หมกมุ่นไม่จบ “ปิยบุตร” แนะกำจัดนิติสงคราม แก้รธน.-สร้างผู้พิพากษารุ่นใหม่ ต้องกล้ายกฟ้องคดี 112

หมกมุ่นไม่จบ “ปิยบุตร” แนะกำจัดนิติสงคราม แก้รธน.-สร้างผู้พิพากษารุ่นใหม่ ต้องกล้ายกฟ้องคดี 112

วันนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ภาพและข้อความเรื่อง นิติสงคราม อันตรายต่อประชาธิปไตย โดยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 ตนเองได้ปาฐกถาหัวข้อ ‘นิติสงครามกับทิศทางประชาธิปไตย’ จัดโดยสโมสรนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยเนื้อหาแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย (1) ปฏิบัติการนิติสงครามที่นำมาใช้จัดการนักการเมือง (2) ปฏิบัติการนิติสงครามที่นำมาใช้ปราบปรามประชาชนผู้ต่อต้านรัฐ และ (3) เราจะหยุดปฏิบัติการนิติสงครามอย่างไร

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนายปิยบุตร เล่าตอนหนึ่งว่า จุดเริ่มต้นนิติสงครามเป็นบัญญัติศัพท์ภาษาไทยที่ตนคิดขึ้น ซึ่งผลพวงที่ตามมาคือ บรรดาองค์กรตุลาการ เข้ามาในแดนการเมือง และทำให้เกิดบรรดานักร้องเรียน ศตวรรษนี้เปลี่ยนจากการใช้อาวุธมาเป็นใช้กฎหมายแทน สังเกตจากการชุมนุมตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน เทคนิคที่เขาใช้คือเมื่อมี ‘ธง’ มาแล้วว่าห้ามการชุมนุมเกิดขึ้นเด็ดขาด ก็ต้องเริ่มต้นจากการเข้าไปจับ นำตัวออกจากพื้นที่ แล้วตั้งข้อหาแบบกวาดกองไว้เยอะๆ เปิดกฎหมายสักฉบับมันต้องเจอสักข้อหา เมื่อตั้งข้อหาเยอะ ก็ต้องมีข้อหาพิเศษที่โทษสูงๆ เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ เพื่อจะประกันตัวไม่ได้ เช่น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ข้อหายุยงปลุกปั่น หรือมาตรา 112 เป็นอาวุธลับพิเศษ

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน, ผู้คนกำลังยืน, แบนเนอร์ และ ข้อความ

นายปิยบุตร ยังบอกแนวคิดหยุดปฏิบัติการนิติสงครามประกอบด้วย (1) ใช้กลไกในสถาบันทางการเมือง ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายเรื่อง เช่น จำกัด-ตีกรอบ-ลดทอนอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ไม่ให้ครอบจักรวาลแบบนี้ เหลือเพียงตรวจสอบว่ากฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และสร้างระบบตรวจสอบถ่วงดุลไขว้กัน นอกจากนี้ต้องแก้กฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาล หากสามารถลดเรื่องนี้ลงมาได้ จะเกิดการตรวจสอบซึ่งกันและกันผ่านการวิพากษ์วิจารณ์ (2) ฟ้องกลับ ถ้าประชาชนโดนนิติสงครามย่ำยี ถึงจุดหนึ่งอาจต้องใช้ ‘เกลือจิ้มเกลือ’ คือการฟ้องกลับเช็คบิลเจ้าหน้าที่ทุกระดับหรือแม้กระทั่งศาล ในต่างประเทศเริ่มแล้ว โดยความช่วยเหลือขององค์กรภาคเอกชน (3) สร้างคนที่มี ‘จิตสำนึกแบบใหม่’ ส่งเข้าไปในระบบ เช่น ใครจะเป็นอัยการหรือผู้พิพากษา กล้าหาญที่จะใช้คุณธรรมจริยธรรมจิตสำนึกของตนเอง ในการตัดสินคดีแม้อาจขัดใจนาย หรือกระทบการเลื่อนตำแหน่ง เราได้เห็นแล้วว่ามีผู้พิพากษาจำนวนไม่น้อยกล้ายกฟ้องคดี 112 แม้จะเป็นแค่ศาลชั้นต้น แต่ถ้าคนรุ่นใหม่เข้าไปอยู่ในระบบเยอะๆ จับกลุ่มก้อนคุยกันว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง นี่คือวิธีการที่เป็นระยะยาวที่สุด

อาจเป็นรูปภาพของ 7 คน และ ข้อความพูดว่า "The Rule Law In the2 Century Foundation for Democratic Reforms"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน
ก.แรงงานทำสำเร็จ นำประชุมบอร์ดค่าจ้าง ได้ข้อสรุป ปรับขั้นต่ำขึ้น 400 ต่อวัน เริ่ม 1 ก.ค.ทั่วกรุงฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น