“ปิยบุตร” ไม่โอเค MOU “ก้าวไกล” ชี้เขียนเป็นบ่วงรัดคอ ทำยากแก้ 112 แถมยังตัดทิ้งพันธกิจสำคัญ นิรโทษกรรมคดี 3 นิ้ว

"ปิยบุตร" ไม่โอเค MOU "ก้าวไกล" ชี้เขียนเป็นบ่วงรัดคอ ทำยากแก้ 112 แถมยังตัดทิ้งพันธกิจสำคัญ นิรโทษกรรมคดี 3 นิ้ว

หลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้จับมือ 8 พรรร่วม จัดตั้งรัฐบาล โดยมีบันทึกข้อตกลงของ 8 พรรคร่วมจะมีถึง 23 ข้อ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 นั้น ทีมเจรจาระบุว่า จะใช้กลไกของพรรคก้าวไกลผลักดันต่อในสภา แต่ MOU เขียนชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ เป็นข้อเท็จจริงว่า ขณะนี้การทำบันทึกข้อตกลงของว่าที่รัฐบาลใหม่ ยังไม่มีมรรคผลในทางปฎิบัติ

 

 

 

 

 

 

 

ล่าสุดนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul –ปิยบุตร แสงกนกกุล ระบุว่า [สองประเด็นที่ผมไม่เห็นด้วยกับ MOU การร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกล]

 

ผมขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่สามารถเจรจาการจัดตั้งรัฐบาลคืบหน้าไปอีกขั้นตอน และสนับสนุน เอาใจช่วยให้ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จภายใต้การนำของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผมได้อ่าน MOU การร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกลแล้ว ผมไม่เห็นด้วยในสองประเด็น ซึ่งแตกต่างไปจากเนื้อหาที่ปรากฏในร่าง MOU สุดท้ายที่หลุดออกมาทางสื่อ

ประเด็นแรก

การเพิ่มข้อความที่ว่า “ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะอันเป็นที่สักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์”

 

 

เหตุผล ข้อความเหล่านี้ปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญ 2560 อยู่แล้วว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และรูปแบบของรัฐได้

การบัญญัติข้อความนี้ซ้ำลงไป ไม่ส่งผลใด ๆ ในทางกฎหมายและในทางการเมือง เพราะอย่างไรเสีย รัฐบาลใดที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐและระบอบการปกครองได้อยู่แล้ว พวกที่ทำแบบนี้ได้ คือ พวกก่อการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้น ตรงกันข้าม การเขียนลงไปแบบนี้ คือ การแสดงออกแบบ “กินปูนร้อนท้อง” หรือ “วัวสันหลังหวะ” เสียมากกว่า

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนั้น การเพิ่มถ้อยคำที่ว่า “สถานะอันเป็นที่สักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ขององค์พระมหากษัตริย์” ก็อาจเป็น “บ่วงรัดคอ” ที่ทำให้พรรคก้าวไกลต้องประสบปัญหาในการเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ในอนาคต

ตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี ผมแสดงความเห็นทางวิชาการไว้หลายครั้งเกี่ยวกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแบบมาตรา 6 ที่ว่า “องค์พระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้” โดยเฉพาะประเด็นประวัติศาสตร์ความเป็นมาของบทบัญญัตินี้ การเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญต่างประเทศ แนวทางการตีความของศาลรัฐธรรมนูญไทยที่ตีความกว้างขวางออกไปเกินความเป็นจริงจากเจตนารมณ์ของบทบัญญัตินี้ และเห็นว่าควรปรับแก้บทบัญญัตินี้เสียใหม่ ให้สอดคล้องกับหลัก “พระมหากษัตริย์ไม่ทรงกระทำผิด เพราะพระมหากษัตริย์ไม่ทรงมีพระราชอำนาจทางการเมือง การบริหาร โดยแท้ แต่เป็นรัฐมนตรีผู้มีอำนาจและต้องรับผิด” แต่นั่นเป็นความเห็นส่วนตัวของผม ส่วนพรรคก้าวไกลจะคิดอ่านแก้ไขเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของพวกเขา (ซึ่งผมคิดว่าพวกเขาคงไม่แตะ)

ผมเห็นว่า การเพิ่มถ้อยคำนี้ลงไปใน MOU อาจจะไป “รัดคอ” พรรคก้าวไกลในภายหล้งได้ เมื่อพรรคก้าวไกลเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 (ตามที่เคยเสนอไป และตามที่เคยแถลงเป็นนโยบาย) ก็อาจจะถูก ส.ส. ส.ว. และศาลรัฐธรรมนูญ นำมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญมาผสมผสานกับข้อความใน MOU ดังกล่าว มาขยายความตีความแบบพิสดาร เพื่อมัดไม่ให้พรรคก้าวไกลได้ใช้กลไกสภาแก้ไขมาตรา 112 ได้

ต้องไม่ลืมว่า ในส่วนแนวทางปฏิบัติ ข้อที่ 5 ใน MOU นี้ เปิดทางให้ ส.ส.ของแต่ละพรรคทำเรื่องอื่นๆได้ผ่านการตรากฎหมายในสภา แต่ “ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงนี้”

 

ประเด็นที่สอง

การตัดเรื่องการผลักดันให้มีการนิรโทษกรรมคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมือง ผ่านกลไกรัฐสภา ออกไป

 

เหตุผล พรรคก้าวไกลมีพันธกิจสำคัญที่รับมาจากความคาดหวังของประชาชน เยาวชน จำนวนมาก ในการยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่พัวพันกันมาตั้งแต่รัฐประหารปี 49 ผ่านเหตุการณ์ปี 53 ผ่านรัฐประหาร 57 และการชุมนุมของ “ราษฎร” ในปี 63-65
การจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้สำเร็จ ต้องใช้กลไกการนิรโทษกรรม ให้กับบุคคลที่ถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองเสียก่อน

กลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน พวกเขาเพียงแต่มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน เห็นไม่ตรงกันเท่านั้น

แน่นอน การทำเรื่องเหล่านี้ได้สำเร็จ สุดท้ายต้องไปจบที่สภา เพราะ ต้องตราเป็นกฎหมายนิรโทษกรรม แต่มันจะผ่านได้ ก็ต้องมีเสียงข้างมากในสภาสนับสนุน ดังนั้น ถ้าทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล 313 เสียง เห็นตรงกันตั้งแต่วันนี้ ก็เป็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” ให้ประชาชนคนธรรมดาทุกกลุ่ม ทุกฝักฝ่าย ที่ออกมาชุมนุมทางการเมือง แสดงออกทางการเมือง

 

 

อาจเป็นรูปภาพของ 5 คน และ ข้อความ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แม่ทัพภาคที่ 2" ย้ำมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยชาติ ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน
“นฤมล” ยืนยัน พรรคกล้าธรรม ยังสนับสนุน“นายกฯ” ทำงานต่อ ขอคนไทยสามัคคี อย่าหลงเกมกัมพูชา ช่วยกันส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า
ซีพีประกาศจุดยืน “องค์กรแห่งความหลากหลาย” เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
"ประเสริฐ" กางข้อมูล-หลักฐาน ซัด "กัมพูชา" เป็นแหล่งอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติใหญ่สุดในโลก
“ไตรศุลี” หอบใบลาออก 5 รมต.ภูมิใจไทย ยื่นนายกฯ มีผลทันที
“ประเสริฐ” พร้อมนั่ง "มท.1" ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมรบ.แน่นปึ้ก
วิบากกรรม “ตระกูลชินวัตร” จบไม่สวยกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พรุ่งนี้ “นายกฯ” ลงพื้นที่ชายแดน ช่องบก อุบลฯ นัดหมายคุยต่อหน้า “แม่ทัพภาคที่ 2”
ด่านคลองลึก คุมเข้มการเดินทางออกไปยังฝั่งปอยเปตอย่างเข้มงวด โดยแม่ทัพภาคที่ 1 เตรียมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว
"ภูมิธรรม" มั่นใจพรรคร่วมฯเดินหน้าบริหารปท.ต่อ เหน็บ "ภท." ไม่เข้าใจสถานการณ์ ร้องขออย่าขยายขัดแย้ง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น