“จตุพร-ทนายนกเขา” ร้องคลังหุ้นใหญ่ ปตท. สละกำไร อุ้มภาระค่าครองชีพ

โดยแถลงการณ์ระบุ 3 ข้อเรียกร้อง ว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติเป็นของประชาชนคนไทย แต่กลุ่มทุนพลังงานยังหวังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากจนเป็นภาระประชาชน การลอยตัวราคาพลังงานทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาพลังงานแพง เพราะมีโครงสร้างการบริหารกิจการพลังงานที่มีลักษณะผูกขาดและมีผลประโยชน์ทับซ้อนไม่เอื้อต่อการแข่งขันและการกำหนดราคาที่ไม่เป็นธรรม พร้อมเสนอข้อเรียกร้องให้กระทรวงการคลังต้องมีบทบาทชี้นำต่อกลุ่มทุนพลังงานและผู้ถือหุ้นว่า ต้องดำเนินกิจการตามหลักธรรมาภิบาล สอดคล้องกับหลักนิติธรรมตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด นำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติปรับปรุงแก้ไขการกำกับราคาพลังงานเพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน โดยห้ามโรงกลั่นบวกกำไรเพิ่มขึ้นจากเนื้อน้ำมัน ให้โรงกลั่นบวกกำไรเพิ่มขึ้นได้เฉพาะต้นทุนการกลั่นที่เป็นจริง โดยมีการกำหนดเพดานราคาบนพื้นฐานที่ไม่ส่งผลต่อการดำรงชีพของประชาชน โรงกลั่นและผู้ถือหุ้นได้รับผลกำไรที่เป็นธรรม พร้อมทั้งควรนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นรับรู้ถึงวิกฤติที่จะมาถึงบริษัท ปตท. จากผลกำไรที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดเพื่อเก็บภาษีลาภลอยกับกลุ่มทุนพลังงาน โรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเลียม ที่ได้รับผลประโยชน์จากกำไรเกินสมควรอันไม่เป็นธรรมในช่วงเวลาที่ผ่านมาโดยทันที เพื่อนำภาษีดังกล่าวมาช่วยลดราคาพลังงานและค่าครองชีพของประชาชนต่อไป

นายจตุพร เผยว่า ตอนนี้ประเทศไทยเดินทางมาถึงจุดต่ำสุด อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศไทยด้วยว่า ประชาขนต้องช่วยกันเข็นประเทศให้ผ่านวิกฤต แต่ตัวนายกฯ ท่านเป็นผู้ถือพวงมาลัยที่จะขับพาให้ชาติไปลงเหว ท่านควรจะลงไปคนเดียว นี่คือปัญหาพลังงานและแก๊ส เป็นกระบวนการเอารัดเอาเปรียบประชาชนมายาวนาน ก่อนที่จะมีสงครามเศรษฐกิจเข้ามา นอกจากนี้ ราคาปิโตเลียมไทยอิงกับราคาสิงคโปร์ คนไทยไม่เคยรู้ว่าไทยสามารถผลิตน้ำมันได้เพียง 10% เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และมาจากไหน ทั้งที่ไทยมีโรงกลั่นน้ำมัน 6 แห่ง ปตท. 4 สหรัฐอเมริกา 2 คนไทยเสียรู้กับ ปตท. ที่มีการคลังเป็นหุ้นใหญ่ รัฐบาลหลอกคนไทยมานาน กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ จะเงียบเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ เพราะน้ำมันราคาแพงทำให้ราคาสินค้าในตลาดมีราคาสูงขึ้น