ที่ สถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พ.ต.ท.วรพรต พลานิสงค์ รอง ผกก. กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สว. ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 ร่วมประชุมรับฟังปัญหาจากสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย โดยมี นายวัสน์พล อรรถพรธนเสฐ ประธานสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และตัวแทนมัคคุเทศก์ เป็นชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว รวมสร้างภาพลักษ์ที่ดีในอุตสากรรมการท่องเที่ยว
หลังจากประชุมหารือเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และตัวแทนสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ ตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อป้องกันต่างชาติแย้งอาชีพคนไทย แก้ไขปัญหาไกด์เถื่อน
พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สว. ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 เปิดเผยว่า ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ร่วมกับ กองกำกับการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบบริษัททัวร์ และมัคคุเทศก์ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ซึ่งการออกตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ ตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ นั้นทางเจ้าหน้าตำรวจท่องเที่ยวได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปราบปรามและควบคุมวงจรอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องในประเทศไทยและเมืองพัทยา
ทั้งนี้หลังการตรวจสอบไม่พบการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ แต่อย่างใด มัคคุเทศก์ทุกคนก็มีใบอนุญาตประกอบอาชีพถูกต้องและมีใบสั่งงานการนำเที่ยวที่ถูกต้อง ซึ่งอาชีพมัคคุก์เทศถือเป็นอาชีพสงวนของคนไทย หากต่างชาติมาประกอบอาชีพก็ถือเป็นการแย้งอาชีพคนไทย ซึ่งอาชีพมัคคุเทศก์หรืองานจัดนำเที่ยวเป็นอาชีพที่ผู้ประกอบวิชาชีพต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น เป็นงานที่ห้ามคนต่างชาติทำโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ส่วนคนไทยที่มีบัตรประกอบอาชีพมัคคุเทศก์และปล่อยให้ต่างชาติประกอบอาชีพดังกล่าวก็จะมีความผิดฐานยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่มีใบอนุญาตมัคคุเทศก์แทนตน โดยในส่วนคนไทยที้ปล่อยให้มีการทำหน้าที่แทนตัวเองจะทีโทษทางอาญา สำหรับต่างชาติก็ที่ประกอบอาชีพไกด์เถื่อน ก็จะถูกดำเนินคดีทางอาญาและเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะถอนวีซ่าและ.ขึ้นแบล็คลิส ตามกระบวนกรรทางกฎหมาย
