“อัจฉริยะ” แจ้งเอาผิดชุดคลี่คลายคดี “แตงโม” ขัดคำสั่งอัยการ

“อัจฉริยะ” ร้อง ปปป. เอาผิดคณะพนักงานสอบสวน คดีแตงโม ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัยการ ปมไม่ส่งโทรศัพท์ผู้ต้องหาบนเรือ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก.ยุติธรรม ตรวจสอบ

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ชัยรัตน์ กิจงาม สารวัตรสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อแจ้งความเอาผิดคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงสาวชื่อดัง ฐานที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานอัยการนนทบุรี และคณะพนักงานอธิบดีอัยการภาค 1 ตามมาตรา 169 ให้ผู้ต้องหาบนเรือนำโทรศัพท์มือถือส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ของกระทรวงยุติธรรม แต่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกลับไม่ปฏิบัติตาม หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี และคณะพนักงานอัยการภาค 1 ที่ใช้คำสั่งตามมาตรา 169 ให้ผู้ต้องหาบนเรือ นำโทรศัพท์มือถือส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหมายเรียกให้มาสอบเพิ่มเติม และขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา ช่วงวันที่ 22 – 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อีกทั้งประเด็นนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กลับไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ โดยผู้ต้องหาอ้างว่า เคยส่งมอบโทรศัพท์มือถือให้กับพนักงานสอบสวนนำไปตรวจสอบที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. แล้ว รวมถึงมีผู้ต้องหา 2 คนบนเรือ ยืนยันว่า ให้ไม่ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องขัดต่อรัฐธรรมนูญ สิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหา จึงขอใช้สิทธินี้ไม่ส่งมอบให้ เรื่องนี้ นายอัจฉริยะ มองว่า เป็นเรื่องที่ตำรวจทำไม่ถูกต้อง ที่ยินยอมให้ผู้ต้องหาไม่ส่งมอบโทรศัพท์มือถือให้อัยการ และไม่ได้มีการดำเนินคดีใดๆ กับผู้ต้องหา ฐานขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งมีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่อัยการจังหวัดนนทบุรี สั่งให้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาอีกครั้งนั้น เนื่องจาก เห็นว่า พยานหลักฐานที่ตำรวจตรวจไปก่อนหน้านี้ อาจไม่ใช่การกระทำจากความประมาท แต่อาจเกิดจากการฆาตกรรม ฉะนั้นข้อมูลในโทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาดังกล่าว จึงถือเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญต่อการพิจารณาสั่งฟ้อง หรือไม่ฟ้อง ในคดีดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"GLO" จัด Kid Dee Roadshow ภาคเหนือ เสริมพลังคนรุ่นใหม่รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภูมิธรรม” ชี้ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ยันยึดมาตรการตามเดิม ไม่มีผ่อนปรนเข้า-ออก ข้ามแดน
"บิ๊กเล็ก" แจงเข้าใจคลาดเคลื่อน ยันคุยทางออกขัดแย้งกัมพูชา ไม่ได้หมายถึง "เตีย เซียฮา" ขอเชื่อมั่น ไว้ใจนำสงบสุขกลับคืน
"อ.ไชยันต์" ซัด "ไอติม พริษฐ์" อ้างเหตุปชน.ไม่ร่วมยื่นซักฟอก "นายกอิ๊งค์" ทำปชช.เสียโอกาส สวนเจ็บ รัฐสภาอังกฤษ เขียนชัด จริยธรรมนักการเมือง อย่าทำไม่รู้เห็น 
ปั๊มน้ำมันระเบิดดังสนั่นทั่วกรุงโรมของอิตาลี
"โฆษกทบ." แจงเหตุ "ทหารพรานไทย" ปะทะคารม "ทหารกัมพูชา" จุดชมวิวภูผี ไม่ถึงขั้นรุนแรง ย้ำต่างฝ่ายต่างยึดข้อตกลง
"จุลพันธ์" อ้างเหตุครม.ใหม่ เตรียมถอนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์-กาสิโน พิจารณาซ้ำ ยันไม่เกี่ยวปมขัดแย้งกัมพูชา
ดร.เฉลิมชัย ปิดหลักสูตร ปธส. 12 มุ่งสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ท่ามกลางวิกฤตโลกเดือด
"มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งหลวง ราชบุรี มอบรถเข็นวีลแชร์ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วย ถวายเป็นพระราชกุศลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568
"หมอวรงค์" สรุปแยกเป็นข้อๆ ไต่สวนแพทย์-พยาบาล รักษา "ทักษิณ" พิรุธหนัก แพทย์อ้างส่งไปรพ.ตร. เพราะ "พยาบาลเวร" วินิจฉัยอาการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น