“จุรินทร์” เยือนเบลเยี่ยม 25-26 ม.ค.นี้ เจรจา FTA ไทย-อียู หวังช่วยเพิ่มมูลค่าการค้ามากขึ้น

"รมว.จุรินทร์" นำทีมเยือนกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม 25-26 ม.ค.66 เร่งเจรจา FTA ไทย-อียู ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย หวังช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปได้มากขึ้น

วันที่ 23 ม.ค. 66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงประเด็นการเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อเร่งการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป(อียู) ว่า เรื่อง FTA ไทยกับสหภาพยุโรปเป็นเรื่องที่คาดหวังกันมายาวนานแต่ยังไม่บรรลุผล ขณะนี้มีแนวโน้มที่ดี มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเริ่มต้นการเจรจาอย่างเป็นทางการ ในการจัดทำ FTA ไทย-อียู อาจเกิดขึ้นได้ เป็นที่มาที่ตนต้องเดินทางไปเยือนบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหภาพยุโรปพบกับรองประธานคณะกรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรป (นายวัลดิส ดอมโบรฟสกิส) หรือตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการค้าของรัฐบาลสหภาพยุโรป โดยจะเดินทางในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ เพื่อพบและประชุมร่วมกันในการแสดงเจตจำนงทางการเมืองทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ จะแจ้งความจำนงว่าประเทศไทย รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ของไทย มีความพร้อมที่จะทำ FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ถ้าสหภาพยุโรปเห็นพ้องต้องกันแต่ละประเทศจะได้กลับมาดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของแต่ละประเทศต่อไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“จะประสบความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับการประชุมและการเจรจาที่ตนเดินทางไป ซึ่งตั้งความหวังว่าจะสำเร็จจะได้เริ่มนับหนึ่ง FTA ไทย-อียู เป็น FTA ที่ภาคเอกชนมีความประสงค์และต้องการมานานแต่ยังไม่บรรลุผล ถ้าประสบความสำเร็จจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปได้มากขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะโอกาสทางการค้าจะส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะมีตัวเลขที่ดีขึ้น เป้าหมายภาษีระหว่างกันเป็นศูนย์ ทำให้ได้แต้มต่อประเทศคู่แข่งที่ไม่มี FTA กับสหภาพยุโรป 27 ประเทศ โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด ให้มีโอกาสสำเร็จ จะเป็นการสร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไป

ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศระบุว่า ในปี 2565 อียูเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 5 รองจากอาเซียน จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 41,038.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.46 ล้านล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.95 ของการค้าไทยกับโลก

 

 

– ไทยส่งออกไปอียู 22,794.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8.10 แสนล้านบาท) สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และแผงวงจรไฟฟ้า

– ไทยนำเข้าจากอียู มูลค่า 18,243.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.48 แสนล้านบาท) สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมอุตุฯ" เตือน ทั่วไทยฝนตกหนัก 48 จว.อ่วม ลมแรง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร  กทม.เจอฝน 40%
ผบช.ทท.โชว์ศักยภาพการทำงานรถบริการนักท่องเที่ยวเคลื่อนที่ สร้างความเชื่อมั่นยกระดับการดูแลความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือ นทท.
กกล.บูรพา ร่วมส่วนราชการ จ.สระแก้ว เปิดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุอพยพประชาชนบนภูมิประเทศจำลอง ประจำปี 2568
ทต.เกล็ดแก้วเปิดการประชุมสภาครั้งแรก พร้อมประดับเครื่องหมายอินทรธนูให้กับนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาฯ
ด่วน! "พรรคภูมิใจไทย" แถลงการณ์ ขอถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล มีผล19 มิ.ย. ชี้คลิปเสียงนายกฯ กระทบอธิปไตยแผ่นดิน
ฮือฮา! ครูสอนดำน้ำบางเสร่เผยคลิปฉลามวาฬว่ายน้ำเคียงข้างเรือกลางทะเลสัตหีบ
Taiwan Excellence มุ่งมั่นนำโซลูชันอัตโนมัติอัจฉริยะ พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย
คาเมเนอีเตือนสหรัฐจะพังพินาศหากช่วยอิสราเอลโจมตีอิหร่าน
อิหร่านขู่จัดหนักสหรัฐถ้าทรัมป์จับมืออิสราเอลถล่มอิหร่าน
ภาพ "แม่ทัพภาค 2" ขึ้นโชว์จอ LED หน้าสโมสรทหารบก พร้อมข้อความให้กำลังใจ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น