No data was found

เครือข่ายประมงพื้นบ้านเมืองคอนรวมตัวยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือต่อ “ธรรมนัส”

กดติดตาม TOP NEWS

เครือข่ายประมงพื้นบ้านเมืองคอนรวมตัวยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือแก้ปัญหาประมงชายฝั่ง-แฉทุกปัญหาล้วนมาจากฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐผักชีโรยหน้า หมกเม็ด ปฏิบัติสองมาตรฐานโดยชาวประมงพื้นบ้านตกเป็นแพะรับบาป

วันที่ 6 ส.ค. 2564 ที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เมื่อเย็นวานนี้ (5 ก.ค.) นายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมตัวแทนชงประมงชายฝั่งจากพื้นที่ต่าง ๆ ใน จ.นครศรีธรรมราช อาทิ อ่าวปากพนัง ปากนคร ปากพยิง คลองน้อย บางจาก และแหลมตะลุมพุก ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้านและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติสองมาตรฐาน สร้างคงวามเดือดร้อนให้กับชาวประมงอย่างแสนสาหัส โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ชาวประมงพื้นบ้านหลายครอบครัวเหมือนคนสิ้นเนื้อประดาตัว

นายมาโนช ดวงดี กล่าวว่า ชาวประมงพื้นบ้านที่ถูกกล่าวหาทำประมงผิดกฎหมาย เป็นอาชญากรแผ่นดินที่ทำลายล้างทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยถูกเจ้าหน้าที่กวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง จนไม่กล้าออกประกอบอาชีพประมงเกรงจะถูกจับกุมดำเนินคดีใน 3 ข้อหาหนักประกอบด้วย ทำประมงพาณิชย์ ,ทำประมงในเขตหวงห้าม 3,000 เมตร และใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ซึ่งต้องเสียค่าปรับนับแสนบาท พากันเดินทางมาพบนายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งปากพนัง เพื่อให้ช่วยหาทางเยียวยาช่วยเหลือ เนื่องจากไม่สามารถประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านได้ ในขณะที่ประสบปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตอย่างแสนสาหัส ชาวประมงพื้นบ้านในอ่าวปากพนังหลายร้อยคนประกาศขอยอมแพ้หน่วยงานภาครัฐ และขอประกาศยุติบทบาทอาชีพประมงชายฝั่งหรือประมงพื้นบ้านที่ได้ทำมาต่อเนื่องหลายชั่วอายุคนตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย เพราะหลังจากที่มีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับลงวันที่ 15 ธ.ค. 2560 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ประมงกวดขันไล่ล่าจับกุมชาวประมงพื้นบ้านอบย่างหนัก นับ 100 คนถูกจับกุมต้องเสียค่าปรับสูงนับแสนบาท ถูกยึดเรือประมง เครื่องยนต์และเครื่องมือประมง เท่ากับถูกตัดแขนตัดขา สิ้นเนื้อประดาตัว ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร เพราะการออกกฎหมายดังกล่าวขัดกับสภาพความเป็นจริงส่งผลกระทบต่อวิธีการประกอบอาชีพและการวิถีดำรงชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านอย่างหนัก ในความเป็นจริงการออกกฎหมายในลักษณะนี้ทางรัฐบาลหนือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องวางแผนหามาตรการแก้ปัญหารองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เช่น การช่วยเหลือเงินทุนในการเปลี่ยนเครื่องมือประมงที่ถูกกฎหมาย หรือหาอาชีพอื่นรองรับการเปลี่ยนแปลงอาชีพของประชาชน”

“ทุกวันนี้ชาวประมงพื้นบ้านกลายเป็นแพะรับบาปจากการกระทำหน่วยงานภาครัฐว่าเป็นคนประกอบอาชีพประมงแบบทำลายล้างทรัพยากรชายฝั่งหรือทรัพยากรทางทะเล กลายเป็นคนปาบ เป็นอาชญากรข้ามชาติ ชาวประมงพื้นบ้านพยายามต่อสู้เรียกร้องในเรื่องนี้มาโดยตลอด และนายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งปากพนัง ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในช่วงที่เดินทางมาเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ขอให้จัดสรรพื้นที่ชายฝั่งเพื่อให้ชาวประมงที่เคยทำประมงผิดกฎหมายรวมตัวกันเป็นกลุ่มเลี้ยงหอยหรือสัตว์ทะเลแทนการทำประมงผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยจึงสั่งการให้รัฐมนตรี อธิบดีประมง และผู้ว่า ฯและประมงจังหวัด ราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการแต่จนถึงวันนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีกลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดยิ่งใหญ่กว่าคำสั่งของนายกรัฐนตรี รัฐมนตรีและอธิบดี ในขณะที่เจ้าหน้าที่ประมงยังกวดขันจับกุมชาวประมงอย่างต่อเนื่อง ไร้ความเมตตา ไร้มนุษยธรรม โดยวิธีการขั้นตอนการจับกุมกระทำเยี่ยงโจรปล้น เลือกปฏิบัติ และทำกันเป็นขบวนการบนความเดือดร้อน ล่มสลายของประชาชน นอกจากนี้ยังสร้างภาพแต่งตั้งอาสาประมงซึ่งเป็นชาวประมงที่เคยทำประมงผิดกฎหมายเช่นเดียวกันคอยเป็นสายจับกุม และขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐอ้างกลุ่มอนุรักษ์ จับจอง แบ่งปั้นพื้นที่ชายฝั่งนับหมื่นนับแสนไร่เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองสร้างภาพมากมายเพื่อให้ดูเหมือนว่าท้องทะเลมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น”

นายกสมาคมประมงชายฝั่งปากพนังกล่าวอีกว่า หากการจับกุมการกระทำผิดตามที่อ้างตามประกาศกระทรวงฉบับดังกล่าวเป็นไปอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา เสมอภาคเท่าเทียมกัน ชาวประมงก็ยังพอรับได้ แต่ในทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติแบบสองแบบสองมาตรฐาน มีกลุ่มทำประมงผิดกฎหมายเต็มอ่าวปากพนัง กลางคืนพวกเรือคาราดหอย ติดไฟสัญลักษณ์หลากสีเต็มอ่าวปากพนัง-ปากนคร และแหลมตะลุมพุก ทำไมไม่ถูกจับกุม ดวงไฟที่ติดที่เรือคราดหอยทุกลำเป็นดวงไฟปริศนา หมายถึงอะไรทำไม่ไม่ถูกจับกุม แต่ชาวประมงพื้นบ้านที่ไม่ใช่พรรคพวกของตัวเองกลับถูกไล่ล่าจับกุมชนิดเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่ชาวบ้านหวาดผวากลัวไม่กล้าออกทำประมงและนำเครื่องมือประมงผิดกฎหมายออกจากเรือวางไว้ริมชายฝั่งเพื่อนำเรือไปประกอบอาชีพอื่น ๆ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ยังถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดเครื่องมือประมงและสืบสวนหาเจ้าของและตามไปแจ้งข้อกล่าวหาเปรียบเทียบปรับรายละ 10,000 บาทขึ้นไป หากไม่ยอมจ่ายก็จะถูกข่มขู่ตามยึดประมงมาเป็นของกลางและจะส่งดำเนินคดี 3 ข้อหนัก โดยส่วนใหญ่ชาวประมงจะยินยอมไปจ่ายค่าปรับเพราะหากส่งฟ้องขึ้นศาลจะถูกปรับนับแสนบาทพร้อมยึดเรือประมง เครื่องยนต์ และเครื่องมือประมง นอกจากนี้พวกกลุ่มอาสาประมงออกตรวจยึดเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย (อ้ายโง่ หรือลอบพับ) ของชาวบ้านไปให้ลูกหลานหรือพรรคพวกของตัวเองนำไปใช้ทำประมงเสียเองโดยไม่ถูกจับกุม หากมีปลาหรือสัตว์น้ำติดอยู่แทนที่จะปล่อยปลาคืนสู่ท้องทะเลกับนำไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง และอื่น ๆ มากมายที่ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ พวกเขาอยู่กันอย่างสุขสบายแต่ชาวบ้านรอวันตายอย่างเดียวเท่านั้น ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยิ่งเพิ่มความทุกข์ระกำลำบากให้ชาวประมงพื้นบ้านมากขึ้นเป็นเท่าตัว  อย่างไรก็ตามนอกจากกลุ่มเรือคราดหอยที่ผิดกฎหมายที่มีการติดดวงไฟปริศนาเป็นสัญลักษณ์สามารถออกคราดหอยในอ่าวปากพนัง-ปากนคร-แหลมตะลุมพุกทุกค่ำคืนโดยไม่มีการจับกุมแล้ว ในอ่าวปากพนัง-ปากนคร และแหลมตะลุมพุก ยังมีการทำประมงผิดกฎหมายอื่น ๆ เต็มไปหมดสามารถเห็นด้วยด้วยตาไม่ว่าจะเป็นโพงพาง ยอยักษ์ บาล์ม คอกหอยที่อ้างว่าเป็นของกลุ่มอนุรักษ์ ส่วนใหญ่จะเป็นของนายทุน ล่าสุดนายทุนมีการปักปั้นคอกหอย 2 แปลงใหญ่กว่า 5,000 ไร่สร้างกระท่อมกลางทะเลค่อนข้างถาวรโดยใช้เสาไฟฟ้าปักยึดให้แข็งแรง เมื่อสื่อมวลชนนำเสนอข่าวต่อเนื่องจนมีคำสั่งจากเบื้องบนให้รื้อถอนทางเจ้าหน้าที่ก็จัดฉากนำสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งลงไปทำทีรื้อถอน ออกข่าวใหญ่โต แต่ตอนนี้ยังมีซากคอกหอยดังกล่าวระเกะระกะจนพื้นที่ไม่สามารถใช้ทำประมงพื้นบ้านได้ ที่สำคัญหากเป็นการกระทำของกลุ่มนายทุน้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้แม้แต่รายเดียว

นายมาโนช ดวงดี กล่าวต่อไปอีกว่า ล่าสุดนายสุทา ประทีป ณ.ถลาง ส.ส.พปชร.เขต 1 จ.ภูเก็ต รองประธานกรรมาธิการ ปปช.สภาผู้แทนราษฏร ได้รับคำสั่งจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน แต่กลับถูกขบวนการต่อต้าน สร้างภาพว่า ส.ส.ลงมาช่วยเหลือคนทำผิดกฎหมาย ทั้ง ๆ พวกเราก็เป็นคนไทยเหมือนกัน หรือจะต้องฆ่าพวกเราให้ตายทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ได้นำ ส.ส.พปชร.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ไลฟ์สดอ้างความอุดมสมบูรณ์ ปกป้องเจ้าหน้าที่ สร้างความแตกแยกเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามทราบว่าชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ต.ปากนคร จำนวนหลาย 10 คนได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ประมง แต่ในส่วนของชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ อ.ปากพนัง ที่ต่อสู้กับอำนาจรัฐจนสิ้นเนื้อประดาตัว เมื่อ ส.ส.ตัวแทนจากประชาชนเข้าข้างอำนาจรัฐพวกเราจึงหมดที่พึ่ง จึงประกาศขอยอมแพ้และขอเลิกอาชีพที่ตัวเองถนัด และทำมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษต่อเนื่องมานับ 100 ปี ซึ่งค่าใช้จ่ายทุกอย่างแม้แต่ลูกจะไปโรงเรียนก็มีความหวังอยู่ในชายฝั่งทะเลทั้งหมด เมื่อพวกเรายอมแพ้ ยุติการทำประมงที่ถูกตราหน้าว่าผิดฎหมาย ทางรัฐบาล และผู้ว่า ฯ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดูแลเลี้ยงดูพวกเรา ที่ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ใด ๆ จนกว่าพวกเราจะหาอาชีพใหม่หรือฝึกฝนอาชีพใหม่ที่ถูกต้องตามกฎหมายจนสามารถประกอบเป็นอาชีพสร้างได้รายเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 5-6 เดือน หากไม่มีหน่วยงานไหนรับผิดชอบ พวกเราจะย้ายลูกหลานและคนในครอบครัวมาตั้งแคมป์อยู่อาศัยที่ลานคะเคียน หน้าศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่างอื่น ๆ รอบศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชในเร็ว ๆ นี้ จึงอยากให้ รมช.ธรรมนัส ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ดังต่อไปนี้ 1.การแก้ประกาศกระทรวงฉบับลงวันที่ 15 ธันวาคม 2560 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2561 2. หาช่องทางในกรณีที่เรือ เครื่องยนต์ที่ถูกศาลสั่งริบเป็นของหลวงจำนวนหลายสิบลำ ซึ่งทำให้เสียหาย ไร้ประยชน์ขอให้เจ้าของเรือเดิมรับมาดูแลรักษา ใช้ประโยชน์ภายใต้เงื่อนไขที่ศาลกำหนด 3.สนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาอ่าวปากพนัง-ปากนคร -แหลมตะลุมพุก เพื่อให้ชาวประมงทุกภาคส่วนร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากร,การประกอบอาชีพและการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งด้วยกันเอง และ 4.ขอให้จัดสรรพื้นที่ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและอธิบดีกรมประมงเพื่อให้กลุ่มประมงผิดกฎหมายร่วมกันประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ฯชายฝั่งแทนการทำประมงผิดกฎหมาย โดยขอให้ท่านมอบหมายให้นายสุทา ประทีป ณ.ถลาง ส.ส.พปชร.เขต 1 จ.ภูเก็ต รองประธานกรรมาธิการ ปปช.สภาผู้แทนราษฏร ซึ่งเข้าใจบริบทของประมงพื้นบ้านเป็นอย่างดีเป็นผู้รับผิดชอบติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาตามลำดับขั้นตอนต่อไป.

ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ไทยภักดี" เลือก "ดร.กรรญดา" นั่งหน.พรรค "หมอวรงค์" เป็นประธาน เดินหน้าสอบนโยบายรัฐ
คุมตัวโชเฟอร์แท็กซี่เมาชนตำรวจสน.บางเขนดับ ส่งฝากขังศาล
หนุ่มคนสนิท แจงปมคลิปฉาว เป็นขนบประเพณีคนมุสลิม โต้เหตุ "รองผู้ว่าฯยะลา" โดนย้ายเข้ากรุ
ไขข้อสงสัย ดื่มแอลกอฮอล์แค่ไหน เรียก "เมาแล้วขับ" โทษหนักปรับ-จับ
ปลดป้ายชื่อ “หมอชลน่าน” คืนห้องรมว.สธ. เจ้าหน้าที่ขนของกลับ เหลือแค่พระพุทธรูปองค์เดียว
ทึ่ง..อดีตโปรดิวเซอร์รายการตลก ลาออกจากงาน คิดค้นสูตรกาแฟ อาหารประยุคอิตาเลี่ยน-อีสาน ขับรถตระเวนขายทั่วไทย ถูกใจลูกค้า สร้างรายได้ดี
เมืองไทยประกันภัย จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 จ่ายเงินปันผล 5.00 บาทต่อหุ้น
แพทย์ชนบทเปิดสาเหตุ “หมอชลน่าน” ถูกเด้งพ้นสธ.สุดโดดเดี่ยว
เปิดประวัติ "ม.ล.ชโยทิต กฤดากร" ผู้แทนการค้าไทย-ที่ปรึกษา 2 นายกฯ 2 รัฐบาล คีย์แมนสำคัญ ดึงดูดลงทุนเข้าประเทศ
อีลอน มัสก์ พบนายกฯจีน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น