นครโฮจิมินห์ เวียดนาม ที่มีประชากรอยู่กว่า 9 ล้านคน กำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด 19 ที่ร้ายแรงที่สุด โดยมีรายงานจำนวนผู้ป่วยล่าสุดพุ่งสูงถึงกว่า 8,000 คน ทางการมีคำสั่งให้มีการล็อคดาวน์โดยจะเริ่มต้นเช้าวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ประชาชนจะต้องอยู่บ้าน จะออกจากบ้านได้ก็เพื่อซื้ออาหารและยาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี และเคยเป็นประเทศต้นแบบในการควบคุม เนื่องจากมีการติดตามผู้ติดเชื้อและการกักกันที่เข้มงวด ครั้งนั้นมีผู้ป่วยจากทั่วประเทศน้อยกว่า 3,000 คน อย่างไรก็ดีสถานการณ์โควิดในเวียดนามได้กลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงปลายเดือนเมษายน
นายกรัฐมนตรี ฟาม มินห์ ชิ่ง กล่าวว่าจำเป็นต้องให้ชีวิตผ้คนมาก่อนและต้องยอมให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ด้านเหงียน แถ่ง ฝ่อง นายกเทศมนตรีนครโฮจิมินห์กล่าวว่า โฮจิมินห์กำลังเผชิญกับความท้าทายในการควบคุม การล็อคดาวน์จะทำให้ควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็ว
ผู้อยู่อาศัยในนครโฮจิมินห์ ต่างกังวลกับคำประกาศและแห่กันกักตุนสินค้าอาหาร โดยซุปเปอร์มาร์เก็ตขณะนี้พบว่ามีชั้นโล่งเป็นจำนวนมาก จนเกิดการขาดแคลนทั้งสินค้าและอาหาร
ในเรือนจำ ชิ หาว ของเวียดนาม ก็พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 80 คน และยังมีการจลาจลเกิดขึ้นแต่ยังระบุไม่ได้ว่ามาจากสาเหตุอะไร
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า เวียดนามซึ่งมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน แต่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ไปได้เพียงน้อยกว่า 4 ล้านโดสเท่านั้น ด้านสหรัฐได้ส่งวัคซีนโมเดอร์นาให้แก่เวียดนามไปแล้ว 2 ล้านโดสตามแผนบริจาควัคซีน 80 ล้านโดสของประเทศ ทั้งนี้ เวียดนามมีแผนที่จะสร้างภูมิคุ้มกันแบบหมู่ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงกำลังพัฒนาวัคซีนของตัวเองด้วย