logo

“นายกตู่” ติดตามสถานการณ์น้ำภาคใต้ใกล้ชิด สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเฝ้าระวัง

"นายกตู่" ติดตามสถานการณ์น้ำภาคใต้ใกล้ชิด สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเฝ้าระวัง

วันที่ 10 ธ.ค.65 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งพบว่าในช่วงวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2565 นี้ จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังและบริหารจัดการสถานการณ์น้ำให้เหมาะสม สอดคล้องกับพื้นที่ในแต่ละจังหวัดด้วย

โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ รายงานสภาพอากาศใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักมากบริเวณสงขลา นราธิวาส และปัตตานี และออกประกาศฉบับที่ 56/2565 แจ้งพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง ดังนี้

1.เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง บริเวณ จ.ชุมพร ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

2. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำลันตลิ่งบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำชุมพร คลองหลังสวน แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง แม่น้ำตะกั่วป่า แม่น้ำปากพนัง แม่น้ำตรัง คลองชะอวด แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นที่จะกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ โดยศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำอยู่ที่ 5 ล้าน ลบ.ม. (จากเดิม 6.05 ลบ.ม.) โดยเริ่มลดการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2565 เพื่อลดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนให้น้อยที่สุด

 

“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมการบริหารจัดการน้ำล่วงหน้าเพื่อรองรับสถานการณ์ ทั้งการเร่งระบายน้ำและพร่องน้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบและซ่อมแซมตามแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมไปถึงการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องมือให้ประจำในพื้นที่จุดเสี่ยงภัยให้เพียงพอเพื่อให้ทันต่อการให้ความช่วยเหลือประชาชน”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(ECST) หรือ กลุ่มลาขาดควันยาสูบ ชี้ ไทยแบนบุหรี่ไฟฟ้ามา 10 ปี ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นพร้อมเสนอร่างกฎหมายคุมให้ถูกกฎหมายเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน
"สมชัย" ติงหนัก หนังสือกกต. หลุดว่อน สั่งเปลี่ยนรูปแบบบัตรเลือกตั้งสว.
"ดร.อานนท์" ชี้ 4 ประเด็นติดตาม หลังอัยการสูงสุด สั่งฟ้อง "ทักษิณ" คดี 112
"เสมา 1" เน้นย้ำผ่อนผันแต่งชุดนร.มุ่งรองรับภาวะศก. สั่งสสวท.พัฒนาข้อสอบเด็กยุค 4.0 สำรวจเด็กหลุดการเรียนเข้าสู่ระบบ
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จับมือ ซาฟารีเวิลด์ หารือแนวทางการปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์ร่วมกัน
ยังหาไม่เจอ "จิงโจ้" หลุดสวนสัตว์เชียงใหม่ วิ่งเตลิดขึ้นดอยสุเทพ จนท.ระดมกำลังเร่งค้นหา
เปิดผลประเมินองค์การมหาชน "สนง.พัฒนาการวิจัยการเกษตร" คว้าคะแนนเต็ม
"นายกฯ" เชื่อคดี 112 "ทักษิณ" ไม่กระทบรบ. แต่อาจกระทบใจ "อุ๊งอิ๊ง"
"นายกฯ" รับอดีตมีเห็นต่าง "วิษณุ" เชื่อทำงานด้วยกันได้ยึดประโยชน์ ปชช.
เกาหลีเหนือส่งบอลลูนทิ้งสิ่งปฏิกูลใส่เกาหลีใต้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น