คนกรุงฯปลื้ม UNESCO เลือก “กทม.” ร่วมเป็นเครือข่าย “เมืองแห่งการเรียนรู้” รองผู้ว่าฯนำทีมเวิร์คชอป “เนเธอร์แลนด์” พร้อมปรับใช้พัฒนาครั้งใหญ่

คนกรุงฯปลื้ม UNESCO เลือก "กทม." ร่วมเป็นเครือข่าย "เมืองแห่งการเรียนรู้" รองผู้ว่าฯนำทีมเวิร์คชอป "เนเธอร์แลนด์" พร้อมปรับใช้พัฒนาครั้งใหญ่

คนกรุงฯปลื้ม UNESCO เลือก “กทม.” ร่วมเป็นเครือข่าย “เมืองแห่งการเรียนรู้” รองผู้ว่าฯนำทีมเวิร์คชอป “เนเธอร์แลนด์” พร้อมปรับใช้พัฒนาครั้งใหญ่

ปีนี้ กทม. ได้รับการคัดเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในเครือข่าย ‘เมืองแห่งการเรียนรู้’ ของ #UNESCO (UNESCO Global Network of Learning Cities – GNLC) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Learning for Life, Opportunities for All” ด้วยความตั้งใจอยากสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งโอกาสและการเรียนรู้สำหรับทุกคน

การได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ นับเป็นการเปิดโอกาสให้กรุงเทพฯ ได้เข้าถึงการสนับสนุนจากเครือข่ายทั่วโลกในสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ ตลอดจนการส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมทุกช่วงอายุ และตลอดช่วงเวลาของชีวิต ผ่านกลยุทธ์และโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ (Lifelong Learning: LLL) ความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ

นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังมีโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับนานาชาติ และเข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย

กทม.

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่ง นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร, และ นายแร็มโก โยฮันเนิส ฟัน ไวน์คาร์เดิน เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมรับฟังการนำเสนอแนวคิดและการอภิปรายกิจกรรมกลุ่ม ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop in Bangkok ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

ขณะเดียวกันวันนี้ยังมี พ.ต.อ.เรวัฏ นูมปันต์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร, ร.ต.อ. ชัยสิทธิ์ เขมกปสิทธิ รองสารวัตรสอบสวน กำกับการ4 กองปราบปราม พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผู้กำกับสน.สำราญราษฎร์ และผู้บริหารของสำนักการจราจรและขนส่ง เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอจากผู้เข้าร่วมประชุม

 

 

การจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 21 กุมภาพันธ์ 2567 โดยกรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานและน้ำแห่งเนเธอร์แลนด์ ให้การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจาก Dutch Cycling Embassy มาให้ความรู้ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พฤติกรรม และโครงสร้างองค์กรของชุมชนนักปั่นแก่ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ผู้แทนกลุ่มจักรยาน และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย เข้ารวมกว่า 60 คน เพื่อนำความรู้เกี่ยวกับเมืองของเนเธอร์แลนด์มาปรับใช้กับกรุงเทพมหานคร

การประชุมประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ศึกษาแนวคิดการส่งเสริมและการใช้จักรยานเพื่อการสัญจรของประเทศเนเธอร์แลนด์ การร่วมกันเสนอแนวคิดในการสร้างเครือข่ายการปั่นจักรยาน หรือ Cycling networks และการออกแบบระบบเครือข่ายร่วมกัน การร่วมปั่นจักรยานจากสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ฯ มายังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เพื่อสะท้อนแนวคิดว่าการปั่นจักรยานในกรุงเทพฯนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จริง รวมทั้งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ศึกษาปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ระหว่างการเดินทาง

 

นอกจากนี้ยังการนำเสนอแนวคิดจากการทำกิจกรรมตลอดทั้ง 3 วัน ซึ่งแบ่งพื้นที่ในการจัดทำข้อมูลจากทางแยกจำนวน 8 ทางแยกสำคัญ เพื่อให้เกิดเส้นทางเดินและปั่นจักรยานที่สะดวกปลอดภัย ชื่อมต่อระบบขนส่งและการสัญจรทางเลือกอื่น ๆ ได้สะดวกเกิดขึ้นได้จริง ได้แก่ 1. แยกอโศก ถนนสุขุมวิท-ถนนอโศกมนตรี 2. แยกถนนเจริญกรุง- รองเมือง 3. แยกประดิษฐ์มนูธรรม – ลาดพร้าว 4. แยกท่าพระ 5. แยกซอยสวัสดี-พร้อมจิตร 6. แยกถนนหลวง-บริพัตร 7. แยกนาคนิวาศ สังคมสงเคราะห์ 8. แยกตลาดพลู

 

 

 

โดยรองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความมุ่งหวังให้แนวคิดต่างๆ เพื่อการเป็นเมืองที่เดินได้ ปั่นดี ต้องทําให้เกิดขึ้นจริงไม่ใช่แค่ออกแบบ ซึ่งตอนนี้เรามีนโยบายที่กําลังทําอยู่คือ Bike Sharing โดยมีนโยบายสำคัญลำดับแรกสำหรับการเดินทาง คือ First and Last Mile เดินทางดีตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปลายทาง เพื่อส่งเสริมให้การใช้จักรยานง่ายขึ้น และต้องฝากพวกเราช่วยคิด อย่าให้เป็นอย่างคำพูดที่ว่าคนทำไม่ได้ขี่ คนขี่ไม่ได้ทำ ครั้งนี้จึงอยากให้คนขี่จักรยานมาช่วยแนะนําว่ากทม. ควรปรับปรุงตรงไหน เราพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น

ด้าน เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ฯ กล่าวชื่นชมที่ได้เห็นทุกคนมา Workshop ร่วมกันเพื่อให้การปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ ดีขึ้น โดยตนเองเคยปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ และเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้ พื้นที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ที่ทุกคนได้ร่วมกันคิดเพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาล้วนเป็นพื้นที่สําคัญต่อการพัฒนาเมือง และทางสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ฯ ยินดีที่จะสนับสนุนกรุงเทพมหานคร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปลุกเสกกระสุนพลาสติก ยิงเป้า 'วุ้นเส้น' กลางงานถนนคนเดินยูวิลล์มาร์เก็ต ผู้จัดประกาศไล่สิ่งชั่ว–คืนสีสันให้คนโคราช
จนท.เร่งตรวจสอบโครงสร้าง "อาคาร ROUTE 66" ย่าน RCA หลังเกิดเหตุไฟไหม้
"นฤมล" พรรคกล้าธรรม คว้าเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.อบจ.เชียงราย
มุกดาหาร ชสอ.แถลงข่าวมหกรรมข้อมูล ล่าสุด ณ เดือนธันวาคม 2567 ชี้ให้เห็นว่า เฉพาะเครือข่ายสหกรณ์ออมทรัพย์ มี สินทรัพย์รวมกันสูงถึง 3.43 ล้านล้านบาท มีการให้เงินกู้แก่สมาชิกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตไปแล้วกว่า 2.39 ล้านล้านบาท และที่สำคัญที่สุดคือ มียอดเงินรับฝากจากสมาชิกรวมกันสูงถึง 1.43 ล้านล้านบาท ประกอบกับมี ทุนเรือนหุ้นของสมาชิกอีกกว่า 1.37 ล้านล้านบาท ตัวเลขมหาศาลนี้ยืนยันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์คือแหล่งเงินออมภาคสมัครใจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากธนาคารพาณิชย์ และเป็นกลไกสำคัญที่สร้างผลตอบแทนในรูปของ "เงินปันผล" และ "เงินเฉลี่ยคืน" กลับสู่สมาชิกโดยตรง ช่วยลดความเหลื่อมล้าและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม มหกรรมวันออมแห่งชาติ ปี 2568 ณ จังหวัดมุกดาหาร ด้วยความสำคัญดังกล่าว ในปี 2568 นี้ เราจึงร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร จัด "มหกรรมวันออมแห่งชาติ" ภายใต้แนวคิด "พลังสหกรณ์ ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย" และนับเป็นพระคุณอย่างสูง ที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของขบวนการสหกรณ์และการออมของภาคประชาชน โดยท่านได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการออมเป็นวาระแห่งชาติ สาหรับกิจกรรมในวันงาน 31 ตุลาคม 2568 จะมีความหลากหลายตลอดทั้งวัน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและส่งต่อแรงบันดาลใจในทุกมิติ ประกอบด้วย: ภาคเช้า กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ "Mekong Savings Run & Ride 2025" การเดิน-วิ่ง และ ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพริมฝั่งโขง เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นสร้างความมั่นคงจากสุขภาพกาย สู่สุขภาพทางการเงิน ภาคกลางวัน เวทีสัมมนาวิชาการ "ก้าวข้ามกับดัก เพื่อโอกาสสหกรณ์ไทยให้ยั่งยืน" และทอล์คโชว์ "อนาคตการออมไทย ขับเคลื่อนโดยพลังสหกรณ์" โดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ เพื่อมอบความรู้และเปิดมุมมองใหม่ๆ ทางการเงิน ภาคค่ำ งานเลี้ยงสังสรรค์ "Cooperative Power Night" และพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ "สหกรณ์ส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม" เพื่อยกย่องสหกรณ์ที่เป็นต้นแบบในการสร้างวินัย ทางการเงิน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และสร้างวัฒนธรรมการออมที่เข้มแข็งให้แก่สังคมไทย เพราะเราเชื่อว่า "เงินออมของสมาชิกทุกคน คืออิฐแต่ละก้อนที่ประกอบกันขึ้นเป็นรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงของประเทศ" มาร่วมกันทาให้วันที่ 31 ตุลาคม ไม่ใช่เป็นเพียงวันออมแห่งชาติ แต่เป็นวันที่คนไทยทุกคนเริ่มต้นสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับตนเองและประเทศชาติสืบไป. ภาพ-ข่าว อนุศักดิ์ - เสาวภา แสนวิเศษ ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.มุกดาหาร ประจาปี 2568 ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย
เริ่มแล้ว! งานประเพณีออกพรรษาและการละเล่นตาชูชก อำเภอบ้านด่านลานหอย 
เดอะโฮปสงขลา เร่งล่าตัวคนร้าย คว้านท้องสุนัข 3 ตัว

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​