เอาจริง “เศรษฐา” เตรียมนอนทำเนียบฯ ลั่นจะลุยทำงานไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย

"นายกเศรษฐา" เตรียมไปนอนทำเนียบฯ ลดภาระหน่วย ตร-รปภ. ลุยทำงานอย่างไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย เผย "บิ๊กตู่" เตือนระวังเจอครหาสร้างภาพ ขอให้ประชาชนเป็นผู้เขียนเรื่องราวของตนแทน

18 ก.ย.2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Future Perfect เปิดมุมคิด พลิกอนาคต” ในงานเสวนา Thairath Forum 2023 โดยช่วงหนึ่ง นายสรกล อดุลยานนท์ ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า จะไปนอนทำเนียบจริงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จริง เพราะบ้านมีแค่ 197 ตารางวา มันเล็กมาก เพื่อนบ้านเดือดร้อน เดินทางเยอะ ไม่อยากเป็นภาระกับตำรวจกับหน่วยรักษาความปลอดภัยด้วย ตนเป็นคนง่ายๆ ตื่นมาแล้วปั๊บ ถ้ากินอาหารเช้า ตอน 06.30 น. ก็ต้องมีคนมาสั่งงานได้แล้ว 06.30 น. แล้วก็ไปอาบน้ำต่อ ขอเป็นภาระกับเลขา 4-5 คน

 

 

เมื่อถามว่าไปนอนจริงจังหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็คง 3-4 วันต่ออาทิตย์ ถ้าหากมีภารกิจตอนค่ำ ก็สั่งงานก่อนนอนได้อีกครั้ง จะพยายามเต็มที่ เพราะว่าอย่างที่บอกเทหมดหน้าตักจริงๆ ก็ต้องทำงานกันหนัก แต่ก็เข้าใจว่าแต่ละคนมีขีดที่รับงานได้ต่างกันไป คนไหนรับได้ก็รับ คนไหนรับไม่ได้ก็เวียนกันมาทำงานกัน ไม่มีปัญหา บอกกันได้ ว่าไหวไม่ไหว

ข่าวที่น่าสนใจ

“ผมได้บอกท่านนายกฯประยุทธ์ ไปในวันที่พบท่าน ท่านก็บอกว่า ระวังนะคนหาว่าสร้างภาพ ผมก็พยักหน้า รับทราบ ก็เข้าใจครับ ก็เข้าใจในความหวังดี ในการเตือน โดนแน่นอน”

 

ผู้ดำเนินรายการจึงแซวว่า นึกว่าจะบอกว่า คุณชวน หลีกภัย ไม่รู้จักผม นายเศรษฐา ได้หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว ผู้ดำเนินรายการจึงกล่าวต่อว่า แต่อย่าอยู่เพียงแค่อาทิตย์ 2 อาทิตย์ แล้วออกนะครับ มันมีข่าวลือต่างๆ มากมาย

เมื่อถามว่า นายกฯ ชอบลิเวอร์พูล มีคำของ เยือร์เกิน นอร์แบร์ท คล็อพ ผู้จัดการทีม เคยกล่าวไว้ว่า ไม่ว่า หงส์แดงยิ่งใหญ่อย่างไร ผมอยากจะเขียนเรื่องราวของเราเองและอยากจะเขียนประวัติศาสตร์ของเราเอง คุณเศรษฐา เพิ่งมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อยากจะเขียนเรื่องราวอย่างไร และอยากให้วันที่ลงจากตำแหน่ง ไม่ว่าเป็น 2 ปี 4 ปี 6 ปี หรือ 8 ปี อยากให้คนจำ จำว่าอย่างไร

 

 

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมไม่อยากเขียนเรื่องราวของตัวเอง ผมอยากให้คนอื่น ประชาชนเขียนเรื่องราวของผมนะครับ ผมอยากให้ประชาชนเขียนว่าชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างไร ความแตกแยกของสังคม ไม่ว่าจะความต่างวัย หรือความต่างความคิด เราสามารถอยู่กันได้ โดยไม่มีการด้อยค่าซึ่งกันและกัน โดยใช้คำที่หยาบคาย โดยที่เราสามารถนั่งอยู่บนเวทีอย่างนี้ได้และพูดจากันได้ ที่ไม่มีเยาะเย้ย ถากถาง เมื่อผมพูดแล้วผมรู้ว่าผมถูก หรือว่าอาจจะโดนใจประชาชนมากกว่า แล้วมองกันด้วยสายตาที่ถากถางดูถูก ยิ่งสร้างความเกลียดชัง และแตกแยกมากขึ้นไปอีก ตรงนี้เป็นเรื่องอะไรที่ผม อยากให้สังคมดีขึ้น จนหมดเทอมของผมเอง และอยากให้มีการดีขึ้นอย่างมีนัยที่สำคัญที่สุด”

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โรงพยาบาลเบตงจัดกิจกรรม “รวมพลังพยาบาลรักษ์สุขภาพประชาชน” เนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2568 เทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
บก.Topnews “ทั่วไทย” ภาคเหนือ นำทีมเข้าร่วมแสดงความยินดี “นายสัญจัญ จันทร์ผ่อง” ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ
ไทย–เมียนมา ประกาศความสำเร็จ 1 ปี “ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” เดินหน้าสู่มาตรการปลอดการเผา เริ่ม 1 ม.ค. 2569 สอดรับยุทธศาสตร์ฟ้าใส สร้างห่วงโซ่อาหารปลอดฝุ่นระดับภูมิภาค
กรมอุทยานฯ -​ กอ.รมน. ประสานความร่วมมือปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ เตรียมพร้อมรับมือไฟป่าและภัยธรรมชาติ
“นฤมล” ประชุมผู้บริหาร “อาชีวศึกษา” ลั่นอาชีวะต้องไม่ใช่แค่เด็กช่าง วางเป้าพัฒนาให้ทันยุค VUCA World เปิดทางเอกชน ร่วมผลิตกำลังคนคุณภาพ
พังงา-เริ่มแล้วฤดูเจ้ยเคย ชาวประมงพื้นบ้านออกเรือเจ้ยตัวเคยขาย สร้างรายได้วันละนับหมื่นบาท

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​