“ไทยศรีวิไลย์” ผุดไอเดีย 1 ครอบครัว 1 คาร์ชีท วอนรบ.ทุ่มงบเพื่อความปลอดภัย – ชงเสนอลดค่าปรับ

"ไทยศรีวิไลย์" ผุดไอเดีย 1 ครอบครัว 1 คาร์ชีท วอนรบ.ทุ่มงบเพื่อความปลอดภัย – ชงเสนอลดค่าปรับ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรคฯ ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีความเดือดร้อนของประชาชนต่อการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ที่มีการบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมให้ เด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ปี จะกำหนดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือที่เรียกว่าคาร์ซีท ซึ่งหากรถคันใดไม่มีจะต้องถูกปรับ 2,000 บาท  ซึ่งประชาชนมองว่า ยังมีความไม่สะดวกในหลายประการและถือเป็นการซ้ำเติมในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้

โดยนายมงคลกิตติ์ ระบุว่า กรณีดังกล่าว มีประชาชนร้องเรียนมายังพรรคไทยศรีวิไลย์มาตลอด เพราะนอกจากด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ยังประสบกับวิกฤตต่างๆ อย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้ ผู้ปกครองหลายคนก็ไม่สามารถจัดซื้อคาร์ซีทได้ อีกทั้ง ค่าปรับที่กำหนดตามกฎหมายฯ เป็นจำนวน 2,000 บาท นั้น ในช่วงที่ประชาชนกำลังปรับตัวตามกฎหมายฯ นั้น เห็นควรให้เหลือเพียงแค่ 300 บาท เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากส่วนแบ่งค่าปรับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปรากฏเป็นข่าวคราวบนหน้าสื่อมวลชนอยู่เสมอๆ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทางด้านนายสรกฤช ระบุว่า ทางพรรคไทยศรีวิไลย์ เล็งเห็นถึงความสำคัญและสนับสนุนความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนมาโดยตลอด ซึ่งการที่มีคาร์ซีทในรถนั้น ก็มีข้อสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายคนว่า สามารถปกป้องเด็กเล็กจากอุบัติเหตุได้ แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ กลับกลายเป็นว่า พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ได้มีทีท่าสนับสนุน เนื่องจากว่า ต้องประสบกับภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง  รวมทั้ง คาร์ซีทที่ดีและมีความปลอดภัยต่างก็มีราคาที่สูง ดังนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์จึงเห็นว่า ในเมื่อรัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ซึ่งจะเป็นอนาคตที่สำคัญของชาติต่อไปนั้น ปลอดภัยจากอุบัติเหตุแล้ว ก็เห็นควรให้มีการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้มีการแจกคาร์ซีทตามแนวทาง 1 ผู้ปกครอง 1 คาร์ซีท โดยกรณีนี้อาจจะให้ทางพัฒนาสังคมจังหวัดฯ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีข้อมูลผู้ที่ได้รับเงินอุดหนุนเด็กอยู่แล้ว  เป็นผู้ช่วยดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว ต่อมา เห็นควรให้มีการลดอัตราภาษีของคาร์ซีท จาก 20% เป็น 0% ซึ่งวานนี้ ครม.ก็อนุมัติไปแล้ว มีผลถึงปี 66 ซึ่ง เป็นการใช้เครื่องมือทางภาษี มาสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการ ลดราคาคาร์ซีทลง ถือเป็นการดึงดูดให้ประชาชนสามารถซื้อคาร์ซีทได้ในราคาที่เหมาะสม นอกเหนือจาก ทางคณะรัฐมนตรีมีแนวทางยกเว้นอากรสำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เฉพาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กนำเข้า เพราะถือเป็นการช่วยเหลือแบบครอบคลุมให้กับผู้ประกอบการคนไทยที่ผลิตคาร์ซีทด้วย

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ ได้นำ นายบัญชา สุชญา หรือ ทนายอู๋ ซึ่งจะทำหน้าเป็นโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคฯ และ น.ส. อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ หรือลูกศร รองโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคฯ ด้านสังคม มาแนะนำตัวให้สื่อมวลชนประจำรัฐสภาได้ทำความรู้จัก และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทางการสื่อสารของพรรค ฯ  ซึ่งสื่อมวลชนประจำรัฐสภาต่างให้ความสนใจไปยังบุคคลทั้ง 2 เนื่องจาก เป็นที่คุ้นหน้าตากันดีผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้ง ยังได้สอบถามแนวคิด วิธีการทำงานทางการเมือง และบทบาทภายในพรรคของบุคคลทั้ง 2 ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

องคมนตรี ติดตามผลการดำเนินงานโครงการหลวง ที่จังหวัดเชียงใหม่
เดินหน้ายกระดับการศึกษาสู่มาตรฐานสากล จัดกิจกรรมความร่วมมือ (MOA) ขับเคลื่อนคุณภาพอย่างยั่งยืน
โฆษกกต.แถลงโต้ "กัมพูชา" จงใจยั่วยุแสวงหาความรุนแรง เผย “นายกฯอนุทิน” แจงประธานอาเชียนแล้ว เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยึดหลักสากล
อบจ.โคราช จับมือ อปท.20 จังหวัดภาคอีสาน รวมพลังจัดงานกีฬายิ่งใหญ่ “ย่าโม โคราชเกมส์” 2569
นายกมะเกลือเก่าโคราช เร่งแก้ภัยแล้ง เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำบรรเทาทุกข์ชาวบ้าน
ซีพีเปิดงาน "CP Innovation Exposition & Symposium 2025" ทูตประเทศมหาอำนาจ-ผู้นำองค์กรระดับโลกคนสำคัญ ร่วมถอดรหัสอนาคตนวัตกรรม ชี้อุตสาหกรรมไทยมีศักยภาพเป็นผู้เล่นหลักในเวทีโลก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​