บิ๊กตู่ไม่ประมาท…..เช็คเสียงรัฐบาลก่อนศึกใหญ่

นับถอยหลังเปิดสภา 22 พ.ค.นี้ ประยุทธ์เตรียมฝ่า 4 มรสุมใหญ่ ชี้ชะตารัฐนาวาเรือแป๊ะไปต่อหรือพอแค่นี้ อภิปรายงบประมาณ 66 กฎหมายลูก 2 ฉบับ ศึกซักฟอกปี 65 ปิดท้ายตีความนายกฯ 8 ปี ท่ามกลางข่าวลือแจกกล้วยพรรคเล็กคว่ำบิ๊กตู่ ฝ่ายค้านรุกหนักนัดพรรคเล็ก กลุ่ม 16 กล่อมย้ายขั้วสลับข้าง ฝ่ายประยุทธ์กินข้าวครม.ขอความมั่นใจหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ามรสุมไปด้วยกัน

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญ ประจำปี ครั้งที่1 ประจำปี พ.ศ.2565 ที่บังเอิญปีนี้การเปิดประชุมสภา 22 พ.ค.2565 ดันไปตรงกับวันสำคัญทางการเมือง ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครซึ่งไม่ได้มีการเลือกตั้งกันมานานเกือบ 9 ปีพอดิบพอดี ขณะที่การเปิดสภารอบนี้ดูเหมือนจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญครั้งสุดท้ายของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก่อนจะครบวาระการทำหน้าที่นายกฯเทอม 2 ในต้นปีหน้า

 

ด้วยเหตุที่อาจเป็นการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญครั้งสุดท้ายของบิ๊กตู่ แถมมีขึ้นในปีสุดท้ายก่อนครบกำหนดวาระการทำหน้าที่นายกฯคราวละ 4 ปี หนำซ้ำยังเป็นการทำหน้าที่นายกฯเป็นปีที่ 7 หลังเข้าควบคุมอำนาจและนั่งบริหารประเทศสืบทอดเรื่อยมาตั้งแต่ 22 พ.ค.2557 เปิดประชุมสภาเที่ยวนี้และนับออกไปอีก 4 เดือน ตั้งแต่ 22 พ.ค. -22 ก.ย.2565 จึงนับเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งอำนาจสุดสำคัญของพล.อ.ประยุทธ์อย่างแท้จริง อย่างที่รู้กันอยู่ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล เตรียมรับมีดรอเชือดพล.อ.ประยุทธ์อยู่เต็มแก่ ขณะที่นายกฯมี 4 ด่านหินสำคัญรอชี้ชะตาว่าจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ ประกอบด้วย 1. การพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ที่คาดว่าน่าจะเกิดในช่วงต้นเดือนมิ.ย. 2.การพิจารณากฎหมายลูก 2 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 3. การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ ม.151 และ 4.การวินิจฉัยตีความการนับอายุการทำหน้าที่ไม่เกิน 8 ปีของนายกฯ ซึ่งฝ่ายค้านมองว่าพล.อ.ประยุทธ์จะครบกำหนดหลักกเกณฑ์นี้ในวันที่ 23 ส.ค.2565 ไม่กี่เดือนนับจากนี้

ด้วยเหตุที่ว่าดังกล่าวนี้จึงทำให้การเมืองปีสุดท้ายของพล.อ.ประยุทธ์เทอม 2 ร้อนแรงและเขม็งเกลียวขึ้นตามลำดับ เพราะฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามเห็นช่องทางที่จะล้มบิ๊กตู่คว่ำนายกฯลงได้ก่อนกำหนดโดยไม่ต้องรอให้ครบวาระลากยาวไปถึงปี 2566 เนื่องจากเห็นลู่ทางรูหมารอดที่จะหักเขี้ยวพญาพยัคฆ์ตู่ชนิดได้ลุ้นอยู่เหมือนกัน โดยอาศัยจังหวะเวลารัฐบาลขาลง พรรคพลังประชารัฐเกิดสนิมแต่เนื้อในตน พรรคร่วมรัฐบาลไม่แน่นแฟ้นรักกันเหมือนเก่า รัฐบาลเจอมรสุมแวดล้อมหลายด้าน ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลให้น้ำมันพุ่ง ข้าวของแพงตามไปหมด โควิด -19 ก็ยังไม่จางหาย ที่สำคัญ 2 ป. อย่างบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อมดูเหมือนจะเกิดรายการขบเหลี่ยมกันเอง เรื่องกระแส “นายกฯสำรอง-นายกฯคนนอก” เรียกว่ามีปัญหาสารพัดจิปาถะเต็มไปหมด หนักสุดก็คือปัญหาภายในของพรรคร่วมรัฐบาลเอง โดยเฉพาะพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่การขับก๊วน “ผู้กองแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แม้จะทำให้ไม่มีหอกข้างแคร่ในพรรคและทำให้พลังประชารัฐมีเอกภาพมากขึ้น แต่อีกด้านก็ส่งผลเสียเพราะทำให้เสียงของรัฐบาลที่เคยมีมากถึง 267 เสียง คงเหลือแค่ 249 เสียงเท่านั้น เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรในปัจจจุบันที่มี 476 เสียง เกินกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียง ไปแค่ 11 เสียงเท่านั้น ขณะที่พรรคฝ่ายค้านมี 208 เสียง เพราะฉะนั้น 18 เสียงของพรรคเศรษฐกิจใหม่ก๊วนร.อ.ธรรมนัสที่ออกจากพรรคพลังประชารัฐไปจึงกลายเป็นตัวแปรทางการเมืองอีกกลุ่ม เฉกเช่นเดียวกับบรรดาพรรคเล็กที่ตอนนี้มีอยู่ 15-20 เสียงก็พร้อมสวิงไปอยู่ข้างรัฐบาลหรือฝ่ายค้านได้ทุกเมื่อ

ด้วยเหตุที่เป็นตัวแปรทางการเมืองจึงไม่แปลกที่จะมีข่าวแจกเงินแจกกล้วยซื้อใจพรรคเล็ก สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 5-30 ล้านบาท เป้าหมายอยู่ที่ 30 คน เท็จจริงเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ แต่เรื่องนี้มีระดับอาวุโสการเมืองอย่าง “ด็อกเตอร์สามสี” ไตรรงค์ สุวรรณคีรี จากพรรคประชาธิปัตย์ออกมาบอกว่าได้ยินข่าว เรื่องแบบนี้ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ แต่ตัวเลข 30 คนก็เท่ากับจำนวนที่พรรคฝ่ายค้านจะล้มบิ๊กตู่ได้พอที ไม่แปลกที่ช่วงนี้ส.ส.พรรคเล็กจะเนื้อหอมมากเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับพรรคตัวแปรอย่างเศรษฐกิจไทย ข่าวว่าอาทิตย์นี้จะถูกพรรคเพื่อไทยเชิญไปเสวนาด้วย ไม่แคล้วก็คงกล่อมให้มาอยู่ข้างเดียวกัน แถมตอนนี้หัวหน้ามุ้งกลุ่ม 16 อย่างพิเชษฐ์ สถิรชวาล ดันมีประเด็นงัดข้อเห็นต่างเรื่องท่อส่งน้ำเข้าอีอีซีกับทางกระทรวงการคลังอีก ที่เจ้าตัวประกาศพร้อมแตกหักกับรัฐบาลหากยังเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปแบบไม่ชอบมาพากล ที่สุดเลยเพิ่มประเด้นร้อนชวนปวดหัวให้นายกฯเพิ่มอีกเรื่อง เที่ยวนี้ก็ต้องดูว่ากำลังภายในใครจะล้ำลึกกว่ากัน ระหว่างปืนในมือรัฐบาลกับเงินในกระเป๋าของฝ่ายค้าน

มีเรื่องยากๆรออยู่เบื้องหน้าหลายด่าน งานนี้บิ๊กตู่เหมือนอ่านเกมส์ออกและไม่ประมาท  ว่าแล้วการประชุมครม.วานนี้ (3 พ.ค.2565) จึงชวนแกนนำรัฐบาลและครม.ทั้งคณะกินข้าวเที่ยงและหารือความพร้อมของพรรคร่สมรัฐบาลแต่ละพรรคในการรับมือศึกใหญ่ที่เตรียมเกิดขึ้นเร็วๆนี้ โดยบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่อย่าง อนุทิน จุรินทร์ วราวุธ ต่างๆก็ให้ความมั่นใจตรงกันพร้อมรับมือการอภิปรายพ.ร.บ.งบประมาณ 2566 รวมถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ เต็มร้อย โดยไม่มีการย้ายขั้วสลับข้าง ไม่มีส.ส.งูเห่า และ ไม่มีรายการรับงานล้มนายกฯ แต่อย่างใด จะมีหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รร่วมวงศ์ไพบูลย์อยู่กินข้าวด้วยคือพล.อ.ประวิตร แต่งานนี้ทางบิ๊กตู่ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยัน ไม่มีอะไรในก่อไผ่ระหว่าง 2 ป. ยังรักกันดีและคุยกันทุกวัน ขณะที่ฝากฝั่งพรรคพลังประชารัฐก็เตรียมการรับมือเป็นอย่างดี ล่าสุดสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคก็สั่งรัฐมนตรีทุกคนพีอาร์ผลงานในอดีต และเตรียมหาผลงานที่จะขายให้ชาวบ้านในอนาคต ขณะที่นิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาลก็เตรียมถกเรื่องพรรคเล็ก ปมพิเชษฐ และการเตรียมรับมือหลังเปิดสภากับที่ประชุมพรรค 5 พ.ค.นี้ หวังเคลียร์ให้จบกันก่อนหน้างานจริงจะได้ไม่มีปัญหา   จากนี้ก็ต้องดูว่าเมื่อถึงเวลาศึกใหญ่มาถึงจริงๆ บารมีบิ๊กป้อมพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ป๋าป้อมแห่งมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ที่เคยยืนกรานว่าคุมพรรคเล็กได้ และการันตีพรรคเศรษฐกิจไทยยังหนุนรัฐบาล จะพาน้องรักอย่างบิ๊กตู่รอดสันดอน 4 ด่านมหาประลัยไปได้หรือ
//////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ธรรมชาติวาดเส้นแบ่ง 'แม่น้ำสองสี' ไหลบรรจบในกานซู่
กลุ่มคนจีนยกพวกรุมทำร้ายเพื่อนบ้านเจ็บ 2 ดอดมอบตัวอ้างปากแจ๋ว เหตุเพราะไรเดอร์ส่งปูราคา 4 พันผิดบ้าน
ชาวบ้าน แตกตื่น พบ “ทารก” ใส่ถุงดำทิ้งริมทาง รีบแจ้ง ตำรวจ กู้ภัยฯ ตรวจสอบที่แท้เป็นตุ๊กตายาง
สงขลา แถลงจัด “Songkhla International Marathon 2025” เปิดศึกวิ่งนานาชาติ
ชาวอำเภอบัวเชด เร่งทำบังเกอร์ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดน
รมช.คลัง ลงพื้นที่ สมุทรสงคราม เปิดตัวโครงการ "ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ" หนุนการออมด้วยสลากดิจิทัลใบละ 50 บาท

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​