โยนระเบิดใส่เพื่อไทย

“ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” ส่งสัญญาณหนักแน่นปกป้องสถาบัน พิทักษ์เสาหลักประเทศ อนุทินประกาศกร้าวต่อต้านคัดค้าน พรรคแก้ ม. 112  ถึงที่สุด  ไม่ร่วมสังฆกรรม ไม่ขอเป็นรัฐบาล ไม่ทำงานด้วย  ย้ำจุดยืนพรรคปกป้องสถาบันนำหน้า  ฝ่ายจุรินทร์ก็ลั่นวาจาพรรคสีฟ้าไม่แตะ ม.112  ไม่แก้ไขหมวดสถาบัน  ชี้ทุกประเทศล้วนมีกฎหมายปกป้องประมุข  เพื่อไทยจุกอกไม่รู้จะไปทางไหนดี  หนุนก็ตายต้านก็ลำบาก เจอโจทย์ยากหมากบังคับ  กลายเป็นพรรคไร้จุดยืนผีหัวขาด สู้ไปกราบไป เดินทางไหนก็บรรลัยพอกัน  

ม.112  กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงทางการเมืองอีกครั้ง หลังพรรคก้าวไกลฝ่ายสามกีบก๊วนล้มเจ้า ออกมาเปิดนโยบายการเมืองชุดแรก ภายใต้หัวข้อ “การเมืองไทยก้าวหน้า”  จัดระเบียบกองทัพ ใบแดงทหารเกษียณห้ามเล่นการเมือง 7 ปี  ยุบกอ.รมน.  ยกเลิกกฎอัยการศึก   คืนที่ดินคืนธุรกิจของกองทัพกลับมาสู่ประชาชน  ยกเลิการเกณฑ์ทหาร  ลดนายพล   จัดแถวศาลปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง   ผู้พิพากษาต้องมีการแสดงบัญชีทรัพย์สินให้สาธารณะชนทราบ  ให้ไทยลงสัตยาบันรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)  เพื่อนำคดีที่รัฐกระทำต่อประชาชนขึ้นชำระสะสาง ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557  หนักที่สุดคือ การประกาศแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้แก่ กฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตรา 116 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์     “ กฎหมายมาตรา 112 ที่สภาฯ ไม่ยอมบรรจุเข้าวาระ อ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่พรรคยืนยันจะเดินหน้าผลักดันต่อไปหากได้เป็นรัฐบาล ขอย้ำว่าการแก้ 112 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่ได้กระทบต่อพระราชสถานะองค์พระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขของประเทศ” รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกลแถลงข่าว

พลันที่พรรคก้าวไกลแถลงจุดยืนเรื่องนี้   ฝ่ายพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลที่มีจุดยืนปกป้องสถาบันก็พาเหรดออกมาแสดงความเห็นคัดค้านตรงข้ามกับเรื่องนี้อย่างพร้อมเพรียง  วานนี้ ( 19 ต.ค. 2565) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์   ออกมาแสดงจุดยืนเรื่องนี้ของพรรคสีฟ้าชัดเจน  ว่าประเด็น ม.112  พรรคจะไม่  “แตะ”  และเห็นควรให้คงไว้เหมือนนานาอารยะประเทศที่ต้องมีกฎหมายปกป้องประมุขสูงสุดที่เป็นเสาหลักของประเทศ “พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์มากขึ้น  โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2  ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีบทคุ้มครองประมุขของประเทศ ”  เสี่ยอู๊ดด้าระบุ

แต่หัวหน้าพรรคที่ออกตัวแรงในเรื่องนี้ และพูดเรื่องม.112 ได้โดนใจคนไทยรักสถาบันมากที่สุดเห็นจะไม่มีใครเกิน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคสายสีน้ำเงินตัวจริงเสียงจริง เที่ยวนี้ไม่ได้ออกมาคัดค้านคนคิดแก้ม.112 เฉยๆแบบเดิมๆ  แต่ประกาศจุดยืนแทนพรรค แทนสมาชิกพรรค ในลักษณะ “เด็ดขาด- แข็งกร้าว-ชัดเจน”  หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะ “คัดค้าน-ต่อต้าน” การแก้ไข ม.112 อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะพรรคภูมิใจไทยก่อตั้งขึ้นมา โดยมีอุดมการณ์ทางการเมือง ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติเป็นข้อแรก  เป็นหัวใจในการทำงานของพรรค เป็นอุดมการณ์ที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคนยึดถือเป็นหลักมั่นใจว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่า ม.112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหรือใช้ชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะท้าทาย คิดจะทำผิดกฎหมายเท่านั้นที่อยากแก้ไขเรื่องนี้

“พรรคภูมิใจไทย   เราไม่แก้ไข และ จะคัดค้าน ขัดขวางถึงที่สุด  รวมทั้งจะไม่ร่วมมือ ร่วมทำงาน กับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่แก้ไข ม.112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า หรืออีกกี่ครั้งก็ตาม  ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล  แต่พรรคจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคที่มีแนวคิดแก้ไข ม.112 รวมอยู่ด้วยเพราะมีอุดมการณ์ขัดแย้งกันจนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ”  อนุทินประกาศกร้าวไม่ทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลไม่ร่วมหัวจมท้ายกับพรรคที่มีแนวคิดล้มเจ้า  เสี่ยหนูออกหมัดดอกนี้ ทั้งหนักทั้งคมทั้งตรงเป้า   เสยปลายครางเพื่อไทยโยนระเบิดใส่ฝ่ายทักษิณแบบเต็มๆ ตกลง ม.112 พรรคเพื่อไทยจะเอาไงนักโทษแดนไกลหนีคดีจะมาไม้ไหน  หนุนหรือค้านก็ปวดกบาลพอๆกัน

งานนี้ 2 พรรคใหญ่ในวงการพูดดังฟังชัดส่งสัญญาณให้ได้ยินกันทั้งแผ่นดิน  พรรคประชาธิปัตย์ยืนกรานไม่แตะกฎหมายคุ้มครองเจ้านาย    ฝ่ายพรรคภูมิใจไทยลั่นวาจาแข็งกร้าวไม่ผสมพันธุ์ไม่ร่วมสังฆกรรมพรรคสามกีบขั้วล้มเจ้า  เบอร์ใหญ่ในวงการออกมาแสดงความคิดเห็นกันหมด  งานนี้ก็เหลือแต่พรรคเพื่อไทยขาใหญ่สุดจะออกตัวอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้  เที่ยวนี้พรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณเรียกว่าจุกอกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  เพราะเจอเสี่ยหนูเขวี้ยงเผือกร้อนใส่ตักแบบเต็มๆ   อย่างที่รู้ที่ผ่านมาฝ่ายเสื้อแดงพรรคนักโทษหนีคดีใช้กลยุทธ์สู้ไปกราบไปหน้าไหว้หลังหลอกมาตลอด  คนอยู่ในแวดวงการเมืองทุกคนรู้ดีว่าพรรคทักษิณที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์ “ลิงหลอกเจ้า” มาตลอด   หัวแถวแกนนำปากก็บอกว่ารักเคารพสถาบันแต่ลับหลังก็สนับสนุนพวกล้มเจ้า  ลักปิดลักเปิดทำตัวจับปลาสองมือมาตลอด  ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเคยเปิดศึก “ส้ม-แดง”  ด่ากันเรื่อง “สู้ไปกราบไป” อย่างที่ทุกคนทราบดี

แต่มาเที่ยวนี้ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะถูกไฟท์บังคับ ให้ต้องแสดงจุดยืนชัดเจนว่าตกลงแล้วประเด็น ม.112 จะเอายังไง จะยืนข้างไหน   ด้านหนึ่งหากประกาศจุดยืนเห็นด้วยกับการแก้ไข ม.112  ยืนข้างเดียวกับพรรคก้าวไกลฝ่ายสามกีบขั้วล้มเจ้า ก็เสี่ยงเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศสงครามกับฝ่ายคนรักสถาบัน  รวมถึงคนที่อยู่ตรงกลางซึ่งยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกข้างไหนกาพรรคไหน   ทีนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยประกาศหนุนแก้ ม.112 ขึ้นมาจริงๆ  ตรงนี้ก็จะกลายเป็นการไปยอมรับโดยอัตโนมัติว่ามีแนวคิดล้มล้างสถาบันซึ่งความจริงคนไทยก็รู้อยู่แล้ว  เพราะที่ผ่านมาแกนนำและส.ส.หลายคนก็มีแนวคิดเรื่องนี้ฝังหัวอยู่แล้ว  แต่ก็ต้องแสดงตัวเป็นอีแอบไม่เปิดไต๋เรื่องนี้แบบจริงๆจังๆ เพราะกลัวจะตกเป้าโจมตีของสังคมและอาจซวยถูกร้องเรื่องยุบพรรค  อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เอาด้วยกับพรรคก้าวไกลไม่แสดงท่าทีเรื่อง ม.112 ให้ชัดเจน แนวทางนี้ก็จะทำให้พรรคมีผลกระทบใหญ่หลวงไม่แพ้กัน อย่าลืมว่าฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยกับฐานเสียงของพรรคก้าวไกล  มันกลุ่มเดียวกันพวกเดียวกัน วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ พวกทุนนิยม พวกสามกีบ พวกล้มเจ้า พวกชังชาติ พวกเกลียดรัฐบาล พวกต้านทหาร ฯลฯ   ถ้าพรรคเพื่อไทยประกาศจุดยืนเรื่องนี้ไม่ชัด  คะแนนเสียงกลุ่มเหล่านี้นรับรองว่าเทไปหาพรรคก้าวไกลหมดแน่ๆ  อีกประเด็นที่สำคัญถ้าพรรคเพื่อไทยไม่มีพวกไว้เป็นกองหนุนไม่มีพรรคการเมืองไว้เป็นพันธมิตรบ้าง  ถามว่าพรรคเพื่อไทยจะเอาเสียงส.ส.จากไหนมาหนุนให้ตัวเองเป็นแกนนำรัฐบาล  ดันแคนดิเดตของพรรคไม่ว่าจะเป็น “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” ให้เป็นนายกฯ  เพราะเลือกตั้งคราวหน้า ต่อให้พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะเป็นที่ 1 นอนมา แต่บวกลบคูณหารยังไงก็ไม่มีทางแลนด์สไลด์ได้ส.ส.เกิน 250 คน อย่างแน่นอน

เที่ยวหน้ามีทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์  พรรคไทยสร้างไทย พรรคสร้างอนาคตไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ  ไหนจะพรรคเล็กพรรคน้อยอีกจำนวนมาก ต่อให้กลับไปใช้เลือกตั้งวิธีเก่าบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใช้สูตรหาร 100  ที่พรรคเพื่อไทยกระหยิ่มยิ้มย่องว่าจะเข้าทางพรรคใหญ่  มันไม่ง่ายหรอกครับนายที่จะชนะเลือกตั้งแบบเลนด์สไลด์ยังไงพรรคเพื่อไทยก็ต้องพึ่งใบบุญพรรคก้าวไกลของฝ่ายสามกีบล้มเจ้าหากอยากลุ้นเป็นรัฐบาลชิงเก้าอี้นายกฯ  เพราะฉะนั้นถ้าเห็นต่างเรื่อง ม.112 แล้วจะไปกันยังไง  พรรคเพื่อไทยเจอโจทย์ยากมีหมากบังคับอยู่  หนุน 112 ก็ไม่ได้ ต้าน 112 ก็ไม่ดี  ก็ต้องออกแนวกั๊กๆ ครึ่งผีครึ่งคนไปแบบนี้  สุดท้ายก็คงต้องใช้แนวทางสู้ไปกราบไปเหมือนเดิม เพราะไม่ว่าจะไปทางไหนก็ตายหยังเขียด  เลือกตั้งเที่ยวหน้ากระแสพรรคเพื่อไทยตอนนี้อาจจะดี แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะเข้าวินแบบง่ายๆ  3 ป.บูรพาพยัคฆ์  “บิ๊กตู่-ลุงป้อม-บิ๊กป๊อก”  ครองอำนาจมา 8 ปี อำนาจ บารมี เงินทองมีพร้อม “พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์”   3 พรรคใหญ่จับมือเป็นรัฐบาลมายาวนาน  ทะเลาะกันให้ตายสุดท้ายก็จับมือกัน  ต้านทักษิณทำสงครามกับนายห้างดูไบแน่   จู่ๆจะยอมพ่ายแพ้ให้เปลี่ยนขั้วเปลี่ยนข้างเล่นกันง่ายๆ ไม่มีทางเป็นไปได้  กว่าจะถึงวันเลือกตั้ง  ยังมีกุศโลบายยังมีแทกติกอีกเยอะ ไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน

///////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ธรรมชาติวาดเส้นแบ่ง 'แม่น้ำสองสี' ไหลบรรจบในกานซู่
กลุ่มคนจีนยกพวกรุมทำร้ายเพื่อนบ้านเจ็บ 2 ดอดมอบตัวอ้างปากแจ๋ว เหตุเพราะไรเดอร์ส่งปูราคา 4 พันผิดบ้าน
ชาวบ้าน แตกตื่น พบ “ทารก” ใส่ถุงดำทิ้งริมทาง รีบแจ้ง ตำรวจ กู้ภัยฯ ตรวจสอบที่แท้เป็นตุ๊กตายาง
สงขลา แถลงจัด “Songkhla International Marathon 2025” เปิดศึกวิ่งนานาชาติ
ชาวอำเภอบัวเชด เร่งทำบังเกอร์ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดน
รมช.คลัง ลงพื้นที่ สมุทรสงคราม เปิดตัวโครงการ "ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ" หนุนการออมด้วยสลากดิจิทัลใบละ 50 บาท

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​