วิกฤตการขาดแคลนก๊าซของรัสเซียที่เริ่มมาจากความขัดแย้งในยูเครน ได้ส่งผลกระทบถึงการใช้พลังงานในสหภาพยุโรป โดยที่เยอรมนี ผู้คนเริ่มหาวิธีทำความร้อนในครัวเรือนด้วยการใช้ถ่านหิน แม้ต้องเผชิญกับคราบเขม่าถ่านหินก็ตาม เช่นนายยีน บลัม ลูกค้าชายวัย 55 ปี ได้กล่าวว่า เขาซื้อถ่านหินเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เพราะแม้ว่าราคาถ่านหินจะเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ในฤดูกาลนี้ แต่ก็ยังถูกกว่าไม้ซึ่งมีราคาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยบ้านของเขานั้น มีทั้งฮีตเตอร์ที่ใช้แก๊ส และมีเตาผิง สำหรับการใช้ไม้ฟืนด้วย แต่ด้วยราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เขาต้องหาความอบอุ่นยามค่ำคืนจากถ่านหินเช่นกัน การมีทางเลือกอื่นในการสร้างความอบอุ่น แม้จะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ แต่ก็ดีกว่าถูกแช่แข็งในอากาศเย็น
ด้านนายฟริทช์จอฟ แองเคล ผู้ค้าถ่านอัดแท่ง ที่กลายเป็นสินค้ายอดนิยมในเบอร์ลิน เมืองหลวงเยอรมนีกล่าวว่า ความนิยมเกี่ยวกับการจัดหาถ่านหินนั้นเป็นเรื่องจริงที่เริ่มตั้งแต่ช่วงสงคราม จากความกลัวการขาดแคลนก๊าซ และตอนนี้ก็ได้เกิดการขาดแคลนทั่วทั้งประเทศ เพราะผู้ผลิตไม่สามารถจัดหาถ่านให้ได้ทันกับความต้องการได้ มีลูกค้ารายใหม่เกิดขึ้นเยอะ ทุกคนที่มีฮีตเตอร์ แต่บ้านยังมีเตาผิงด้วย เริ่มหันมาต้องการถ่านหิน นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนนี้บริษัทกำลังมีรายได้มหาศาล มีคำสั่งซื้อเข้ามามากมาย ยอดการจองถ่านหินเต็มไปจนถึงเดือนตุลาคม
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเยอรมันได้ตัดสินใจเพิ่มการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อตอบสนองความต้องการอันมหาศาลของอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรก็ดี เยอรมนียืนยันว่าจะรักษาคำมั่นที่จะยุติแหล่งพลังงานที่สร้างมลพิษอย่างหนักภายในปี 2030 และห้ามการใช้ถ่านหินอีกต่อไป
