วันที่ 17 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางนายพีระ เพชรพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส.อี.พี.เวิร์ลไวด์ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งเป็นโรงงานเลื่อยและอบ ไม้ยางพารา มีพนักงานประมาณ 200 คน เปิดเผยว่า รู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ กับโควิดและมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดพังงา จึงขอปิดกิจการถาวรสืบเนื่องจาก พบพนักงานติดเชื้อภายในโรงงาน และมีหนังสือคำสั่งให้ปิดโรงงาน 28 วัน จากการตรวจหาเชื้อตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อชาวเมียนม่าจำนวน 1 คน วันที่ 4 ส.ค. ตรวจพบผู้ติดเชื้อชาวเมียนม่าเพิ่ม ผู้ใหญ่ 6 คน เด็ก 2 คน รวม 8 คน วันที่ 7 ส.ค. ตรวจพบผู้ติดเชื้อชาวเมียนม่าเพิ่ม 4 คน วันที่ 16 ส.ค. ตรวจพบผู้ติดเชื้อ ผู้ใหญ่ชาวเมียนม่า 4 คน ผู้ใหญ่ชาวไทย 4 เด็กชาวไทย 3 คน รวม 11 คน ทุกครั้งที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ก็ต้องเริ่มต้น นับ 1 ใหม่ ในการกักตัว ตามมาตรการควบคุมโรค ของจังหวัดพังงา ซึ่งที่ผ่านมา โรงงาน ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดแล้ว ก็ไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติตามมาตรการ บับเบิ้ล ซีล ตามที่ได้รับการแนะนำได้
ดังนั้น ทางโรงงานประเมินดูแล้ว ถ้าสถานการณ์โควิดเป็นเช่นนี้เรื่อยไป โรงงาน ไม่น่าจะมีโอกาสได้กลับมาเริ่มประกอบกิจการต่อไปได้ พนักงานชาวไทยที่กักตัวอยู่ภายในโรงงาน ก็ยังไม่สามารถกลับบ้านไปพบครอบครัวได้ อีกยาวนาน รู้สึกสิ้นหวัง จึงประกาศขอปิดกิจการโดยถาวร พร้อมวิงวอนภาครัฐ ช่วยเยียวยา ผู้ที่ได้รบผลกระทบ ดูแลผู้กักตน ตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดพังงา ต่อไปด้วยโรงงานจัดอาหาร 3 มื้อ และเตรียมจ่ายเงินเยียวยาชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปของพนักงานที่กักตัว 200 คน โดยไม่พึ่งพาภาครัฐฯมา สิบกว่าวัน ไม่ไหวแล้ว โรงงานรู้สึกเสียใจ และขออภัย ลูกค้า พนักงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องกับโรงงานทุกท่าน อย่างยิ่ง มา ณ ที่นี้ด้วย
จักรพันธ์ รัตนอาภรณ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พังงา