดบวม ลั่นสู้เต็มที่กับผู้ป่วยทุกราย

นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า #เป็นอีกคืนที่ยุ่งเหยิงของทีมแพทย์ พยาบาล และพนักงานลำเลียงผู้ป่วย เมื่อพยาบาลในหอผู้ป่วยโควิดรายงาน แพทย์ประจำหอผู้ป่วยโควิด ว่ามีผู้ป่วยอายุ68ปี รับไว้นอนในโรงพยาบาลเป็นวันที่8 แล้ว แพทย์วินิจฉัยว่ามีภาวะปอดบวมตั้งแต่วันแรกรับ ได้ขอยาต้านเชื้อมาให้ทันที ค่าอ๊อกซิเจนในเลือด 98 % สัญญาณชีพปกติ ชีพจร 85 ไม่มีไข้ ผู้ป่วยรู้สึกสบายดี ไม่เหนื่อย ไม่หอบ ได้เอกซเรย์ปอดเป็นระยะในวันที่ 1,3,5 และวันที่8 ปวดบวมจากเอกซเรย์เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ค่าอ๊อกซิเจนในเลือดเริ่มลดลง จึงให้ย้ายผู้ป่วยเมื่อประมาณเที่ยงคืนลงมาไว้ห้องแรงดันลบเพื่อสะดวกในการปฏิบัติการกู้ชีพ หลังจากนั้นได้ติดตามค่าอ๊อกซิเจนในเลือด ลดเหลือ 96-95-93% ทีมแพทย์จึงตัดสินใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ โดยใช้ทีมวิสัญญีแพทย์ วิสัญญีพยาบาล ที่มีความชำนาญ สวมชุดป้องกันสูงสุด PAPR ที่มีระบบดูดอากาศผ่านตัวกรอง มาที่ชุดคลุมศีรษะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ในระหว่างปฏิบัติการ ใช้เครื่องมือส่องใส่ท่อช่วยหายใจชนิดพิเศษ พร้อมให้ยาระงับความรู้สึก ลดการต่อต้านเมื่อใส่ท่อ เนื่องจากอาจทำให้ผู้ป่วย ไอหรือจาม ทำให้เชื้อฟุ้งกระจาย ได้

หลังจากนั้นใช้เครื่องช่วยหายใจควบคุมด้วยปริมาตรและความดัน อัตโนมัติเพื่อพยุงการหายใจ ปรับตั้งค่า ให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกต้านเครื่องหัวหน้าทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่อำนวยการอยู่ด้านนอก ได้ตัดสินใจสวมชุด PPE เข้าไปประเมินอาการ สัญญาณชีพ ผู้ป่วยด้วยตนเอง พร้อมปรับการตั้งค่าเครื่องช่วยหายใจให้เหมาะกับสภาพร่างกายผู้ป่วย และได้เอกซเรย์ปอดอีกครั้ง วันที่11 พบว่าภาพทางรังสี มีรอยโรคแย่ลงไปกว่าเดิมมาก

หลังใช้เครื่องช่วยหายใจ ได้ตั้งค่าปรับเพิ่มอัตราการไหลของอ๊อกซิเจนให้สูงขึ้น ค่าอ๊อกซิเจนในเลือดปรับตัวสูงขึ้น 99% ประเมินอาการโดยรวมเช้าวันนี้ น่าพอใจ ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี สัญญาณชีพคงที่ แพทย์ถามผู้ป่วยว่าเหนื่อยมั้ย โยกส่ายหัวเพื่อบอกว่าไม่เหนื่อย มีกำลังใจดี ยังสู้ไหว ทีมแพทย์ได้ปรับการให้ยาใหม่อีกครั้ง โดยให้ยาต้านไวรัสต่อเนื่องไปอีก ให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ปรับยาต้านการอักเสบ จัดทีมพยาบาลเสริมกำลังในการเฝ้าดูแลติดตามผู้ป่วย ใกล้ชิด ในผู้ป่วยสูงอายุจึงเป็นความเสี่ยงอย่างมากที่ไม่อาจไว้วางใจ แม้ในช่วง 5-8วันแรกจะรู้สึกสบายดี แต่อาการและพยาธิสภาพในปอดเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วมาก หากอยู่ในสถานที่ไม่พร้อม จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว เพราะร่างกายขาดอ๊อกซิเจน

ถึงวันนี้ก็ไม่อาจวางใจ อยู่ที่สภาพร่างกายและการฟื้นตัวของปอดของผู้ป่วยเอง ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ทีมบุคลากรทางการแพทย์สู้เต็มที่กับผู้ป่วยทุกราย
อีกมุมหนึ่งของทีมแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยโควิด19
จึงขอส่งกำลังใจให้กับทุกท่าน อยู่บ้าน อดทนกันอีกหน่อย ไม่นานก็ผ่านไปได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีน-เมียนมา-ไทยยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์
“ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ลงนามแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจะสำนักนายกฯ ตัวเองคุมกลาโหม-มหาดไทยม "พ่อมดดำ" ดูสำนักพุทธฯ-อสมท.
จนท.เร่งสอบขยายผล เก๋งต้องสงสัยคาร์บอมบ์ ถูกเผาทิ้งกลางดึกที่รือเสาะ นราธิวาส
เปิดข้อมูล "ฮุน เซน" สั่งแบนสินค้าไทย แต่ให้นายทุนนำเข้าจากชายแดนลาว ทำราคาพุ่ง ด้าน "คนเขมร" แห่ข้ามแดนช่องจอม ขอทำงานกลุ่มทุนจีน
ผุ้นำญี่ปุ่นลั่นไม่ยอมอ่อนข้อให้ทรัมป์ง่ายๆปมภาษี
"เทพมนตรี" ตอกหน้า "ฮุน มาเนต" โชว์หลักฐานข้อเขียน-แผนที่ "นักสำรวจชาวฝรั่งเศส" ยัน "ปราสาทตาเมือนธม" เป็นของไทย
ทหารพราน ทพ.1303 สกัดจับชาวกัมพูชา 2 ราย กำลังขนบุหรี่เถื่อนเกือบ 16,000 ซอง ลักลอบข้ามชายแดน
หนุ่มนักตกปลา ตาไม่ดี เดินพลาดตกช่องลิฟท์ ที่จอดรถอัตโนมัติ
"โฆษกภูมิใจไทย" สวนกลับเพื่อไทย ไม่ต้องหวาดระแวง ยัน "อนุทิน" ไม่เคยเสนอตัวแย่งชิงนายกฯ
เด็ดปีก ! นักค้ารายย่อย และ เครือข่าย จับเสพ 9 ราย เป็นลูกจ้าง อบต. 1 ราย ซัดทอดขยายผลจับนักค้า 2 ราย นักค้าอีก 2 รายไหวตัวหลบหนี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น