นายกฯ สั่งพาณิชย์ คุมราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะอุปกรณ์ทางการแพทย์ ป้องกันฉวยโอกาสขึ้นราคา

นายกฯ มอบพาณิชย์ดูแลเข้มราคาสินค้าโดยเฉพาะอุปกรณ์การแพทย์ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาดูแลประชาชนใช้จ่ายช่วงล็อกดาวน์ พร้อมสั่งสคบ.สแกนเรื่องร้องเรียนเร่งบรรเทาความเดือดร้อน

วันที่ 10 ก.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยการใช้จ่ายและปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ภายหลังการยกระดับมาตรการควบคุมโรค ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 ก.ค. นี้ โดยเน้นการลดและจำกัดการเดินทาง จึงจะทำให้ประชาชน มีความจำเป็นต้องซื้อสินค้าทั้งอุปโภคอุปโภคมากขึ้น

 

นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องราคาทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคในท้องตลาดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เป็นธรรม โดยเฉพาะในส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันโรคแก่ประชาชน อย่างหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งจะกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยและค่าครองชีพของประชาชนในช่วงนี้ได้

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ไม่ขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ เพื่อช่วยกันบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน หากพบมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างไม่เหมาะสม จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ให้มีการตรวจสอบด้วย หากพบเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน จากการขึ้นราคาสินค้าไม่เป็นธรรม ขอให้เร่งตรวจสอบและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนโดยด่วน

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของการสต๊อกสินค้านั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมพร้อมรองรับการยกระดับมาตรการควบคุมโรคไว้แล้ว โดยได้มีการประสานกับห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เตรียมพร้อมสินค้า โดยเฉพาะด้านอาหาร รองรับความต้องการของประชาชน โดยมั่นใจว่าเพียงพอต่อความต้องการ จึงแนะนำให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าในปริมาณที่พอดี ไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้าไว้จำนวนมาก เพราะสินค้าทั้งด้านอุปโภคและบริโภคมีเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในด้านพลังงาน รัฐบาลมีความพร้อมบรรเทาภาระประชาชนด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน(กกพ.) มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) รอบเดือน ก.ค. – ธ.ค.2564 ให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วย ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ยังได้ขยายเวลาคงราคา LPG ออกไปอีก 3 เดือน  1 ก.ค. – 30 ก.ย.2564 โดยถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 318 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีน-เมียนมา-ไทยยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์
“ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ลงนามแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจะสำนักนายกฯ ตัวเองคุมกลาโหม-มหาดไทยม "พ่อมดดำ" ดูสำนักพุทธฯ-อสมท.
จนท.เร่งสอบขยายผล เก๋งต้องสงสัยคาร์บอมบ์ ถูกเผาทิ้งกลางดึกที่รือเสาะ นราธิวาส
เปิดข้อมูล "ฮุน เซน" สั่งแบนสินค้าไทย แต่ให้นายทุนนำเข้าจากชายแดนลาว ทำราคาพุ่ง ด้าน "คนเขมร" แห่ข้ามแดนช่องจอม ขอทำงานกลุ่มทุนจีน
ผุ้นำญี่ปุ่นลั่นไม่ยอมอ่อนข้อให้ทรัมป์ง่ายๆปมภาษี
"เทพมนตรี" ตอกหน้า "ฮุน มาเนต" โชว์หลักฐานข้อเขียน-แผนที่ "นักสำรวจชาวฝรั่งเศส" ยัน "ปราสาทตาเมือนธม" เป็นของไทย
ทหารพราน ทพ.1303 สกัดจับชาวกัมพูชา 2 ราย กำลังขนบุหรี่เถื่อนเกือบ 16,000 ซอง ลักลอบข้ามชายแดน
หนุ่มนักตกปลา ตาไม่ดี เดินพลาดตกช่องลิฟท์ ที่จอดรถอัตโนมัติ
"โฆษกภูมิใจไทย" สวนกลับเพื่อไทย ไม่ต้องหวาดระแวง ยัน "อนุทิน" ไม่เคยเสนอตัวแย่งชิงนายกฯ
เด็ดปีก ! นักค้ารายย่อย และ เครือข่าย จับเสพ 9 ราย เป็นลูกจ้าง อบต. 1 ราย ซัดทอดขยายผลจับนักค้า 2 ราย นักค้าอีก 2 รายไหวตัวหลบหนี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น