“ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ”-องค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง แนะวิธีรับมือวิกฤตฝุ่น PM 2.5

“ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ”-องค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เตือนวิธีรับมือวิกฤตฝุ่น PM 2.5

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เผยคำแนะนำวิธิปฏิบัติตัวของประชาชนในช่วงวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ย้ำควรงดทํากิจกรรมกลางแจ้ง ยกเว้นผู้ที่ต้องทําหน้าที่บริการสาธารณะกลางแจ้งให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา

ข่าวที่น่าสนใจ

เฟซบุ๊ก “Ittaporn Kanacharoen” หรือ พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้ออกมาโพสต์คำแนะนำวิธิปฏิบัติตัวของประชาชนในช่วงวิกฤตฝุ่น PM 2.5 จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง โดยระบุไว้ว่า “เป็นที่ทราบและตระหนักกันดีถึงพิษภัยต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ทั้งผลเฉียบพลันและผลเรื้อรัง ไม่เฉพาะผลต่อระบบการหายใจที่เป็นช่องทาง นําพาฝุ่นเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น ฝุ่น PM2.5 ยังมีผลต่อการเกิดโรคระบบต่าง ๆ เช่นระบบหลอดเลือดและหัวใจ ระบบประสาท หลอดเลือดสมอง และโรคไต ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายได้มากคือ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง (โรคปอด หัวใจ สมอง และไต) ในขณะที่ทุกภาคส่วนกําลัง ระดมสมองแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประชาชนควรดูแลสุขภาพของตัวเองในช่วงที่ฝุ่นมีปริมาณสูง ดังนี้

1. หมั่นตรวจสอบคุณภาพอากาศจากแหล่งข้อมูลของรัฐและเอกชนอย่างสม่ําเสมอ หรือใช้เครื่องวัดปริมาณฝุ่นแบบพกพา เพื่อวางแผนกิจวัตร ประจําวันให้เหมาะสมและให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสูด PM2.5โดยการจัดให้มีพื้นที่ปลอดภัย (safetyzone)

2. เมื่อค่า PM 2.5 ในขณะนั้น (ค่ารายชั่วโมง) ขึ้นสูงเกินเกณฑ์ คือ

ก. สูงกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กลุ่มเสี่ยงควรงดทํากิจกรรมกลางแจ้ง บุคคลทั่วไปควรลดและปรับเวลาทํากิจกรรมกลางแจ้ง โดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ข. สูงกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนควรงดทํากิจกรรมกลางแจ้ง ยกเว้นผู้ที่ต้องทําหน้าที่บริการสาธารณะกลางแจ้งให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา
ค. สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนควรอยู่ในตัวอาคารซึ่งติดตั้งระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ยกเว้นผู้ที่ต้องทําหน้าที่บริการสาธารณะกลางแจ้ง ให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา และจํากัดช่วงเวลาปฏิบัติงานไม่ให้ เกินครั้งละ 60 นาที

3. ขณะที่ปริมาณฝุ่นภายนอกขึ้นสูง ภายในตัวอาคารควรจัดให้มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

4. การออกกําลังกายสม่ําเสมอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงลดโอกาสเจ็บป่วย แต่ขณะที่ปริมาณฝุ่นขึ้นสูงควรหลีกเลี่ยงหรือลดเวลาการออกกําลังกายกลางแจ้งตามระดับเตือนภัยในข้อ 2 หรือออกกําลังกายในร่มที่มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

5. ดื่มน้ําสะอาดให้เพียงพอ จะช่วยเร่งการขับฝุ่น PM2.5 ที่เล็ดลอดเข้ากระแสเลือด ออกไปทางไตในรูปของปัสสาวะได้มากขึ้น

6. การอยู่ในบริเวณที่มีต้นไม้ใบเขียว จะช่วยการดูดซับฝุ่นในอากาศได้เพิ่มมากขึ้น

ประกาศ ณ วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

'เจอร์ไฮ' และ 'จินนี่' ชูนวัตกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงตอบโจทย์ตลาดพรีเมียม ขับเคลื่อนแบรนด์ไทยสู่ระดับโลก
สุชาติ ชง ครม. ไฟเขียว! ไทยยกระดับ NDC 3.0 เร่งขับเคลื่อน Net Zero 2050 สู้โลกเดือด พลิกโอกาสเศรษฐกิจยั่งยืน
กองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (กองทุน ป.ป.ช.) เปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุน ป.ป.ช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2568
MEA ห่วงใย ลอยกระทงปลอดภัย ห่างไกลอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
"สหพัฒนพิบูล" คว้าคะแนน CGR ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ต่อเนื่องปีที่ 3 พร้อมรับ 100 คะแนนเต็ม ประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 4 ปีซ้อน ตอกย้ำองค์กรโปร่งใส ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน
MEA เผยผลสำเร็จโครงการทดลอง TOU บ้านอยู่อาศัยกว่า 93% ประหยัดค่าไฟจริง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​