No data was found

“กรมควบคุมโรค” เผย ติดตาม “โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” ในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ย้ำไม่ใช่โรคอุบัติใหม่

กดติดตาม TOP NEWS

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ของไทย เผยได้ติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ หรือ โรคไข้อีดำอีแดง  หรือ "โรคแบคทีเรียกินเนื้อ" ในญี่ปุ่น อย่างใกล้ชิด หลังมีการระบาดหนักในญี่ปุ่น พบผู้ป่วยทั่วประเทศแล้วมากกว่า 500 ราย

“กรมควบคุมโรค” เผย ติดตาม “โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” ในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ย้ำไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ – Top News รายงาน

โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ

เมื่อวานนี้ (29 มี.ค. 67)  “กรมควบคุมโรค” ได้ออกมาโพสต์อัปเดตติดตามสถานการณ์ โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ หรือ โรคไข้อีดำอีแดง หรือ โรคแบคทีเรียกินเนื้อ ในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่า

กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ หรือ โรคไข้อีดำอีแดง หรือ “โรคแบคทีเรียกินเนื้อ” ในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ย้ำไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ สังเกตอาการเบื้องต้น หากมี ไข้ เจ็บคอ หรือมีตุ่มหนองที่ผิวหนัง ร่วมกับมีผื่นคล้ายกระดาษทราย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ปี 2562 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2567 พบผู้ป่วย 4,989 ราย ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต ***สำหรับในปี 2567 นี้ ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ (30 มี.ค. 67) กรมควบคุมโรค ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่อง การเพิ่มขึ้นของโรคแบคทีเรียกินเนื้อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” ในประเทศญี่ปุ่น

กรณีที่ในขณะนี้ ข่าวการเพิ่มขึ้นของโรคแบคทีเรียกินเนื้อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” ในประเทศญี่ปุ่น ที่ทางการญี่ปุ่นกำลังสืบค้นหาสาเหตุของการเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกัน โควิด 19 ร่วมกับอาจมีสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วยนั้น

กรมควบคุมโรค ขอเรียนชี้แจงเบื้องต้นว่า เชื้อแบคทีเรีย “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” นี้ เป็นเชื้อก่อโรคที่มีมานานแล้ว และมีมากกว่า 200 สายพันธุ์ ก่อให้เกิดอาการแสดงของโรคได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่อาการน้อย หรือปานกลาง ได้แก่ การติดเชื้อของคอหอย ต่อมทอนซิล และระบบทางเดินหายใจ หรืออาจก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนัง ส่วนหนึ่งของผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรง (ซึ่งพบเป็นส่วนน้อย) ได้แก่ มีการอักเสบอย่างรุนแรงของผิวหนังชั้นลึก หรือเกิดภาวะช็อกที่อาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยหนึ่งในอาการแสดงของโรคและอยู่ในระบบเฝ้าระวังของประเทศไทยคือ “โรคไข้อีดำอีแดง หรือ Scarlet fever” ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เกิดได้ทุกช่วงอายุแต่มักเป็นในเด็กวัยเรียน ติดต่อจากคนสู่คนโดยการใกล้ชิดและหายใจรับละอองฝอยของเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ที่มีเชื้อ หรือละอองเชื้อโรคสัมผัสกับตา จมูก ปาก หรือสัมผัสผ่านมือ สิ่งของเครื่องใช้ เช่น จาน ชาม แก้วน้ำ เป็นต้น อาการที่พบคือ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ไข้ และอาจมีผื่นนูนสากๆ ตามร่างกาย (จากเชื้อสร้างสารพิษ) สัมผัสแล้ว มีลักษณะคล้ายกระดาษทราย กลุ่มเสี่ยงของโรคจะเป็นเด็กวัยเรียน อายุ 5 – 15 ปี ที่อยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น เด็กนักเรียนในโรงเรียน หรือศูนย์เด็กเล็ก ฯลฯ จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ถึงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567 พบผู้ป่วย 4,989 ราย ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต สำหรับปี พ.ศ. 2567 ยังไม่พบรายงาน

ส่วนในกรณีอาการรุนแรงนั้น จากระบบโครงสร้างฐานข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (43 แฟ้ม) ของประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 – 2566 กรณี Toxic Shock Syndrome พบว่า มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล จำนวน 204 ราย เฉลี่ยปีละ 41 ราย และมีแนวโน้มลดต่ำลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยในปี พ.ศ. 2566 พบผู้ป่วย จำนวน 29 ราย ส่วนกรณีโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis) ซึ่งอาจเกิดได้จากแบคทีเรียหลายชนิด (โดย 1 ในเชื้อสาเหตุคือ “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ”) จากการติดตามใน พ.ศ. 2562 – 2566 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 106,021 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยภาวะดังกล่าว 1,048 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตายประมาณร้อยละ 1.0 แนวโน้มการรายงานผู้ป่วยคงที่และลดลงในปี พ.ศ. 2566 โดยมีอัตราป่วย 27.35 ต่อแสนประชากร (จากเดิมร้อยละ 32.5 ต่อแสนประชากร) พบรายงานผู้ป่วยตลอดทั้งปีแต่สูงสุดในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคมของทุกปี

 

จากการติดตามข้อมูลดังกล่าว ยังไม่พบว่าอุบัติการณ์การติดเชื้อนี้มีการเพิ่มขึ้น หรือรุนแรงขึ้นในประเทศไทย การติดเชื้อนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ดังนั้นการไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ การได้รับยาปฏิชีวนะที่ถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสม จะช่วยให้ลดความรุนแรงของโรค และช่วยลดการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างได้ ในรายที่อาการเป็นมากอาจต้องร่วมกับการผ่าตัดเนื้อตายออก กลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีอาการรุนแรง คือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือเป็นผู้ที่มีรอยโรคที่ผิวหนังมาก่อน

เนื่องจากการแพร่ระบาดหลักของเชื้อนี้เป็นทางระบบทางเดินหายใจ (โดยอาจร่วมกับการสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งหรือหนองจากแผล ในกรณีมีการติดเชื้อที่ผิวหนัง) และการติดเชื้อนี้พบได้ทุกช่วงอายุ ดังนั้นมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 จึงสามารถช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อนี้เช่นกัน การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก หรือเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรต้องระมัดระวังควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ภาชนะ เช่น แก้วน้ำ ช้อน ร่วมกับผู้อื่น และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

โดยกรมควบคุมโรคยังคงติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อ “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” ในญี่ปุ่นนี้ อย่างต่อเนื่อง ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะนำประชาชน ถ้ามีไข้ เจ็บคอ ร่วมกับมีผื่นสากนูน หรือตุ่มหนองที่ผิวหนัง หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก ควรรีบไปพบแพทย์ (โดยเฉพาะถ้าหลังกลับจากต่างประเทศ ภายในช่วง 1 สัปดาห์แรก) เพื่อรับการวินิจฉัย รักษา และแยกโรคอย่างถูกต้อง การเดินทางไปต่างประเทศ ยังคงต้องรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ หากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เริ่มได้กลิ่นตุๆ! "สุริยะใส กตะศิลา" ชี้ผิดคาดสมัคร "สว." หรอมแหรม แฉแทคติกฮั้วเลือกกันเองแต่จับมือใครดมไม่ได้
"สันติสุข" เตือนเสี่ยงคุก ย้ำซื้อหวย "ลอตเตอรี่พลัส" ผิดกม. ชี้เล่ห์เหลี่ยมคนขายกินกำไรรวยอู้ฟู่
"อนุทิน" มอบผู้ว่าฯทุกจังหวัด ทำแผนป้องกันระงับอัคคีภัย หลัง พบสถิติเกิดไฟไหม้พุ่ง
ระทึกอีก บั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน ช็อกคนในงานประกาศลั่น ถ้าไม่หลบก็ชน แฉเล่นพนันโจ่งครึ่ม
ระดมทีมเร่งค้นหา "ประธานาธิบดีอิหร่าน" หลังเฮลิคอปเตอร์ตก
คลิปบีบหีวใจ นาทีช่วยชีวิต "เด็กเล็ก" กินขนมปังติดคอ อาการหนักจนไม่มีเรี่ยวแรง
สุดปังไม่เหมือนใคร ลูกหลานไอเดียเก๋ นำของใช้-อาหาร แต่งหน้าหีบศพแม่ แทนใช้ดอกไม้สด
สภาพอากาศวันนี้ อุตุฯ เผยร้อนจัดในตอนกลางวัน เตือน 52 จว. ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง กทม.โดนด้วย
ด่วน สื่อตปท.ตีข่าวใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ "ปธน.อิหร่าน" ประสบอุบัติเหตุ ทีมกู้ภัยเร่งค้นหา ยังไม่ทราบชะตากรรม
เกาหลีใต้เตือนระวังตัว เดินทางในไทย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น