13 มิ.ย. 66 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ระบุข้อความว่า เหลือเชื่อที่สื่อกระแสหลักช่องหนึ่ง ไปนำเอาคลิปการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น itv มาดู นำเสนอ แล้วสรุปเลยว่า ไม่ตรงกับเอกสารบันทึกรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และระบุเป็นคลิปฉบับเต็มไม่มีตัดต่อ แม้อ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.จะทักท้วงว่าคลิปที่เห็นนั้นมีจุดที่สะดุดเหมือนมีการตัดต่อ นักข่าวของสื่อนั้นยังยืนยันว่าเป็นฉบับเต็มไม่มีการตัดต่อ ที่สะดุดน่าจะเป็นเพราะสัญญาน internet ไม่เสถียรมากกว่า

คนในครอบครัวผมมีอาชีพรับถ่ายทำ ตัดต่อวีดิโอ เขาดูปราดเดียวก็บอกได้เลยว่ามีการตัดต่อที่ภาษาเทคนิคเรียกว่า “jump cut” คือตัดบางช่วงออกแล้วนำมาชนกัน แตกต่างกับสัญญาน internet มีปัญหาอย่างชัดเจนเพียงแต่เราไม่ทราบว่าภาพและคำพูดที่ถูกตัดออกไปคืออะไรบ้าง จะให้แน่คือต้องนำคลิปเต็ม ๆ (ถ้ามี) มาเปิดดูให้ตลอดจึงจะบอกได้ว่าคำพูดของประธานที่ประชุมในคลิป กับเอกสารบันทึกรายงานการประชุมอย่างเป็นทางการซึ่งมีประธานที่ประชุมลงนามและยังมีผู้ตรวจทานลงนามกำกับอีกด้วยนั้น ตรงกันหรือไม่ ไม่อาจสรุปได้ในทันที

คลิปวีดิโอดังกล่าวดูจะถูกใจพรรคก้าวไกลและด้อมส้มอย่างยิ่งว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคน เมื่อเห็นคลิปก็สรุปทันทีว่า คลิปนี้เป็นของจริงแต่เอกสารบันทึกรายงานการประชุมที่คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นำมายื่นต่อกกต.อาจเป็นเอกสารเท็จ

ข่าวที่น่าสนใจ

จะทำความเข้าใจเรื่องนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่า บันทึกรายงานการประชุมคืออะไร บันทึกรายงานการประชุมไม่ใช่การถอดเทปการประชุมซึ่งต้องบันทึกทุกคำพูด แต่เป็นบันทึกที่สรุปเนื้อหาที่สำคัญของการประชุมในแต่ละวาระไม่ได้บันทึกทุกคำพูดที่แต่ละคนพูดในที่ประชุม ดังนั้นบันทึกการประชุมกับคลิปการประชุมที่มีการตัดต่อ ไม่ตรงกันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ในกรณีนี้ในบันทึกรายงานประชุม ได้บันทึกคำตอบของประธานที่ประชุมต่อคำถามของผู้ถือหุ้นรายหนึ่งซึ่งถามว่า itv ยังดำเนินธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ว่า “ปัจจุบันยังคงดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ”

ในคลิปดังกล่าวไม่มีเสียงคำถามของผู้ถือหุ้น แต่มีเสียงคำตอบของประธานที่ประชุมว่า “ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ นะครับ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อนนะครับ”

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ประธานที่ประชุมพูดจริงทั้ง 2 ข้อความ แต่ข้อความหลังตามคลิปอาจไม่ใช่สาระสำคัญของคำตอบจึงไม่ได้บันทึกไว้ในรายงานการประชุม ประโยคที่ว่า “ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ” อาจเป็นคำตอบคำถามอื่น เช่น “ได้เตรียมการที่จะทำรายการออกกาศอีกครั้งแล้วหรือยัง” ก็ได้ จะให้แน่ ๆ ต้องเปิดใจให้กว้างแล้วนำคลิปฉบับเต็มมาดู จึงจะบอกได้แน่นอน ขณะนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดข้างต้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือ

1. คุณพิธา ถือหุ้น itv ในชื่อคุณพิธา ไม่มีวงเล็บว่าในฐานะผู้จัดการมรดก

2. คุณพิธา เพิ่งโอนหุ้นให้ทายาทคนอื่นไปในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ดังนั้น ณวันที่ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งในปี 2562 และปี 2566 คุณพิธายังคงถือหุ้น itv อยู่

3. itv ยังไม่เคยจดแจ้งเพื่อเลิกกิจการและปิดบริษัท และไม่ได้เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของบริษัทแต่อย่างใด ยังมีการประชุมผู้ถือหุ้น ส่งงบการเงิน และยื่นแบบภาษีเงินได้ตามปกติ ดังนั้นแม้ว่า itv ไม่ได้ทำรายการออกอากาศทางโทรทัศน์คลื่น UHF เนื่องจากถูกบอกเลิกสัญญาสัมปทานไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ทำสื่ออื่น ๆ เลย

ดังนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคุณพิธาจะรอดหรือไม่รอดจากการถือหุ้น itv ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยหรือคำตัดสินของศาล ไม่ว่าจะเป็นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไป แต่ต่อให้คุณพิธารอดจากกรณีถือหุ้น itv ไปได้ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านด่านวุฒิสมาชิกไปได้ไม่ใช่เป็นเพราะอะไร แต่เป็นเพราะตัวตนคุณพิธาเองที่เริ่มแสดงให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสิ้น

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร, หุ้นสื่อ, หุ้นไอทีวี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รศ.หริรักษ์” ยก 3 ประเด็นชี้อนาคต”พิธา” ยันคลิป-เอกสารประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ไม่ใช่สาระถกเถียง