“อนุทิน” ชี้ประชาชนประเมินเองใส่-ถอดหน้ากาก หลังประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยจะไม่มีการออกประกาศเรื่องใส่หรือถอดหน้ากากอนามัย แม้จะเปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น เชื่อจะใส่หรือถอดหน้ากากอนามัย อยู่ที่ประชาชนประเมินสถานการณ์หน้างานได้เอง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลง “Move on จาก Covid ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ” ของกระทรวงสาธารณสุข โดยเผยถึงสถานการณ์โควิดในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 3 พันรายต่อวัน และผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 30 รายต่อวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว ซึ่งเป็นผลเกิดจากการที่ประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตัวเองตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องสื่อสารเพิ่มดติมในการเตรียมความพร้อมของประชาชนใสการปรับวิถีชีวิตไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า การปรับเป็นโรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่าความรุนแรงของโรคจะลดลง เพียงแต่เป็นโรคที่จะต้องอยู่กับเรา และเราจะต้องอยู่กับมันในทุกช่วงของชีวิต แต่การเป็นโรคประจำถิ่นจะทำให้เกิดความคุ้นชิน มีความเข้าใจในการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ถึงแม้ว่าเราจะมีผู้คนมากมายที่ยังไม่ได้รับวัคซีนตามที่สมควรจะได้รับ ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งรณรงค์ให้ผู้ที่ไม่ยอมรับวัคซีนได้รับวัคซีนต่อไป ซึ่งทาง สธ.มีความพยายามที่จะคืนความเป็นปกติสุขให้กับประชาชนมากที่สุด มีการถอดหน้ากาก ใช้ชีวิตอย่างปกติ เปิดทุกอย่าง ไม่มีข้อจำกัดใดๆซึ่งเป็นเป้าหมาย เพียงแต่ว่าเราต้องใช้ความเข้าใจของสถานการณ์แต่ละคนด้วย ถ้าอยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยง เราก็สามารถนำหน้ากากมาใส่ได้ แต่ที่บอกว่าต้องมีกฎต้องมีประกาศให้ถอดหน้ากากคงไม่มีประกาศเช่นนั้น จะใส่ก็ใส่ จะถอดก็ถอด ประเมินสถานการณ์กันด้วยความรู้ที่เราได้ประสบมา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การที่มาถึงจุดนี้ได้เพราะเราได้รับวัคซีนกันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งไทยได้ฉีดวัคซีนตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ซึ่งทำให้เกิดภูมิคุ้มกันกระจายอย่างกว้างขวาง ซึ่งวัคซีนทุกชนิดมีประโยชน์ มีฤทธิ์ในการป้องกันโรคในแต่ละช่วงเวลา โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดวัคซีนให้มีความเพียงพอกับคนไทยทุกคน ไม่ใช่วัคซีนเหลือวัคซีนเกิน บางคนไปพูดหนักมาเป็นขยะ เอาขยะในบ้านไปไว้นอกบ้าน เรียนว่าไม่ใช่ขยะในบ้านไปไว้นอกบ้าน มันคือทองคำเป็นสิ่งที่มีค่าเอาไปไว้ในเครือข่ายเพื่อบริการกับประชาชน “ไม่มีใครปัญญาอ่อนพอที่จะเอาวัคซีนไปทิ้ง วัคซีนเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นของที่ควรจะอยู่ในร่างกายของประชาชนเพื่อให้เขามีความปลอดภัยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ขยะไม่สามารถบันดาลให้เกิดสิ่งดีๆเหล่านี้กับมนุษย์ได้”

 

 

ทั้งนี่นายอนุทิน ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจัดวัคซีน เวชภัณฑ์ และยาที่เป็นประโยชน์ และมีสรรพคุณในการรักษาประชาชน เราไม่มียาที่เอามาใช้เพื่อบรรเทาอาการ ลดอาการไปก่อนแล้วค่อยว่ากันที่หลังไม่มี อย่างไรก็ตามประเทศสมาชิกในภาคีต่างๆทั้งอาเซียน ต่างให้ความชื่นชมกับประเทศไทย แต่มีคนไทยที่ไม่ค่อยชื่นชม จึงต้องทำความเข้าใจกับเขาให้ได้ เราจะเอาสุขภาพของประชาชนเอามาเล่น เป็นตัวประกันไม่ได้ทั้งนั้น เรื่องสุขภาพ ชีวิตของประชาชน เรื่องการบริหารงานในกระทรวงสาธารณสุข ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่มีการต่อรอง

 

 

ส่วนประเด็นวัคซีนโควิด-19 ที่ชมรมแพทย์ชนบทออกมาให้ความเห็นว่าการกระจายวัคซีนจำนวน 16.8 ล้านโดสให้กับ รพ. สต. เป็นการนำวัคซีนไปทิ้งขยะหน้าบ้านเพื่อน นั้น นายอนุทิน ยืนยัน ไม่มีใครจะเอาวัคซีนโควิดออกไปทิ้งข้างนอก เพราะวัคซีนถือเป็นสิ่งที่มีค่า ยืนยัน ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข มีการจัดหาวัคซีนเวชภัณฑ์ ยา ทุกอย่าง ที่มีประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ว่าจะรักษาโควิดหรือโรคใดๆก็ตาม

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เขมรไม่ยอมจบแน่! เพจดังเปิดภาพดาวเทียม "เขาพระวิหาร" ตกอยู่ในวงล้อมฝ่ายทหารไทย จับตากัมพูชาเอาคืน
NARIT ชี้แจง ลูกไฟสีเขียวใหญ่บนฟ้า เสียงดังสนั่น  คาดเป็น "ดาวตกชนิดระเบิด" 
"สื่อกัมพูชา" ยอมรับแล้ว เขมรสร้างข่าวปลอม "กองทัพไทย" ใช้สารเคมีโจมตีทางทหาร
จันทบุรี ชาวกัมพูชาแห่กลับบ้าน หลัง "ฮุน" ปล่อยข่าวจะยึดที่ดินคืนหากไม่กลับ
แก๊งแว้นชาวคูเวตสร้างความเดือดร้อน ขี่รถจยย.เบิ้ลท่อเสียงดัง ชาวบ้าน อดหลับ อดนอน ทั้งคืน
“บิ๊กเล็ก” หวังประชุม GBC วันนี้ ราบรื่นด้วยดี ย้ำทีมเจรจาพร้อมปกป้องผลประโยชน์ชาติ รับไม่เคยเจอคู่กรณี แบบคนพูดอย่าง ทำอย่าง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​