ที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เจ้าหน้าที่ได้ทำการจุดไฟประดับต้นคริสต์มาสในใจกลางเมือง โดยของประดับบนต้นคริสต์มาสนั้น นอกจากจะเป็นลูกบอลสีสันแล้ว ยังมีการประดับด้วยนกพิราบสีขาว อันเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพด้วย ทั้งนี้ มีชาวเมืองจำนวนหนึ่ง ออกมาร่วมชมและถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาสประดับไฟกลางเมือง โดยพวกเขากล่าวว่า มันเป็นการเพิ่มอารมณ์รื่นเริงในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ต้นคริสต์มาสยังคงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองปีใหม่
ด้านนายวิทาลี คลิชโก นายกเทศมนตรีเมืองเคียฟกล่าวว่า ในช่วงแรกก็ลังเลว่า จะมีการวางต้นคริสต์มาสหรือไม่ เพราะเกิดการโจมตีระบบพลังงานจากรัสเซียมาหลายสัปดาห์ จนทั้งเมืองต้องตกอยู่ในความมืด แต่สุดท้ายทางการก็ปรับเปลี่ยน ตั้งต้นคริสต์มาสที่จตุรัสกลางเมือง และใช้วิธีการเปิดไฟประดับต้นไม้ ด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล รวมถึงนำของประดับตกแต่งจากปีที่แล้วกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้รัสเซียได้รู้ว่า ยูเครนจะไม่ให้ขโมยวันหยุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือวันคริสต์มาสและปีใหม่ ไปจากเด็กๆยูเครนไปได้
ขณะที่ ที่เมืองอื่นๆ ก็มีการฉลองคริสต์มาสที่แตกต่างกันออกไป โดยที่เมืองมิโคลาอิฟ ได้มีการทำต้นคริสต์มาสจากตาข่าย โดยให้ผู้คนเขียนข้อความลงไป แล้วนำไปแขวนประดับจนสูงเป็นต้นคริสต์มาส ชาวเมืองกล่าวว่า เป็นความคิดที่ดีมากสำหรับช่วงเวลานี้ แม้ว่าความจริงแล้ว จะดูไม่เหมือนต้นคริสต์มาสจริงๆก็ตาม แต่เด็กๆ ก็ยังต้องการอารมณ์รื่นเริง เด็กๆ ควรมีวันปีใหม่ เราไม่ต้องการให้สงครามพรากสิ่งนี้ไปจากพวกเขา ทั้งนี้ ข้อความที่เขียนต่างหวังว่า สงครามจะจบลงและทหารได้กลับบ้าน
ส่วนที่เมืองคาร์คิฟ ได้มีการตั้งต้นคริสต์มาสเพื่อฉลองเทศกาลในสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งทางนายอิกอร์ เทเรโคฟ นายกเทศมนตรีของคาร์คิฟกล่าวว่า สงครามกำลังดำเนินอยู่ ดังนั้นด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เราจึงตัดสินใจที่จะไม่วางต้นคริสต์มาสไว้กลางแจ้ง แต่รัสเซียก็ไม่สามารถขโมยการฉลองของเด็กไปได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ต้นคริสต์มาสจึงถูกจัดวางให้อยู่ในที่ปลอดภัยที่ใต้ดิน ซึ่งทางการได้เลือกสถานีที่มีความสูงมากที่สุด เพราะต้นคริสต์มาสสูงมากกว่า 10 เมตร นอกจากนี้ ทางการยังจัดให้มีการแสดงต่างๆไว้ที่ใต้ดินอีก
ขณะเดียวกัน ทางด้านของนายกรัฐมนตรีเดนิส ชไมฮาล แห่งยูเครน ได้โพสต์ลงเทเลแกรมของตัวเองว่า ความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อโครงข่ายไฟฟ้าส่งผลให้เกิดการขาดแคลนพลังงานอย่างมาก ไฟดับฉุกเฉินเกิดขึ้นใน 11 ภูมิภาคของประเทศ และก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะสามารถบอกได้ว่า เมื่อใดที่ทางการ จะสามารถจ่ายไฟได้อย่างเสถียร สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างลำบาก และผู้คนอาจมีแสงสว่างให้เพียง 2-3 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น

