“ศรีสุวรรณ” ร้องกกต.สอบ “เพื่อไทย” ชี้แจงนโยบายไม่ครบตาม ม.57 เชื่อแจกเงินดิจิทัล ทำไม่ได้

"ศรีสุวรรณ" ร้องกกต.สอบ "เพื่อไทย" ชี้แจงนโยบายไม่ครบตาม ม.57 เชื่อแจกเงินดิจิทัล ทำไม่ได้

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงานการเลือกตั้ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้วินิจฉัยคำชี้แจงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่

เนื่องจาก กกต. ได้เปิดเผยข้อมูลการชี้แจงนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่ต้องใช้เงิน ตามมาตรา 57 พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ซึ่งนโยบายที่เป็นที่พิพากษ์วิจารณ์คือนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งระบุว่าต้องใช้วงเงินถึง 5.6 แสนล้านบาทในการดำเนินนโยบายนั้น แต่ปรากฏว่าในเอกสารชี้แจงของพรรคการเมืองดังกล่าวระบุที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการว่า จะใช้การบริหารงบประมาณปกติ และบริหารระบบภาษีนั้น ซึ่งเป็นการชี้แจงตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ตาม ม.57 หรือไม่

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนรายละเอียดของที่มาของวงเงินที่ระบุว่าจะนำมาจาก 1.ประมาณการรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 67 : 260,000 ล้านบาท 2.ภาษีที่ได้จากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย : 100,000 ล้านบาท 3.การบริหารจัดการงบประมาณ : 110,000 ล้านบาท และ 4.การบริหารจัดการงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน : 90,000 ล้านบาทนั้น ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นที่สงสัยว่าจะตรงกับข้อเท็จจริงเพียงใดหรือไม่ เพราะวงเงิน 5.6 แสนล้านบาทต้องนำมาใช้ในครั้งเดียวก่อนเริ่มโครงการ จะอ้างนำภาษีที่ได้จากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย 1 แสนล้านบาทมารวมก่อนไม่ได้ ส่วนการตัดงบประมาณที่ซ้ำซ้อนก็ไม่แจ้งให้ชัดว่าจะตัดงบประมาณด้านใด ตัดงบบัตรคนจน ตัดงบผู้สูงอายุ ใช่หรือไม่ เป็นต้น

ที่สำคัญ หากพรรคเพื่อไทยจัดสรรเงินที่จะต้องนำมาใช้จ่ายตามกรอบวงเงินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่จะต้องใช้วงเงิน 560,000 ล้านบาทนั้น จะไปกระทบกับวงเงินงบประมาณจากนโยบายการใช้จ่ายเงินอื่น ๆ ของพรรคเพื่อไทยที่มีรวม 70 นโยบาย 15 ด้าน ตามเอกสารชี้แจง ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินที่ใช้ดำเนินการตลอดระยะเวลา 4 ปีตามวาระรัฐบาล รวมเป็นเงินประมาณ 3 ล้านล้านบาทด้วย

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การชี้แจงนโยบายดังกล่าว อาจไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของ ม.57 พรป.พรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่ง กกต./นายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องพิจารณาและวินิจฉัยว่านโยบายหาเสียงดังกล่าว มีความเป็นไปได้ หรือมีการปกปิดข้อมูลที่ควรจะแจ้งหรือไม่ หากมีการปกปิด ก็อาจจะเข้าข่ายผิด พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73(5) เป็นการจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองได้ แต่ถ้า กกต.ไม่ยอมวินิจฉัย สมาคมฯและผู้มีส่วนได้เสีย ผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็จะนำความไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองและ ป.ป.ช.ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2568
MEA ผนึกกำลังสมาคมฟุตบอลฯ หนุน "ฟุตซอลไทยลีก 2025" พร้อมเปิดลีกอย่างเป็นทางการ
มุ่งเป้าเจาะชั้นใต้ดิน จุดที่คาดว่าผู้สูญหายติดค้างอยู่ อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ เคลียร์ชั้นใต้ดินได้หมด
กรมส่งเสริมสหกรณ์ แจงพร้อมช่วยเหลือสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสหกรณ์การเกษตรแม่ทา จำกัด หลังประสบปัญหาขายนมไม่ได้ โต้! ผู้ประกอบการบางรายทำผิด MOU ซื้อขายน้ำนม
ระยอง เชิญเที่ยว เทศกาลผลไม้และของดีจังหวัดระยอง 2568 15-18 พ.ค.นี้ ชู ไฮไลต์ทุเรียนหมอนทอง-เที่ยวสวนเกษตร
"แอ็คมี่ วรวัฒน์" สร้างประวัติศาสตร์คนไทยคนแรก คว้ารางวัลเวทีระดับโลกที่ดูไบ
"ชูศักดิ์"ยัน"ราชทัณฑ์"ส่งตัวนักโทษรักษา ไม่ต้องขออนุญาตศาล เชื่อไต่สวนชั้น 14 ไม่กระทบรัฐบาล
"นฤมล" ย้ำผลงาน 3 หน่วยงาน ร่วมมือวางแผนเปิดกรีดยางช้า ดันราคายางโลกขึ้นไม่หยุด
"ปศุสัตว์นครพนม" สั่งคุมเข้มชายแดน สกัดเชื้อ "แอนแทรกซ์" ระวังการลอบนำเข้า "โค-กระบือ" จากพื้นที่เสี่ยง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น