ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม หมิ่นประมาท นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ ชี้เป็นการวิจารณ์อย่างบริสุทธิ์ใจ เพื่อปกป้องสถาบันฯ
สืบเนื่องจากกรณีการอภิปราย ด้านทนายความเผยศาลหยิบยกพฤติกรรม จากหนังสือ “ธนาธร Portrait” ร่วมชุมนุม เข้าข่ายบ่อนทำลายสถาบัน ส่วนเจ้าตัว “สนธิญาณ” เผยยกข้อต่อสู้แสดงความคิดเห็นปกป้องสถาบันในฐานะคนไทยด้วยใจบริสุทธิ์
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยวันนี้ (16 ก.พ.) นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถานีข่าวท็อปนิวส์ และนายธนุ สุขบำเพิง ทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตามคำนัดฟังคำพิพากษาของศาลคดีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ในฐานะจำเลยและพยานข้อหาหมิ่นประมาท, หมิ่นประมาทด้วยโฆษณา จากกรณีการอภิปรายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นายธนุ สุขบำเพิง ทนายความ เปิดเผยภายหลังศาลพิจารณาว่า คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลสิ่งที่ นายสนธิญาณได้อภิปรายเป็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ในฐานะคนไทยที่จะมีสิทธิ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ โดยศาลได้หยิบยกข้อต่อสู้ในประเด็นที่นายธนาธร เขียนหนังสือ “ธนาธร Portrait” และให้สัมภาษณ์ไว้ ในลักษณะปิดบังอำพราง เพื่อไม่ให้ตนเองถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 โดยหนังสือดังกล่าว ศาลได้หยิบยกมาให้เห็นในประเด็นที่ทำให้คนอ่านแล้วรู้สึกได้ว่า
ทุกคนก็มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ เนื่องจากในขณะนั้น นายธนาธร เป็นนักการเมือง และเป็นหัวหน้าคณะก้าวหน้า ดังนั้นสิ่งที่นายสนธิญาณ ได้วิพากษ์วิจารณ์ก็สามารถกระทำได้โดยสุจริต จึงได้รับการยกเว้น แม้ข้อความดังกล่าวจะมีลักษณะหมิ่นประมาท แต่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ศาลยังได้หยิบยกพฤติกรรมของ นายธนาธร จากหนังสือ “ธนาธร Portrait” ที่มีพฤติกรรมการเข้าร่วมการชุมนุมกับนักศึกษาที่มีพฤติกรรมประท้วงทางการเมือง และพฤติการณ์อีกหลายอย่างที่ทำให้คนไทยมีสิทธิ์คิดและมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ว่า การกระทำดังกล่าวมีลักษณะบ่อนทำลายสถาบัน
ด้านนายสนธิญาณ เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษายกฟ้อง ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตนเองได้ยกข้อต่อสู้ว่าการแสดงความคิดเห็นของตนเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ได้มีความรู้สึกโกรธเคืองหรือมีปัญหาส่วนตัวกับ นายธนาธร จนกระทั่งวันนี้ก็ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ มองว่า เป็นเรื่องของการทำหน้าที่ในฐานะประชาชนคนไทย และในฐานะคนที่ทำงานทั้งด้านข่าวสาร ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
ย้อนไปก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.65 ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรการวิเคราะห์ธุรกิจและวิทยาการข้อมูลคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)ไเข้าฟังคำพิพากษาศาลอาญาคดี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นโจทก์ฟ้อง หมิ่นประมาทกรณี โพสต์ข้อความเชิงตั้งคำถามว่า “หนีคดีหรือเปล่า” หลังปรากฎภาพนายธนาธรขณะอยู่สนามบินเพื่อเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งเทล ประเทศฝรั่งเศสว่า ศาลมีคำตัดสินยกฟ้องเพราะเห็นว่าความเห็นของตนเป็นแค่การคาดการณ์หรือการคาดคะเนไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงอะไร เพราะฉะนั้นไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท ซึ่งคดีนี้เป็นเพียง 1 ใน 2 คดีที่นายธนาธรฟ้องตน
ขณะเดียวกัน ดร.อานนท์ ระบุว่า นายธนาธรมีส่วนร่วมในการต่อต้านมาตรา 112 แต่ในทางกลับกัน นายธนาธรฟ้องหมิ่นประมาทคนอื่นเยอะมาก ทั้งนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รวมไปถึง ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” เรียกเงินกว่า 24 ล้านบาท แต่ว่าคดี 112 จะให้เรียกเงินน้อยๆ หรือไม่ให้มีโทษเลยคือต้องการจะหมิ่นพระเจ้าแผ่นดินให้ได้อย่างสบายใจ นายธนาธรคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าพระเจ้าแผ่นดิน หรืออย่างไร นอกจากนี้ อยากตั้งขอสังเกตว่า การฟ้องหมิ่นประมาทของนายธนาธรเป็นการฟ้องปิดปาก เพื่อปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนหรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่านายธนาธรเป็นบุคคลสาธารณะซึ่งตามหลักประชาธิปไตย ประชาชนสามารถตรวจสอบได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
