“กลาโหม” แจงเครื่องบินเมียนมาลงจอดไทย กต.ยึดหลักสิทธิผู้ประสบภัย ไม่ยุ่งการเมือง

"กลาโหม" แจงเครื่องบินเมียนมาลงจอดไทย กต.ยึดหลักสิทธิผู้ประสบภัย ไม่ยุ่งการเมือง

“กลาโหม” แจงเครื่องบินเมียนมาลงจอดไทย กต.ยึดหลักสิทธิผู้ประสบภัย ไม่ยุ่งการเมือง

วันที่ 8 เม.ย.67 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ท็อปนิวส์ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ถึง 2 ประเด็นด้วยกัน คือ 1.การเพิ่มกองกำลังทหารตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และ2.ตอบข้อสงสัยประเด็นที่มีเครื่องบินประเทศเมียนมา ขอลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จ.ตากของประเทศไทย

โดยนายจิรายุ เผยว่า ประเด็นแรก ผู้ลี้ภัยจากสงครามเมียนมา ที่หลบหนีเข้ามาทางฝั่งไทย ทางด้านกองทัพภาคที่ 3 มีการเตรียมการตั้งแต่ปีที่ 66 ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์สู้รบฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สอด และอำเภอแม่ระมาดแล้ว จังหวัดตาก มีการสู้รบในฝั่งเมียวดีประเทศเมียนมามาโดยตลอด ซึ่ง 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้อพยพเข้ามายังค่ายอำเภอแม่สอด และอำเภอแม่สะเรียง เป็นจำนวนมาก และทางกองทัพให้ความเป็นธรรม ตามหลักสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (7เม.ย.67) กองทัพรัฐบาลทหารของเมียนมาที่จังหวัดเมียวดี สูญเสียความมั่นคง ที่อยู่ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยทางกองทัพไทยให้รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ ได้เจรจากันในเรื่องของความช่วยเหลือ ทั้งการนำเครื่องบินมารับข้าราชการทหาร ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องพูดคุยกับรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้าน

กลาโหม แจงเครื่องบินเมียนมาลงจอดไทย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกองกำลังกองทัพภาคที่ 3 ที่ดูแลตะเข็บชายแดน ตั้งแต่ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงมาถึงจังหวัดตาก มีการเสริมกำลังตามปกติเพื่อป้องกันตามแนวชายแดน ซึ่งทำตามปกติมาตั้งแต่ปี 66 แล้ว ฉะนั้นช่วงนี้จึงเป็นการเฝ้าระวัง ดังนั้น ทางกองทัพจะคอยดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะถนนเรียบชายแดนตั้งแต่อำเภอแม่สอด จนถึง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่อำเภอเมือง ที่เป็นเส้นตามแนวชายแดน จะมีกองกำลังกองทัพภาคที่ 3 ให้ความปลอดภัยและดูแลประชาชนคนไทยตลอดเวลาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนเมื่อถามว่า ทางฝั่งไทย จะมีการส่งผู้ลี้ภัยที่หลบหนีเข้ามาอยู่ตามตะเข็บชายแดนกลับไปยังประเทศตนเองเลยหรือไม่ หากศึกสงครามจบลง นายจิรายุ กล่าวว่า โดยหลักแล้วผู้อพยพจะเข้ามาเป็นระยะๆ ซึ่งจะมีกระบวนการตามขั้นตอนต่างๆที่จะพิจารณาว่า ผู้อพยพลี้ภัย เขาต้องการในลักษณะใด อาทิ ต้องการรอให้เหตุการณ์สงบและขอข้ามกลับไปยังภูมิลำเนาเดิม ซึ่งอาจอยู่ในเขตปกครองพิเศษของชนกลุ่มน้อย หรือเขตของรัฐบาลในประเทศเมียนมาก็ตาม ส่วนกลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ขออพยพไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งอยู่ในขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์เรื่องนี้มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เราจะเห็นผู้อพยพหลบหนีสงครามเป็นระยะที่เข้ามาฝั่งไทย โดยกองทัพให้การดูแลอย่างเป็นระบบ ย้ำว่า ทำตามขั้นตอนของผู้ลี้ภัย

ส่วนเมื่อถามต่อว่า มีกระแสข่าวว่าการอำนวยความสะดวกของกองทัพ ที่มีต่อผู้ลี้ภัยไม่ได้เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ แต่ความเป็นจริงคือข้าวปลาอาหารจะมีก็ต่อเมื่อ มีผู้คนนำไปบริจาค นายจิรายุ ชี้แจงว่า ไม่ถึงขนาดนั้น ในสภาวะปกติกระทรวงต่างๆ องค์กรต่างๆ ที่ดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน เขาให้การดูแลเรื่องอาหารการกินและที่อยู่อาศัยรวมทั้งเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นไปตามระบบปกติ แต่ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา เกิดสภาวะไม่ปกติ อย่างสงครามที่เป็นข่าว จ.เมียวดีแตกพ่าย แต่ตนเชื่อว่า 1-2 วันนี้ สถานการณ์จากคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

 

ทั้งนี้ การอำนวยความสะดวกหรือการดูแลผู้อพยพ ผู้ลี้ภัยสงครามต่างๆ เป็นไปตามสิทธิมนุษยชนเบื้องต้น เพียงแต่มีการทะลักเข้ามา โดยกองทัพจะพยายามเร่งทำให้อย่างเต็มที่

ส่วนประเด็นที่มีเครื่องบินประเทศเมียนมา ขอลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จ.ตาก ประเทศไทย กลัวหรือไม่ว่าจะมีผลกระทบทางการทหารตามมา นายจิรายุ เผยว่า ตามหลักแล้ว ไม่ว่าเครื่องบินของชาติใดเข้ามาลงจอด จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องเข้าไปพูดคุย พร้อมยกตัวอย่าง สงครามในอิสราเอล ฉนวนกาซา เราเคยส่งเครื่องบินกองทัพไทยบินไปรับผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัยของเราที่ไปทำงานในอิสราเอลจำนวนมาก

ซึ่งต้องแยกให้ออกระหว่างผู้ประสบภัยกับผู้ลี้ภัยหรือผู้ประสบภัยสงครามจากการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระทรวงการต่างประเทศว่าจะอำนวยความสะดวกในลักษณะใด ขณะเดียวกันประเทศเพื่อนบ้านมีสิทธิเสรีภาพในการร้องขอด้านของสิทธิมนุษยชนในการขอคนของเขากลับไป ส่วนอีกมุม ปล่อยและให้อยู่ในประเทศไทย ก็ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณา นายจิรายุ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"GILF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอย ขยายผล เตรียมส่งดีเอสไอ ฟันเครือข่ายลักลอบฝังกลบขยะพิษในที่ดิน 2 แปลง จ.ฉะเชิงเทรา รวมกว่า 70,000 ตัน
"บิ๊กเล็ก" รับเงื่อนไข ให้ตัวแทนจีน-สหรัฐฯ ร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ที่มาเลเซียวันสุดท้าย เฉพาะ 7 ส.ค. ยันไม่กระทบหลักหารือทวิภาคี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​