“รัฐบาล” ย้ำประชาชน จำเป็นต้องรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ลดโอกาสป่วยหนัก เสียชีวิต

รัฐบาลย้ำประชาชนจำเป็นต้องรับวัคซีนเข็มกระตุ้น แม้สถานการณ์โควิด19 โดยรวมดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม 608 เพื่อลดโอกาสป่วยหนัก เสียชีวิต สาธารณสุขเผยกลุ่มเสี่ยงที่เสียชีวิตร้อยละ 56.12 เป็นผู้ยังไม่รับวัคซีน และอีกร้อยละ 35.5 ยังไม่รับวัคซีนเข็มกระตุ้น

วันที่ 5 กันยายน 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศไทยจะทรงตัวและปรับตัวลดลง ขณะที่รัฐบาลทยอยประกาศผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเกือบเป็นปกติ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนต้องเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด19 โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 ที่ความเสี่ยงสูง ที่นอกจากรับวัคซีนครบตามเกณฑ์แล้วจะต้องเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 และ 4

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุถึงความจำเป็นที่ประชาชนต้องเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเนื่องจากไวรัสโควิด19 ยังคงมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เช่นกรณีขอสายพันธุ์โอมิครอนที่ขณะนี้มีการจับตาสายพันธุ์ BA.2.75 ซึ่งมีการพบครั้งแรกในอินเดียและขณะนี้ได้กระจายไปในหลายประเทศและได้มีการคาดการณ์ว่าอาจมาแทนที่สายพันธุ์ BA.5 เนื่องจากการดื้อต่อภูมิต้านทานและแพร่ระบาดที่รวดเร็ว ทั้งในผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อนและผู้ไม่เคยติดเชื้อ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลจึงขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อที่ยังมีรายการการกลายพันธุ์ต่อเนื่อง หรือหากติดเชื้อไวรัสก็ลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล และอัตราการเสียชีวิตได้ เห็นได้จากข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 (ศบค.) ล่าสุด ได้พบว่า จากจำนวนผู้ป่วยโควิด19 กลุ่ม 608 ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการปอดอักเสบรุนแรง ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ค. 2565 ทั้งหมด 9,373 รายนั้น เป็นผู้ไม่ได้รับวัคซีนถึง 5,260 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 56.12 เป็นผู้ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 3,327 คน หรือร้อยละ 35.5 ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น มีจำนวน 786 ราย หรือร้อยละ 8.38

รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมวัคซีนป้องกันโควิด19 เพื่อบริการประชาชนอย่างเพียงพอ โดยมีแผนบริหารการให้วัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือน ก.ย. 2565 สำหรับผู้ได้รับวัคซีนเชื้อตายมาใน 2 เข็มแรก เข็มที่ 3และ4 จะเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกาต่อเนื่องกัน หรือ ไฟเซอร์ต่อเนื่องกัน, ผู้ที่รับวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกและเข็มที่2 เป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่3 และ4 จะเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกาต่อเนื่องกัน, ผู้ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาใน 2 เข็มแรก เข็มที่3และ4 จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ต่อเนื่องกัน, ส่วนผู้มีอายุ 12-17 ปี จะได้รับเข็มกระตุ้นเป็นวัคซีนไฟเซอร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ซีพีประกาศจุดยืน “องค์กรแห่งความหลากหลาย” เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
"ประเสริฐ" กางข้อมูล-หลักฐาน ซัด "กัมพูชา" เป็นแหล่งอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติใหญ่สุดในโลก
“ไตรศุลี” หอบใบลาออก 5 รมต.ภูมิใจไทย ยื่นนายกฯ มีผลทันที
“ประเสริฐ” พร้อมนั่ง "มท.1" ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมรบ.แน่นปึ้ก
วิบากกรรม “ตระกูลชินวัตร” จบไม่สวยกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พรุ่งนี้ “นายกฯ” ลงพื้นที่ชายแดน ช่องบก อุบลฯ นัดหมายคุยต่อหน้า “แม่ทัพภาคที่ 2”
ด่านคลองลึก คุมเข้มการเดินทางออกไปยังฝั่งปอยเปตอย่างเข้มงวด โดยแม่ทัพภาคที่ 1 เตรียมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว
"ภูมิธรรม" มั่นใจพรรคร่วมฯเดินหน้าบริหารปท.ต่อ เหน็บ "ภท." ไม่เข้าใจสถานการณ์ ร้องขออย่าขยายขัดแย้ง
ไม่หวั่น ! การสู้รบบริเวณชายแดนเชื่อทหารสามารถปกป้องได้ยอมรับกลัวได้ยินเสียงปืนฝั่งเพื่อนบ้านแต่ไม่หนี
รบ.ออกแถลงการณ์แจงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยืนยันเดินหน้าปกป้องอธิปไตย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น