รัฐบาลเร่งนโยบายเพิ่มพื้นที่ป่า หนุนความเป็นกลางทางคาร์บอน

รัฐบาลเร่งนโยบายเพิ่มพื้นที่ป่าหนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก เปิดทางเอกชนเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อปลูกสวนป่า

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ขับเคลื่อนแผนงานทั้งระดับนโยบายและปฏิบัติการ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ประกาศระหว่างการเข้าร่วมประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ที่ประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ต.ค.65 ได้ เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ให้ภาคเอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าตามกฎหมายและระเบียบทีเกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ ควบคู่กับฟื้นฟูทรัพยากรธรรมป่าที่เสื่อมโทรมโดยเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพิ่มพื้นที่ป่าในการกักเก็บคาร์บอนสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ลดก๊าซเรือนกระจก ลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เพื่อให้เอกชนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าไม้เพื่อปลูกสร้างสวนป่าภาคเอกชนได้ดังกล่าว ครม. ได้ยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2533 ที่ให้ระงับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าภาคเอกชนไว้ชั่วคราว และมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2535 ที่กำหนดเงื่อนไขการอนุญาตให้ภาคเอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าในลักษณะที่เป็นข้อจำกัด

อย่างไรก็ตาม กรมป่าไม้ได้กำหนดมาตรการควบคุมการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่า เพื่อไม่ให้มีการใช้ประโยชน์รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะเป็นไปตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 และระเบียบคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการปลูกสร้างสวนป่าหรือปลูกไม้ยืนต้นภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตปลูกสร้างสวนป่าภาคเอกชน เพื่อป้องกันการบุกรุกและการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งผู้ขอเข้าทำประโยชน์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดโดยเคร่งครัด

 

นอกจากนี้ จะมี พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ. 2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สวนป่า(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 กำกับเพื่อให้เป็นการส่งเสริมให้มีการปลูกสร้างสวนป่าในที่ดินของรัฐและที่ดินของเอกชนให้กว้างขวาง มีการรองรับและคุ้มครองสิทธิในการทำไม้ที่ได้จากการปลูกสร้างสวนป่า สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการใช้ที่ดินจากการปลูกพืชไร่มาเป็นการทำสวนป่าจะก่อให้เกิดการอนุรักษ์ป่าไม้มากขึ้น

“กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้พิจารณาก่อนเสนอต่อที่ประชุม ครม. แล้วว่า การให้ภาคเอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าตามกฎหมายและระเบียบทีเกี่ยวข้องในครั้งนี้ จะมีส่วนในการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติที่มีปัญหาความเสื่อมโทรม โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ป่าไม้ที่ลดลง เกิดการใช้ประโยชน์และสร้างการเติบโตบนฐานทรัพยากรอย่างสมดุล เพิ่มพื้นที่ป่าในการกักเก็บคาร์บอน สามารถนำมาคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิตได้ในระยะยาว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ราชินีแห่งราชินี” ผู้ทรงเป็น “พระแม่แห่งแผ่นดิน”
นักท่องเที่ยวและประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมงาน “กินเจ อิ่มบุญ”
“OCEAN CHUMPHON Soft Power Runway” ฉลองครบรอบ 42 ปี ปลุกพลัง Soft Power
ชาวระนองร่วมแสดงความอาลัย “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ในพิธีแห่พระใหญ่ เทศกาลถือศิลกินผัก
อวสาน“เสือเหลือง” สายแว้นเมืองคอน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงการณ์จับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​