“ปิยบุตร” หวังผลอะไร ชื่นชมเพื่อไทย ร่วมมือก้าวไกล สงวนจุดต่าง ผลักดันกม.สมรสเท่าเทียม

"ปิยบุตร" หวังผลอะไร ชื่นชมเพื่อไทย ร่วมมือก้าวไกล สงวนจุดต่าง ผลักดันกม.สมรสเท่าเทียม

 

 

22 ธ.ค.2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง จุดเริ่มต้นของการร่วมมือกันของพรรคการเมืองในการตรากฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยระบุตอนหนึ่งว่า สภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ความเห็นชอบรับหลักการในวาระที่หนึ่งของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในส่วนที่เกี่ยวกับการสมรส หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สมรสเท่าเทียม” มติในชั้นนี้ ได้คะแนนถล่มทลาย เกือบทุกพรรคการเมืองเห็นชอบกันถ้วนทั่ว นี่คือกรณีตัวอย่าง นี่คือจุดเริ่มต้น นี่คือสัญญาณสัญลักษณ์ของการแสวงหาฉันทามติและสร้างแนวร่วมในการเมืองในระบบรัฐสภา

 

โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ประชาชนสูงสุด ผมเฝ้าสังเกตการแสดงความเห็นของผู้สนับสนุนพรรคต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ พบว่าผู้สนับสนุนของบางพรรค บางคนบางฝ่าย ต่างโต้เถียงกันไปมาว่า นี่คือผลงานของพรรคตน หากกล่าวให้จำเพาะเจาะจงชัดเจนลงไป ก็คือผู้สนับสนุนบางคนของพรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุนบางคนของพรรคเพื่อไทย แน่นอนเราเข้าใจได้ว่า การแข่งขันทางการเมือง ก็ต้องมีการแสวงหาผลงานเพื่อนำไปรณรงค์กับประชาชน แต่การแข่งขันเช่นว่านี้ ต้องไม่นำพาไปสู่สถานการณ์ที่ในอนาคตจะไม่สามารถแสวงหาความร่วมมือกันของสองพรรคนี้ในการตรากฎหมายได้เลย

ข่าวที่น่าสนใจ

เอาตัวอย่างรูปธรรม อีกไม่กี่เดือนร่าง พ.ร.บ นี้ ก็คงผ่านวาระสามในชั้นสภาผู้แทนราษฎร และไปสู่วุฒิสภา เราคาดเดาไม่ออกเลยว่าในชั้นวุฒิสภาจะมีมติอย่างไร เพราะมีสมาชิกที่หัวเก่าจำนวนมาก ดังนั้นในชั้นสภาผู้แทนราษฏรต้องตรึงกำลังให้แน่น หากพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจับมือกันแน่นในการตรากฎหมายฉบับนี้ ก็ไม่มีทางที่กฎหมายฉบับนี้จะไม่ผ่าน ใครก็ขวางไม่ได้แน่นอน ในอนาคตก็อาจมีกฎหมายฉบับอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนอีก ซึ่งต้องอาศัยแรงของทั้งสองพรรค เรื่องสำคัญ ๆ ใด เราก็สามารถหาฉันทามติจากนักการเมืองจากหลากหลายพรรค หลากหลายขั้วได้ ไม่ต้องตก “กับดัก” พวกเผด็จการ เนติบริกร นักปฏิรูปของคณะรัฐประหาร ที่เฝ้ารอฉกฉวยจังหวะ ยึดอำนาจ แล้วอ้างว่าต้องมีอำนาจเด็ดขาด ต้องไม่มีนักการเมืองจากการเลือกตั้ง จึงจะทำเรื่องใหญ่ เรื่องยาก ได้สำเร็จ

 

นายปิยบุตร ระบุอีกว่า ในส่วนของผลงานความดีความชอบจากการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมนั้น ผมเห็นว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียม มิควรเป็นผลงานของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เพียงพรรคเดียว เพราะ “เกือบ” ทุกพรรคการเมืองร่วมกันผลักดัน และรวมถึงภาคประชาชนที่รณรงค์เรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ต้องให้เครดิตยอมรับนับถือ ชื่นชมทุกฝ่ายที่ช่วยกันรณรงค์และผลักดันในแดนของตนเอง จนสำเร็จ สำหรับสองพรรคใหญ่ที่ขับเคี่ยวกันอยู่นั้น พรรคอนาคตใหม่/พรรคก้าวไกล ก็ตั้งใจผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่ตั้งพรรค นำเรื่องนี้เป็นนโยบาย “ชูธง” ตั้งแต่แรกเริ่ม ผลักดันให้มี สส.ตัวแทนประเด็นเหล่านี้ และผลักดันร่าง พ.ร.บ.ของพรรค เข้าไปแต่แรก พร้อมกับรณรงค์กับสังคม จนกลายเป็นกระแสวงกว้าง

 

 

 

 

 

พรรคเพื่อไทย ก็มีบทบาทสำคัญในการผลักดันจนสำเร็จ ในฐานะเข้าไปเป็นแกนนำรัฐบาล ดังที่เราทราบกันดีว่าหลายปีมานี้ คณะรัฐมนตรีชุดก่อนๆและระบบราชการ “ยอม” ให้แค่ในระดับ “คู่ชีวิต” ไม่ยอมให้ “สมรส” หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล และไม่ทุบโต๊ะยืนยันว่าคณะรัฐมนตรีต้องเสนอร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เข้าสภาโดยเร็ว เราก็จะไม่เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ นี่คือจุดเริ่มต้นของการแสวงหาจุดร่วมของสองพรรคใหญ่ในสภา เพื่อตรากฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่มีใครดี ไม่มีใครเด่นกว่าใคร ไม่ใช่แข่งขันว่าพรรคไหนชนะในเรื่องใด เพราะในท้ายที่สุดประชาชนชนะ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ร้อยเรียงความดี … ซีพี–ซีพีเอฟ อยู่เคียงข้างชุมชน เดินหน้าช่วยน้ำท่วมภาคเหนือต่อเนื่อง
ช่วยต่อเนื่อง! ซีพีเอฟ เร่งกระจายความช่วยเหลือถึงมือประชาชนแนวชายแดน
"โฆษกรัฐบาล" ยันพรุ่งนี้ "ภูมิธรรม" พร้อมคณะ บินมาเลย์ เจรจา "ฮุน มาเนต" โต้กล่าวหาไทยจะยอมรับ แผนที่ 1:200,000
ส่งกำลังใจให้ชาวเหนือ! ซีพี-ซีพีเอฟ ส่งวัตถุดิบช่วยน้ำท่วม หนุนโรงครัวพระราชทาน "เชียงราย-น่าน" เต็มกำลัง
มื้อนี้ที่ห่วงใย ... ซีพีเอฟ ส่งต่อกำลังใจสู่ศูนย์อพยพชายแดน
สะเทือนใจ ! ตา-ยาย ขับรถพ่วงข้างเพื่อ อพยพ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ถูกรถชนจนเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกชายเป็นทหารพรานที่ช่องจอม จ.สุรินทร์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​