No data was found

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำพิพากษา BTSC ยื่นฟ้องยกเลิกประมูลรถไฟฟ้าสีส้มมิชอบด้วยกม.

กดติดตาม TOP NEWS

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำพิพากษา BTSC ยื่นฟ้องยกเลิกประมูลรถไฟฟ้าสีส้มมิชอบด้วยกม.

วันนี้ (30 มี.ค.66) เวลา 9.00 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1455/2565 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย

สืบเนื่องจากคดีนี้ ผู้ฟ้องคดี (BTSC) ฟ้องว่า การที่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (คณะกรรมการคัดเลือกฯ) ได้มีมติเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ให้ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์- มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ออกประกาศ เรื่อง ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ณ วันที่ 3 ก.ค.2563 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าวลงวันที่ 3 ก.พ.2564 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เนื่องจากเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต ใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบ มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม กีดกันทางการค้า ขัดต่อแนวทางปฏิบัติในการคัดเลือกเอกชนในโครงการร่วมทุนอื่นๆ และอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ของเอกชนบางราย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้ซื้อและยื่นเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุน ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย จึงนำ คดีมาฟ้องต่อศาล

ต่อมาศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตามการประชุม ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2564 ที่เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 3 ก.ค.2563 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ ดังกล่าว และเพิกถอนประกาศของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เรื่อง ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าว ลงวันที่ 3 ก.พ.2564 ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติ และตั้งแต่วันที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ี 2 มีประกาศดังกล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติให้ยกเลิกการคัดเลือก และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ออกประกาศให้ยกเลิกประกาศเชิญชวน โดยพิจารณาแต่เพียงความเห็นของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ว่าผู้ฟ้องคดีไม่มีความเสียหายใดๆ จากการยกเลิกการคัดเลือกดังกล่าว ทั้งที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องคดีหรือผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นได้แสดงความคิดเห็น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในเรื่องที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองประสงค์จะออกคำสั่ง มาเพื่อแก้ไขปัญหาว่าจะช่วยลดหรือแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งในการดำเนินโครงการได้จริงหรือไม่

หรือรอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้แก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นการชั่วคราว หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่นเสียก่อน หรือรอคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 ก่อน ซึ่งการดำเนินการตามวิธิการดังกล่าวอยู่ในวิสัยที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองสามารถที่จะกระทำได้ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นของเอกชนที่จะร่วมลงทุน ในความโปร่งใสและตรวจสอบได้ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของความเป็นหุ้นส่วนกันระหว่างรัฐและเอกชน

การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติให้ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน และการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ออกประกาศยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุน โดยมิได้พิจารณาที่จะดำเนินการดังกล่าว อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าในการมีมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และในการออกประกาศของผู้ถูกฟ้องคดีที่ี 2 มิได้คำนึงถึงความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในการจัดทำและดำเนินโครงการร่วมลงทุน รวมถึงกระบวนการตัดสินใจที่เกี่ยวข้อง

และความเชื่อมั่นของเอกชนที่จะร่วมลงทุนในความโปร่งใส และตรวจสอบได้ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของความเป็นหุ้นส่วนกันระหว่างรัฐและเอกชน ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ที่มุ่งประสงค์ให้การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการของรัฐ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปราศจากการมีส่วนได้เสียในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน อันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในการได้รับการบริการของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ

จึงฟังไม่ได้ว่ามติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และประกาศของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ออกมาโดยมีเหตุสมควรและมีความจำ เป็นเพื่อให้การบังคับใช้ตามมติและประกาศดังกล่าวบรรลุซึ่งประโยชน์สาธารณะตามเป้าประสงค์และตามเจตนารมณ์ที่ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 บัญญัติไว้อย่างครบถ้วน อันถือว่าเป็นมติและประกาศที่ออกโดยใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ต่อศาลปกครองสูงสุด

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้ยกฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมทุน มาตรา 36 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเเห่งประเทศไทย ระบุ คณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) มีอำนาจยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 3 ก.ค.2563 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าวลงวันที่ 3 ก.พ.2564 เป็นไปด้วยชอบตามกฎหมาย

ศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยว่า การยกเลิกประกาศเชิญชวนเอกชน ทางด้านของคณะกรรมการ ม. 36 และรฟม. สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ปี 62 และในเอกสาร RFP ที่ได้ระบุไว้ว่า รฟม.สงวนสิทธิในการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเมื่อ 3 ก.ค.63 ได้ และเป็นการกระทำโดยสุจริต

นอกจากนี้ ศาลฯ ได้เห็นว่า ไม่ได้เป็นการกระทำที่เอื้อต่อเอกชนรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ส่วนกรณีที่โครงการดังกล่าวมีการฟ้องร้องอีกหลายคดีนั้น ให้ดำเนินการยกเลิกประกาศต่อได้ โดยไม่ต้องรอให้ศาลมีคำวินิจฉัย รวมทั้งให้ความเห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 รายจะต้องคัดเลือกเอกชนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากล่าช้าจะส่งผลกระทบด้านผลตอบแทน งานโยธามีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และทำให้สิทธิประโยชน์ของผู้ใช้บริการลดลง จากเป้าหมายที่กำหนดว่าจะมีผู้ใช้บริการกว่า 430,000 คนต่อวัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลโชว์ผลงาน ดึงบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง ลงทุน EEC
"เลขานุการกรมราชทัณฑ์" แจงยังไม่ได้รับรายงาน "บุ้ง" หัวใจหยุดเต้น ก๊วน 3 นิ้ว รัว ๆ ข่าวผ่านโซเชียล
"บุ้ง ทะลุวัง" หัวใจหยุดเต้น จนท.เร่งปั๊มหัวใจช่วยชีวิต
อุทยานแห่งชาติฯ พีพี เร่งปิดจุดดำน้ำตื้น-ดำน้ำลึกบางจุด หลังพบปะการังฟอกขาวเกิดจากสภาพแวดล้อมน้ำทะเลผิดปกติ
"โจ มณฑานี" โพสต์จากใจ ถึง Top News เชื่อมั่นสู้เพื่อ 3 สถาบันหลักชาติ
"พิพัฒน์" หนุนดูแลครอบครัวแรงงาน ผ่านโครงการ "ครอบครัวประกันสังคม" สร้างขวัญกำลังใจในองค์กร นำร่องเพชรบุรีที่แรก
เปิดมุมมอง "ปกรณ์ นิลประพันธ์" การกำหนดนโยบายสาธารณะ (Public policy)
พายุฝุ่นถล่มนครมุมไบ อินเดีย ทำป้ายยักษ์ถล่มทับชาวบ้านเสียชีวิต 8 ราย
ตร.พบเบาะแส "หนุ่มเกาหลี" ถูกฆ่ายัดถังปูน เงินหายจากบัญชี 30 ล้านวอน หลังเสียชีวิต 4 วัน
สภาพอากาศวันนี้ ไทยตอนบนร้อนจัด อุตุฯเตือน 40 จว.เจอฝนฟ้าคะนองลมแรง กทม.อ่วม ฝน 60 %

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น