No data was found

ประมงเมืองคอน ร้อง กมธ.ป.ป.ช. หลังโดนปลุกขึ้นมาจับกุม

กดติดตาม TOP NEWS

เฒ่าวัย 62 ปี ร้อง กมธ.ป.ป.ช.ประมงเมืองคอนปลุกขึ้นมาจับ-หลังพบอวนวางกองที่ท่าน้ำยังไม่ได้ออกทำประมงใด ๆ แจ้งข้อหาครอบครองเครื่องมือประมงผิดกฎหมายปรับทันที 1 หมื่น-รอง ปธ.กมธ.ปปช.ชี้จับกุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายเตรียมเชิญชี้แจงใน กมธ.ป.ป.ช.

วันที่ 12 ก.ค. 2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.พปชร.เขต 1 จ.ภูเก็ต ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.)สภาผู้แทนราษฎรเดินทางมารับเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมและช่วยเหลือจากชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ต.ปากนคร ต.ปากพูน อ.เมือง ต.แหลมตะลุมพุก ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ออกทำการประมงชายฝั่ง และถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ประมง โดยตั้งข้อกล่าวหารุนแรงเกินความเป็นจริง โดยเฉพาะข้อหาทำประมงพาณิชย์ในเขตพื้นที่หวงห้ามและใช้อวนตาถี่กว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องคำพิพากษาเสียค่าปรับสูงสุดรายละ 120,000 บาท พร้อมริบเรือหางยาวที่ดัดแปลงเป็นเรือประมงขนาดเล็ก เครื่องยนต์ และเครื่องมือประมง สร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ไม่สามารถประกอบอาชีพได้หมดทางหากินสิ้นเนื้อประดาตัว ประกอบกับอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยิ่งเพิ่มความลำบากเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น โดยนายสุทา ประทีป ณ.ถลาง ออกตรวจสอบข้อเท็จจริงกลางทะเลอ่าวปากนคร-อ่าวปากพนัง และฝั่งตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 วันระหว่างวันที่ 11-12 ก.ค. 2564 ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น ในขณะที่นายวิโรจน์ หวั่นมะแหม อายุ 62 ปี 553/7 หมู่ 7 บ้านแหลม ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านที่ไม่ได้ออกจับสัตว์น้ำ แต่ดัดแปลงเรือประมงไปรับนักท่องเที่ยวทำกิจกรรมเชิงอนุรักษ์กับแหล่งท่องเที่ยวบ้านแหลมโฮมสเตย์ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช แทนแต่ยังถูกจับกุมอย่างไม่เป็นธรรม ได้เข้าพบนายสุทา ประทีป ณ ถลาง เพื่อยื่นร้องเนียนขอความเป็นธรรมและให้สอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย

นายวิโรจน์ หวั่นมะแหม กล่าวว่า การจ้องจับกุมชาวประมงพื้นที่อย่างหนักจนบาวประมงพื้นบ้านส่วนใหญ่ไม่กล้าเสี่ยงออกทำประมง ตนและเพื่อนหลายคนได้นำเรือประมงดัดแปลงรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่อวเที่ยวบ้านแหลมโฮมสเตย์แทนการทำประมง โดยนำอวนจากในลำเรือกองไว้ที่ท่าน้ำ แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ประมงมาพบอวนที่กองไว้ทำการตรวจยึด และเมื่อสอบถามจนทราบวส่าอวนดังกล่าวเป็นของตน เจ้าหน้าที่ได้ตามไปจับกุมตนถึงในบ้านในขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ แปจ้งข้อหาในข้อหาครอบครองเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย และสั่งปรับในชั้นจับกุม 10,000 บาท โดยมีชาวประมงพื้นบ้านคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ออกทำประมงแต่จอดเรือ หรือนำอวนกองไว้ที่ท่าน้ำถูกจับกุมเสียค่าปรับรายละ 10,000 อีกหลายคน “หากไม่ยอมเสียค่าปรับทางเจ้าหน้าที่ก็จะตามไปยึดเรือที่นำไปดัดแปลงเป็นเรื่องรับส่งนักท่องเที่ยวมาเป็นของกลางและส่งฟ้องศาล ใน 3 ข้อหาหลักคือการทำประมงพาณิชย์ในเขตหวงห้าม 3,000 เมตรและใช้เครื่องมือประมงอวนตาถี่กว่า 4 ซ.ม.เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับสูงสุดถึง 120,000 บาท พร้อมริบเรือ เครื่องยนต์ และเครื่องมือประมง ตนชาวบ้านส่วนใหญ่จึงต้องหยิบยืมเงินมาจ่ายค่าปรับที่ประมงจังหวัด 10,000 บาท เพราะเกรงว่าหากส่งห้องศาลจะถูกปรับสูงขึ้นและถูกริบเรือประมง เครื่องยนต์และเครื่องมือประมง แม้ตนจะยอมจ่ายค่าปรับ แต่ตนเครียด คิดมากนอนไม่หลับ 3-4 คืน เพราะการที่ตนนำอวนลงจากเรือมากองไว้ที่ท่าน้ำมันไม่น่าจะมีความผิดใด ๆ แต่เจ้าหน้าที่ประมงกลับมาตรวจยึดและไปตามตนที่นอนหลับอยู่ในบ้านพร้อมแจ้งขอกล่าวหาครอบครองเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ในวันเดียวกันพรรคพวกหลายคนที่เอาอวนวางที่ท่าน้ำและนำเรือไปรับนักท่องเที่ยวโดนข้อหานี้กันหลายคน รวมทั้งคนที่จอดเรือประมงไว้ที่ท่าน้ำและมีอวนหรือเครื่องมือประมงผิดกฎหมายอยู่ในลำเรือก็จะถูกจับกุมดำเนินคดีและปรับที่ประมงจังหวัดเช่นกัน สร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้กับชาวประมงที่หาเช้ากินค่ำ และยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดอีกด้วย”


นายสุทา ประทีป ณ ถลาง กล่าวว่าเรื่องนี้ชาวบ้านร้องเรียนตนมาระยะหนึ่งแล้ว และตนได้รายงานให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตฃรและสหกรณ์ ทราบเบื้องต้นแล้ว ท่าน รมช.มนัส ได้กำชับให้ตนช่วยดูแลช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้านอ่าวปากนคร อ่าวปากพนังด้วย วันนี้ตนจึงเดินทางมารับเรื่องเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาในชั้น กมธ. ป.ป.ช. โดยจะกราบเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนเข้าสู่วาระเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ เพราะเกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชนอันเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจากจะเชิญเจ้าหน้าที่ประมงและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด อำเภอเข้าชี้แจงแล้วจะเชิญอธิบดีกรมประมงหรือรัฐมนตรีว่าการ , รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช.ด้วย ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งชาวประมงผู้ร้องและเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมมาชี้แจงต่อไป ส่วนปัญหาข้อกฎหมายที่ออกมาแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแล้วส่งผลกระทบต่อวิถีการดำรงชีวิตของประชาชน จนต้องเดือดร้อนสิ้นเนื้อประดาตัวแบบนี้คงจะต้องเสนอให้มีการทบทวนเพื่อแก้ไขกฎหมาย หรือประกาศกระทรวงเกษตร ฯฉบับลงวันที่ 15 ธ.ค. 2560 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2561 ด้วย เพราะเป็นประกาศใช้คำนิยม “ประมงพาณิชย์” ที่ขัดกับข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน ตนยืนยันว่าเครื่องมือประมงพื้นบ้านส่วนใหญ่ไม่ถึงขั้นทำลายล้างตามที่อ้างกันมาตลอด แต่สิ่งทำลายล้างคือระบบนิเวศที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือการทำประมงพาณิชย์ ไม่ใช่ชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งกฎหมายที่บังคับใช้กับเรือประมงพาณิชย์ กับเรือประมงพื้นบ้านจะมาใช้ร่วมกันไม่ได้ หากเจ้าหน้าที่อ้างว่าทำไปตามพยานหลักฐาน ตนก็จะดำเนินการสอบสวนเอาผิดไปตามพยานหลักฐานเช่นกัน ผลจะออกมาอย่างไรคอยติดตาม นายสุทา กล่าวย้ำ.

 

ไพฑูรย์ อินทศิลา  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สอบสวนกลาง รวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีม้า ผู้เสียหายสูญเงินไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท
"จอมแฉ" สิ้นลาย ถูกสอบสวนกลางรวบตัว หลังขู่ยื่นหนังสือตรวจสอบประมูลงาน กรรโชกทรัพย์หลายบริษัทฯ
"พิมพ์ภัทรา "จี้ถาม"ปลัดอุตฯ" คาใจเหตุ "อธิบดีกรมโรงงาน" ลาออก
ระทึก สภ.ศรีราชา ผู้ต้องหาหญิง พยายามผูกคอ ในห้องขัง โชคดีเจ้าหน้าที่เห็นทัน
"นายกฯ" บ่นแรงอีกแล้วเหรอ เกิดอุบัติเหตุคนตกท่อกฟน.เสียชีวิต
ภาวะโลกรวน : วัฎจักรราคาสินค้าเกษตรสูงทั่วโลก บริโภคอย่างเข้าใจ
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า "โครงการบ้านชื่นสุข" สร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ "ความกตัญญู"
"ชัชชาติ" แจงเหตุสลด ชายพลัดตกท่อเสียชีวิต ไม่ใช่ของกทม. ย้ำพร้อมรับหน้าที่ประสานเยียวยา
ฉะเชิงเทรา ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบเสื้อให้ตัวแทน Health Rider ส่งยาให้ผู้ป่วย
นายอำเภอบางละมุง สั่ง จนท. ลงพื่นที่ ตรวจจับ พลุดอกไม้ไฟ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น