ยิ่งกว่ามวยคู่เดือดระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) กับ พรรคก้าวไกล ดูทรงเหมือนเปิดศึกกันแล้ว ฝ่ายน้ำเงินมี “นายจิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันไล่ถลุงหมัด ฝ่ายส้มแห่ง “พรรคก้าวไกล” โดยเฉพาะ “ส.ส.” ที่แค้นฝังหุ่นกับ “กองทัพ” แต่คร่าวนี้ “นายจิรายุ” ช่วยคิดบัญชีแค้นแทน “กองทัพ” ให้ เพียงวันเดียวแถลงข่าวหักหน้า “ส.ส.” พรรคก้าวไกลไปถึง 2 คน เรื่องแรก “นายจิรายุ” แถลงถึงความคืบหน้าเร่งปิดจ็อบคดีหนีทหารของ “นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์” ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ว่าล่าสุดกำลังเร่งเครื่องในการตรวจสอบใบสด.43 ของนายจิรัฏฐ์ เป็นเก๊หรือไม่
ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งทาง “พลโท ทวีพูล ริมสาคร” ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้เรียนตั้งแต่ต้นแล้วว่า ที่ผ่านมาถ้าต้นขั้วยังอยู่ที่กองทัพบกครบ 3 ใบ หมายความว่า คนที่ถือใบที่ 3 อยู่เป็นของปลอม ซึ่งขณะนี้ไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะกรณี “นายจิรัฏฐ์” ที่เป็นข่าวกำลังคนเดียวเท่านั้น กำลังไล่ตรวจสอบในแต่ละพื้นที่อย่าละเอียดยิบ
“นายจิรายุ” กล่าวว่าช่วงเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่มีการเปิดคัดเลือกทหาร ขอเรียนไปยังประชาชนว่าให้ระวัง เพราะอาจมีเจ้าหน้าที่บางคนเรียกรับผลประโยชน์ บางทีรับผลประโยชน์ไว้แต่ไม่ดำเนินการตามขั้นตอนไม่มีการไปทำงานตามขั้นตอนก็เยอะ ซึ่งกองทัพไม่ได้น่ากลัวโดยหากเข้ามาทำงาน 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ได้ประโยชน์มากขึ้น หากสนใจสมัครเกณฑ์ทหารซึ่งทางกองทัพก็มีสวัสดิการมากมาย หากคิดว่าการเป็นทหารจะได้อะไรมากขึ้น ก็เห็นว่าควรไปสมัคร จะได้ไม่เสียเงินให้กับการเกณฑ์ทหาร
เมื่อถามถึงกรอบเวลาในการตรวจสอบ นายจิรายุ กล่าวว่า เรื่องของนายจิรัฏฐ์แบ่งเป็นสองประเด็น ประเด็นแรก การทำตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพนักงานสอบสวน ก็ต้องพิจารณาตรวจสอบในการเรียกเอกสารหลักฐาน มาตรวจสอบว่าจริงหรือเท็จ เรื่องที่สองเป็นเรื่องของกองทัพ ต้องดูว่าในกรณีนี้มีการทำแบบนี้ได้อย่างไร เช่น คุณไม่ไปเกณฑ์ทหาร แต่คุณไปขึ้นศาลและถูกลงโทษแล้ว เป็นการทำในลักษณะนี้ได้อย่างไร ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการพิจารณา
นอกจากนี้ “นายจิรายุ” ยังสวมหมวกอีกใบเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพ อัพเดทความคืบหน้าถ่ายโอนกิจการไฟฟ้าของกองทัพเรือว่า ได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อลงรายละเอียดเรื่องการคืนกิจการไฟฟ้าให้กับประชาชนได้อย่างไร สาระสำคัญคือขอให้อนุกรรมาธิการ พิจารณารายงานของกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ ที่เคยทำมาแล้วเมื่อปี พ.ศ.2564 และ ได้พูดคุยกับนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้นโยบายว่าอะไรที่คืนได้ก็ให้คืน แต่ความมั่นคงของชาติทางทะเล กองทัพเรือ ก็ต้องกำหนดขอบเขตมาให้ชัดเจน ว่า 100% เฉพาะไฟฟ้าจะคืนเฉพาะไฟฟ้าให้พี่น้องประชาชนได้กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนไฟฟ้าที่อยู่ในฐานทัพเรือ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าที่ใช้สำหรับ “เรือรบ” ก็ต้องยังคงไว้ ถือเป็นความคืบหน้าของรัฐบาลประชาชน เรื่องดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ “น.ส.เบญจา แสงจันทร์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาไล่บี้ “กองทัพเรือ” ประเด็นปัญหาไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือสัตหีบค่าไฟราคาแพงและคุณภาพย่ำแย่ กระทบต่อพี่น้องประชาชน พร้อมกับตั้งคำถามว่า กองทัพเรือ จำเป็นต้องจำหน่ายไฟฟ้าหรือไม่
ส่วน “สนามธูปะเตมีย์” ถือเป็นยุทธศาสตร์ของ “กองทัพอากาศ” ในสมัยก่อนเป็นพื้นที่กันไว้เพื่อป้องกันทางทิศเหนือและภาคอีสาน ที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯหรือที่เรียกว่า “ห้าแยกธูปะเตมีย์” โดยยังต้องรอที่ประชุมกองทัพอากาศสรุป ส่วนกรณี “นายเชตวัน เตือประโคน” สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้ทำเป็น “สปอร์ตคอมเพล็กซ์” นายจิรายุ กล่าวว่า เดิมทีมีการเรียกร้องให้นำไปทำสวนสาธารณะ แต่จากที่สอบถามไปยัง กองทัพอากาศ พบว่า เป็นอาคารขนาดใหญ่ไม่ได้ทำเป็นอาคารขนาดใหญ่หรือสปอร์ตคอมเพล็กซ์ เนื่องจากยังต้องสำรองพื้นที่ไว้ เพราะเป็นพื้นที่มั่นคงสำคัญทางการทหาร ทั้งนี้ ไม่สรุปว่าจะทำเป็นสนามกอล์ฟต่อไปหรือไม่ และเปิดให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ได้มากแค่ไหนกำลังพิจารณา
ส่วนการพูดคุยในที่ประชุมวันนี้ จะพูดคุยเรื่อง “กองทัพบก” เป็นหลัก วันนี้จะเป็นการเชิญผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มาพูดคุยเชิงเปรียบเทียบเพื่อพัฒนาทีวีของกองทัพ จากนั้น จะมีการพิจารณาในเรื่องอื่นๆ เช่น สนามกอล์ฟ โดยในส่วนของสนามกอล์ฟ ได้พูดคุยกับ “พล.อ.อ.เอกพันธ์ภักดี พัฒนกูล” ผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งยินดีคืน “สนามกอล์ฟกานตรัตน์” หรือ “สนามงู ดอนเมือง” ให้กับรัฐบาล ซึ่งจะต้องหารือว่าจะใช้สนามกอล์ฟทำอะไร อาจจะทำรันเวย์เพิ่ม หรือจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน
#ก้าวไกล #กระทรวงกลาโหม #ธุรกิจกองทัพ #สด.43 #จิรายุ ห่วงทรัพย์ #จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ #เชตวัน เตือประโคน