“นายกฯ” สรุปผลงานเด่นรัฐบาลก่อนครบเทอม ทั่วโลกยอมรับไทย

"นายกฯ" สรุปผลงานเด่นรัฐบาลก่อนครบเทอม ทั่วโลกยอมรับไทย

วันที่ 8 ก.พ.66.-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ว่า ในช่วงปลายเทอมของรัฐบาลนี้ ผมอยากจะขอรวบรวมมุมมองของชาวโลกที่มีต่อบ้านเมืองของเรา เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย และความสำเร็จในแง่มุมต่างๆ อันเป็นผลมาจากการทำงานและฝ่าวิกฤตร่วมกันมาอย่างสมัครสมานสามัคคีของ “ทีมประเทศไทย” ซึ่งประกอบด้วยคนไทยทุกคน จากทุกภาคส่วน ดังนี้

1. องค์การสหประชาชาติ (UN) ประเมินว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นอันดับที่ 44 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพในการขจัดความยากจน การศึกษาที่มีคุณภาพ การสุขาภิบาลและแหล่งน้ำสะอาด การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม ตลอดจนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

ข่าวที่น่าสนใจ

2. ธนาคารโลก (World Bank) จัดทำรายงาน “ตามติดเศรษฐกิจไทย : นโยบายการคลังเพื่อสังคมที่เสมอภาค และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ธันวาคม 2565” โดยระบุว่านโยบายการคลังของไทยมีประสิทธิภาพสูงกว่าประเทศอื่น สามารถช่วยบรรเทา ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำได้ดี โดยในระยะสั้นนั้นใช้มาตรการทางภาษี เงินช่วยเหลือ และการอุดหนุนรายได้ครัวเรือน สามารถกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนในระยะยาวใช้การสนับสนุนงบประมาณด้านสาธารณสุข ส่งเสริมการศึกษา และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมียุทธศาสตร์

3. องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การรับรองและยกย่องประเทศไทย ว่าเป็นตัวอย่างของนานาชาติในด้านระบบประกันสุขภาพทั่วหน้า และมีความมั่นคงทางสุขภาพ ตามดัชนีการจัดอันดับระบบดูแลสุขภาพ Global Health Security (GHS) Index ซึ่งพิจารณาจากการป้องกันโรค การตรวจและรายงาน การรับมือ-ตอบสนองอย่างรวดเร็ว รวมทั้งระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ด้วยโรงพยาบาลที่ได้รับรองตามมาตรฐานสากล บุคลากรทางการแพทย์มีความรู้-ความสามารถ-มีประสบการณ์และศักยภาพสูง และมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย

ซึ่งทั้งหมดนี้ นำมาสู่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ มีอัตราเงินเฟ้อลดลง การขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสูงขึ้น แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งมีความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นทั้งจุดแข็งและจุดขาย โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (TTB analytics) คาดการณ์ว่าในปี 2566 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ของไทย จะทำรายได้สูงเกือบ 2.5 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งแตะ 28 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายสูงต่อการเดินทาง ก็จะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นด้วย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ ราว 1.44 ล้านล้านบาท ในทุกกิจกรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน และด้วยแรงหนุนจากการที่จีนเปิดประเทศ จึงเป็นไปได้ว่ามูลค่าการท่องเที่ยวอาจสูงถึง 2.25 ล้านล้านบาทได้

จะเห็นได้ว่า ผลที่เกิดขึ้นจากความสามัคคีของคนในชาติ และนโยบายการบริหารประเทศที่มุ่งผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ทำให้ในวันนี้ เราไม่เพียงจะก้าวข้ามวิกฤตโลกไปได้อย่างดี แต่เรายังสามารถก้าวหน้า พลิกโฉมประเทศมาอยู่แนวหน้าของโลกได้ในหลายมิติ อีกด้วย ผมต้องขอขอบคุณ “ทีมประเทศไทย” ทุกคนอีกครั้งครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น