“ภูมิธรรม” ยืนยันผลเจรจาแนวหน้า “ไทย-กัมพูชา” ถอนกำลังแล้ว ถอยประจำจุดเดิม ยึดแนวทางสันติวิธี เดินหน้าถก JBC 14 มิ.ย. นี้
ข่าวที่น่าสนใจ
8 มิ.ย. 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เราได้รับรายงานข่าวจากการเจรจากันทั้งสองฝ่ายในทุกระดับ สรุปตรงกันว่าขณะนี้กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย ได้ออกตรวจแนวพื้นที่ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายพยายามหาวิธีการในการลดความขัดแย้ง และการเผชิญหน้า ซึ่งทำให้สถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปในทางที่ดีมากขึ้น
ในนามของกระทรวงกลาโหมและกองทัพไทย ขอขอบคุณรัฐบาลกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองกำลังส่วนหน้าของกองทัพกัมพูชา ที่ได้ร่วมกันเจรจาและช่วยคลี่คลายสถานการณ์ไปในทางที่ดี เป็นไปตามหลักการที่ยึดสันติ เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่าย
ความคืบหน้าขณะนี้ กองกำลังสองฝ่ายได้มีการออกสำรวจพื้นที่และแนวคูเลตร่วมกัน และได้มีการกลบฝังพื้นที่ตามข้อตกลงร่วมกัน พร้อมกับมีการปรับกำลังของทั้งสองฝ่ายไปอยู่ในแนวพื้นที่ ที่ได้ตกลงกันไว้ในช่วงสถานการณ์ปกติเมื่อปี 2567 เรียบร้อยแล้ว เราทั้ง 2 ฝ่ายคาดหวังจะให้วิถีทางการแก้ปัญหาผ่านกลไก JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 เป็นการคลี่คลายปัญหาของทั้งสองประเทศอย่างสันติ
กระทรวงกลาโหม ขอขอบคุณกองกำลังฝ่ายไทย แม่ทัพภาค 2 และกองทัพบกที่อดทนอดกลั้น ต่อสถานการณ์และยึดสันติวิธีเป็นที่ตั้ง จากนี้ไปขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกฝ่ายระมัดระวังการให้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อไม่นำไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งใหม่มากยิ่งขึ้น
ขณะที่เฟซบุ๊ก วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก Wassana Nanuam ระบุว่า จบแค่ 1 จุด เหลือเจรจาต่อรองอีก และกดดันต่อ!
ทหารเขมร ถอยจากต้นพญาสัตบรรณ ดินแดนไทย ถอยกลับไปแนวศาลาตรีมุข กลบคูเลต-ปรับพื้นที่ตามเดิมจัดชุดลาดตระเวน และมาพบปะกันสัปดาห์ละครั้ง คาดจะสร้าง ศาลาขึ้นมาใหม่ ในอนาคต ไว้เป็นที่พบปะกัน แต่มาตรการกดดันยังคงทำต่อไป เหตุกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ยังคงอยู่ประชิดชายแดน
มีรายงานระบุว่า ในการประสานการเจรจากันในหลายระดับทั้งในระดับพื้นที่ของกองกำลังสุรนารี กองทัพภาค 2 และในระดับพนมเปญ ได้ข้อยุติว่าทหารไทย-กัมพูชา จะถอยกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายจะถอนกำลัง กลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม เมื่อปี 2567 คือแนว ศาลาตรีมุข โดยขอให้ ฝ่ายทหารกัมพูชา กลบคูเลต และปรับพื้นที่คืนให้อยู่ในสภาพเดิม ตาม MOU 2543
โดยได้มีการลงพื้นที่ร่วมกันไปดูว่ามีการถอนกำลังจริง และยังได้ตกลงร่วมกันให้มีกำลังทหารของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา มาพูดคุยกัน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจและลดความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ทหารกัมพูชายังคงวางกำลังทหารในจุดอื่น พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ไปประชิดชายแดน ไทยจุดนี้จะต้องมีการเจรจากันต่อไปฝ่ายไทยจะเดินหน้ามาตรการกดดัน ต่อไปเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น