“สสจ.จันทบุรี” ออกชี้แจงแล้ว ปมให้ยาผิดสาวท้องแก่ จนเกือบไม่รอด

"สสจ.จันทบุรี" ออกชี้แจงแล้ว ปมให้ยาผิดสาวท้องแก่ จนเกือบไม่รอด

วันที่ 24 พ.ค.66 จากกรณีที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 แชร์ภาพหญิงสาวคนหนึ่งในชุดผู้ป่วย พร้อมระบุข้อความว่า “ชีวิตคนไข้ 1 ชีวิตนะ..ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเท็จจริงมันเกิดได้อย่างไร..สาธารณสุขจังหวัดต้องตรวจสอบด้วยแล้ว…มีมาตรการการแก้ไขป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกไหม??? #จันทบุรี” หลังจากที่ทางโรงพยาบาลหยิบยาผิด

นอกจากนี้ผู้ป่วยยังระบุอีกว่า ได้มาเจาะเลือดที่ รพ.แล้วทางเจ้าหน้าที่หยิบให้ผิด ซึ่งปกติต้องกินน้ำตาล แต่วันนนั้นเจ้าหน้าที่เอายาชามาให้กิน 2 ขวด ส่วนตัวคิดว่าเปลี่ยนยาให้ จากนั้นเริ่มเอะใจเลยถาม เจ้าหน้าที่ว่าเปลี่ยนเหรอ แต่ฝั่งคุณหมอบอกไม่ได้เปลี่ยน สักพักเริ่มมีอาการปากชามือชาเวียนหัว ขยับตัวไม่ได้แล้ว แต่ ได้ยินทุกอย่างแต่ตอบโต้อะไรไม่ได้เลย เริ่มมีอาการเวียนหัว มือเท้ากระตุกตลอด สักพักแขนขากระตุกแรงมากเหวี่ยงไปเอง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หายใจไม่ออก และกรี๊ดเหมือนจะชักเหมือนคนกำลังจะตาย จังหวะนั้นคือกลัวตายมาก กลัวลูกในท้องจะเป็นอันตราย ทางเจ้าหน้าที่คนที่ให้ยาผิดมาขอโทษ ตนก็ยกโทษให้ แต่ทางกฎหมายไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

สรุปทางโรงพยาบาลหยิบยาผิด ไม่ใช่น้ำตาล แต่มันคือยาชา ที่เบิกมาเพื่อจะเอาไว้ฝังเข็มยาคุม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ได้ออกมาชี้แจงแล้วถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยนายแพทย์ อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี และนายแพทย์อภิสิทธิ์ ดุจวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแก่งหางแมว พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมอาการของ นางสาวอรัญญา บำรุงกิจ อายุ 25 ปี ที่เป็นผู้เสียหาย ที่โรงพยาบาลแก่งหางแมว พบว่าอาการดีขึ้นแล้ว

เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับทีมแพทย์แล้ว ส่วนอาการกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงทั้งตัวผู้เสียหายเองและเด็กในครรภ์พี่จะคลอดออกมาในอีกสองสัปดาห์หน้านี้ โดยทางคณะแพทย์รับปากจะดูแลตัวผู้เสียหายและเด็กในครรภ์ให้ดีที่สุดยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งและจะดูแลต่อไปจนถึงหลังคลอด

โดยนายแพทย์อภิรักษ์ สสจ.จันทบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้ทางผู้เสียหายและเด็กในครรภ์ปลอดภัยดีแล้ว จากการพูดคุยตัวผู้เสียหายเองต้องการให้ทางทีมแพทย์ดูแลไปจนถึงหลังคลอด เพราะเป็นห่วงเด็กในครรภ์ว่าหลังคลอดมาแล้วจะมีผลกระทบอย่างไรหรือไม่

ส่วนในเรื่องของการเยียวยาทางโรงพยาบาล มีหลักประกันสุขภาพตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ซึ่งขณะนี้ได้จัดการให้แล้วและจะเข้าในที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนปัญหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น ยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นจริง โดยตรวจสอบแล้ว พบว่า ผิดพลาดจากการส่งมอบยา โดยที่ไม่มีการตรวจสอบให้แน่ชัด ก่อนที่จะส่งถึงมือคนไข้

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่จะต้องมีการปรับปรุงและมีการจัดระบบใหม่เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก ส่วนในทางคดีทางผู้เสียหายได้เข้าใจดีแล้วจะไม่มีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ไฟไหม้ตลาดเสื้อผ้าชื่อดังกลางเมืองหลวงจอร์เจีย
“พล.ท.นันทเดช” ชี้กฎกรรมเริ่มทำงาน คนผิดไม่มีทางหลุดพ้น เชื่อไม่รอดถึงตั้งกาสิโน
ปชช.หลั่งไหลวัดโสธรพาครอบครัวขอพรวันแรงงาน
ผู้การแปดริ้ว มอบใบประกาศเกียรติการปฏิบัติงานดีเด่นด้านงานปราบปรามสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ
อนุ กมธ.การเงิน การคลัง เสนอแนวทางแก้ไขปัญหารายได้การยาสูบแห่งประเทศไทยตกต่ำ เหตุซื้อภายในประเทศมีการผูกขาด
กรมควบคุมโรคเตือน! เฝ้าระวังติดเชื้อ "แอนแทรกซ์" หลังคร่าชีวิตชาวมุกดาหาร 1 ราย เจอกลุ่มเสี่ยงอีก 247 คน
“สมศักดิ์” จ่อฟันโทษ "ผอ.รพ.ชัยภูมิ" เมาแล้วขับชนสื่อ ชี้ผิดร้ายแรง ทำเป็นคดีตัวอย่าง สั่งดูแลคนเจ็บเต็มที่
"หมอวรงค์" เตือนเสี่ยงถึง "นายกอิ๊งค์" ถ้าศาลฎีกาฯ ไต่สวนเชื่อได้ว่า "ทักษิณ" ป่วยทิพย์
ครอบครัว "น้องการ์ตูน" แจ้งข่าว ขอยุติการรักษา ตัดสินใจให้น้องไปอย่างสงบ หลังต่อสู้รักษามายาวนานกว่า 10 ปี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ช้างป่าแวะบ้านคน 'กินจุบจิบ' ที่สิบสองปันนา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น