BBC และ AFP เผยผลสำรวจดัชนีวัคค่าครองชีพสากลของหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจที่อังกฤษประจำปี 2565 ที่เพิ่งรายงานเมื่อวานนี้ชี้ว่าสิงคโปร์และนิวยอร์ก ของสหรัฐครองชีพที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก แทนที่นครเทลอาวีฟของอิสราเอล แชมป์เก่าปีที่แล้ว ที่ร่วงไปอยู่อันดับ 3
ผลสำรวจชี้สาเหตุหลักที่ทำให้สิงคโปร์และนิวยอร์กพุ่งขึ้นมาเป็นแชมป์เมืองที่แพงที่สุดในโลกเกิดจากสงครามยูเครน, มาตรการคุมเข้มโควิดที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะพลังงานและอาหาร รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงทั่วโลก โดยนิวยอร์กนั้นได้ขึ้นมาอยู่อันดับ 1 ของโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งหลักๆเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ขณะที่ลอส แอนเจลิสและซานฟรานซิสโก ของสหรัฐก็ขยับขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรก ทั้งๆที่ปีก่อนหน้านี้ไม่อยู่ในอันดับ top ten
ส่วนรัสเซียก็ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้กัน โดยกรุงมอสโกวและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นสองเมืองที่มีอันดับการพุ่งขึ้นมากที่สุด
มอสโกวจากอันดับที่ 125 ทะยานขึ้นมาที่อันดับ 37 (ขึ้น 88 อันดับ)
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจากอันดับที่ 143 ขึ้นมาอันดับ 73 (ขึ้น 70 อันดับ)
สาเหตุหลักที่สองเมืองรัสเซียทะยานขึ้นแบบก้าวกระโดดเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐและชาติตะวันตก รวมทั้งค่าเงินรูเบิลที่แข็งขึ้นจากตลาดพลังงานที่ซื้อขายกันคึกคัก
ส่วนกรุงทริโปลี ของลิเบียและกรุงดามัสกัสของซีเรียนั้นครองแชมป์ค่าครองชีพต่ำที่สุดในโลกเหมือนเดิม
ผลสำรวจดังกล่าวทำขึ้นใน 172 เมืองทั่วโลก ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยทั้ง 172 เมืองได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพหรือราคาสินค้าที่พุ่งสูงโดยเฉลี่ย 8.1%