“อ.ปริญญา” เตือนสูตรหาร 500 ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เกิน 100 ที่นั่ง

“อ.ปริญญา” เตือนใช้สูตรหาร 500 ได้จำนวนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เกิน 100 ที่นั่ง แนะปรับข้อความในกฎหมายลูกป้องกันปัญหา

ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเรื่องสูตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ สูตรคำนวณหาร 500 กับ หาร 100 แตกต่างกันอย่างไร และ ทำไมเป็นเรื่องใหญ่ว่า การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 คือการหารด้วยจำนวน ส.ส. ทั้งหมด 500 คน ขณะที่หาร 100 คือการหารด้วยจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์จะแตกต่างกันมาก ยกตัวอย่าง ถ้าใช้จำนวนคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จำนวน 35,561,556 คะแนน มาคำนวณ หากหารด้วย 100 จะเท่ากับ 355,615 คะแนน

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่หารด้วย 500 จะเท่ากับ 71,123 คะแนนเท่านั้น ดังนั้นพรรคเล็กที่เคยได้เฉพาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จึงต้องการสูตรหาร 500 เพราะเพียงแค่ได้ 71,123 คะแนนจะได้ ส.ส. หนึ่งคน ขณะที่หารด้วย 100 ต้องได้คะแนนถึง 355,615 คะแนน จึงจะได้ ส.ส.หนึ่งคน ซึ่งมากกว่าถึง 5 เท่าดังนั้นคำถามคือ ทำไมฝั่งรัฐบาล ยกเว้นพรรคภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนา ที่อาจจะได้ ส.ส.ลดลงจากสูตรนี้ จึงอยากจะเปลี่ยนสูตรจากหาร 100 มาเป็นหาร 500 และเดิมพรรคพลังประชารัฐ คาดว่าตนเองจะได้เปรียบ แต่พอไม่มีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อีกทั้งพรรคอยู่ในสถานการณ์แพแตก จึงรู้ว่าตนเองไม่ได้เปรียบอีกต่อไปแล้ว แต่พรรคที่จะได้เปรียบคือพรรคเพื่อไทย ดังนั้นการเปลี่ยนใจมาหาร 500 จึงวิเคราะห์ได้ว่า เพื่อลดความได้เปรียบของพรรคเพื่อไทย หรือถ้าใช้คำแบบสื่อคือ เพื่อสกัดแลนด์สไลด์นั่นเอง

ผศ.ดร.ปริญญา ยังเตือนว่า ปัญหาใหญ่คือ การใช้จำนวน 500 หาร แต่มีจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้จัดสรรเพียง 100 จะเกิดปัญหาว่าจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคจะรวมกัน เกิน 100 ที่นั่งแน่นอน แล้วจะทำอย่างไรเมื่อรัฐธรรมนูญให้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อแค่ 100 ที่นั่งเท่านั้น โดยในการเลือกตั้งปี 2554 ที่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 125 ที่นั่ง มี ส.ส.เขต 375 ที่นั่ง ตนลองทำแบบจำลองด้วยการใช้สูตรหาร 500 ปรากฏว่าจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมดเท่ากับ 138 คน เกิน 125 ไป 13 คน แล้วตอนนี้มีแค่ 100 คน จะไม่ยิ่งเกินเข้าไปใหญ่หรือ ฉะนั้นถ้าจะใช้สูตรหาร 500 กันจริงๆ ก็ต้องเขียนเพิ่มลงไปด้วยว่า ในกรณีที่คำนวณแล้วจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคจะได้รับ มียอดรวมเกิน 100 ให้ปรับลดลงตามสัดส่วนให้เหลือไม่เกิน 100 ที่นั่ง ไม่งั้นยุ่งแน่นอน แค่ผู้สมัครแบบแบ่งเขตกับบัญชีรายชื่อเป็นคนละหมายเลขกัน ก็ยุ่งจะแย่อยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มาแล้ว "เรืองไกร" ยื่นกกต.สอบ “นายกฯอิ๊งค์” ปมคลิปเสียงสนทนา "ฮุนเซน" อ้างเทคนิคเจรจาฟังไม่ขึ้น ให้ "ลาออก-ยุบสภา"
"สมชาย-ทนายนกเขา" พร้อมคณะ ยื่นร้องบช.ก.เอาผิด "แพทองธาร" ผิดอาญาว่าด้วยความมั่นคงรัฐ
"ผบ.ทบ." แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”
"โฆษกฮุน เซน" กร้าวสุด ลั่นไม่มียุคไหน ไทยกลัวกัมพูชาเท่านี้แล้ว หยันเรื่องอธิปไตยดินแดนไม่มีพี่น้อง
"นายกฯ" ยังไม่ลาออก ยุบสภา ขออภัยคนไทย ผิดหวัง "ฮุนเซน" ปล่อยคลิป ทำความเข้าใจซ้ำกองทัพ ย้ำร่วมมือป้องอธิปไตย
"ชาดา" เห็นใจนายกฯโดน "ฮุนเซน" หักหลัง แต่เลี่ยงรับผิดชอบไม่ได้ เหตุคนไทยเสียความรู้สึก
"พงศ์พรหม" ยก "ภท." ได้ใจมากสุด "ปชป." สอบตก "รทสช." ลำบากตัดสินใจถอนตัวรัฐบาล
ถ้า "นายกฯอิ๊งค์" เลือกลาออก ส่อง 6 แคนดิเดตผู้นำคนต่อไป
"ลีดเดอร์ชิพโพลล์" ม.รังสิต เผยปชช.ส่วนใหญ่ ไม่เชื่อศักยภาพรัฐบาล แก้ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา "กองทัพไทย" ได้รับเชื่อมั่นสูง
คปท.ชุมนุมหน้าทำเนียบ กดดัน "นายกอิ๊งค์" ลาออก เซ่นคลิปเสียงคุย "ฮุนเซน"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น