วันที่ 18 มิถุนายน – ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีพนักงานในรัฐสภาติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 รายว่า มาตราการป้องกันก็พยายามให้เกิดความเหมาะสมพอสมควร ไม่ได้เข้มงวดมากเกินไป หากเข้มงวดจนเกินไปการประชุมคงเกิดขึ้นได้ยาก แต่ไม่ได้แปลว่าหละหลวมแต่อย่างใด แม้มีมาตราการเป็นระเบียบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบุคคลที่จะปฎิบัติตามด้วย เช่น ในห้องประชุมสภา ที่ประธานสภาฯ เตือนหลายครั้งว่า ไม่ควรมี ส.ส. นั่งติดกัน แต่บ่อยครั้งก็ยังเห็นอยู่
นพ.สุกิจกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการติดเชื้อหลายครั้ง ทางฝั่ง ส.ว. 9 ราย ฝั่ง ส.ส 10 ราย รวมเป็น 19 ราย และใน 19 รายนี้ ทางสภาสามารถควบคุมไม่ให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ในสภาได้ เพราะทุกกรณีที่มีการติดเชื้อใช้ความพยายามในการตีกรอบ เพื่อหาบุคคลที่เกี่ยวข้องว่ากลุ่มไหนเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย ซึ่งมีการปรึกษากับทางผู้ชำนาญในเรื่องนี้
นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด 2 รายนั้น รายแรกเป็นพนักงานหญิงชาวไทยทำงานในส่วนของห้องอาหาร ทำหน้าที่เก็บจาน ในวันที่13 มิถุนายน 2564 ลูกชายของพนักงานหญิงท่านนี้ไปตรวจ แล้วพบว่าติดโควิด-19 พอทราบว่าลูกชายติดก็รีบไปตรวจ แล้วพบว่าติดโควิด-19 จากการสอบสวนโรค มีเสี่ยงสูง 4 ราย ซึ่งไปตรวจแล้วรอผล 2 ราย และรอส่งตรวจ 2 ราย ส่วนจำนวนผู้เสี่ยงต่ำมี 2 ราย ได้ให้กักตัวอยู่บ้าน ยังไม่ให้มาทำงาน
ส่วนอีกรายหนึ่ง เป็นหญิงไทย ข้าราชการบำนาญของรัฐสภา หากถามว่าทำไมถึงเข้ามาในสภาได้ ปกติสภาเปิดให้เข้ามาได้อยู่แล้ว เพียงแค่แจ้งวัตถุประสงค์ โดยรายนี้เข้ามาเพื่อทำงานให้ ส.ส. บางท่าน ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่เป็นวันประชุมสภาได้เข้ามา พอมาวันที่ 11 มิถุนายน มีอาการเป็นไข้ และเป็นไข้ประมาณ 3-4 วันไม่หาย จึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลวชิระ และวันที่ 16 มิถุนายน ทางโรงพยาบาลแจ้งผลว่าติดโควิด-19 ซึ่งพบกลุ่มผู้เสี่ยงสูง 4 ราย ให้กักตัว และรอผลตรวจ โดยรายนี้ไม่มีกลุ่มผู้เสี่ยงต่ำ
นพ.สุกิจ กล่าวยืนยันว่า ทางรัฐสภายังมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เอาอยู่ ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมร่วมรัฐสภา มาตราการจะมีความรัดกุม และเชื่อว่าตอนนี้ทุกคนตื่นตัว แล รู้ว่าต้องป้องกันตัวเองอย่างไร แต่ในวันลงมติ อาจมีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องจำนวนคน แต่หากนั่งลงมติ ในเวลา 15 นาที ทางกรมควบคุมโรค ก็บอกว่า ยังอยู่ในสภาวะความเสี่ยงต่ำ